โอกาสในการทำนายของแดนประมุขเต๋าเหลือเพียงครั้งสุดท้ายแล้ว ซึ่งมันมีความสำคัญต่อจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์อย่างยิ่ง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ยอมทำนายเบาะสายพิกัดของพวกเฟยเสว่ให้หลัวซิวอยู่แล้ว
“แล้วจีหงคือผู้ใด?”หลัวซิวถาม
“น่าจะเป็นคนในชนชั้นตระกูลจี แล้วเจ้าไปรุกรานชนชั้นตระกูลจีได้อย่างไร?”จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ถาม
“ชนชั้นตระกูลจี?”หลัวซิวขมวดคิ้วลงเล็กน้อย เมื่อก่อนเขาไม่เคยได้ยินกองกำลังนี้มาก่อนเลย
“การที่เจ้าไม่รู้จักชนชั้นตระกูลจีนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ปกติมาก เพราะคนในชนชั้นตระกูลจีอุบัติขึ้นมาในโลกาภายนอกน้อยมาก ตั้งแต่โบราณจวบจนปัจจุบัน ชนชั้นตระกูลจีก็เฝ้าดูแลรักษาสถานที่แห่งหนึ่งมาโดยตลอด”
“สถานที่ใดหรือ?”
“สะพานทะยานเซียน!”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย สะพานทะยานเซียนคือสถานที่แบบใดรึ?”หลัวซิวถามอีกครั้ง
แต่ทว่าครั้งนี้แม้แต่จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์เองก็ส่ายหน้าเช่นกันแล้วตอบกลับว่า: “ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้นที่ไม่ทราบ เหล่ามกุฎเต๋าก็ไม่ทราบเช่นกัน อดีตเคยมีมกุฎเต๋ามุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนชนชั้นตระกูลจี อยากไปดูสะพานทะยานเซียนซะหน่อย แต่กลับถูกชนชั้นตระกูลจีปฏิเสธ”
จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์มีชีวิตคงอยู่มายาวนาน ดังนั้นเขาจึงทราบข่าวลับต่าง ๆ เยอะมาก ฟังจากคำพูดของเขา มกุฎเต๋าที่ไปเยี่ยมเยียนชนชั้นตระกูลจีเมื่อปีนั้นก็คือมกุฎมังกรทั้งสองแห่งไท่ชู ศักยภาพของมกุฎมังกรไท่ชูคนหนึ่งที่อยู่ในมกุฎเต๋านับได้แค่ธรรมดา แต่ถ้าเกิดมกุฎไท่ชูสองคนร่วมมือกัน อิมเอี๊ยงรวมหนึ่ง เช่นนั้นในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลาย ก็ไม่มีคนใดที่เป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาทั้งคู่แล้ว
มาตรแม้นว่ามกุฎมังกรไท่ชูทั้งสองย่างกรายไปด้วยตนเอง ชนชั้นตระกูลจีก็ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองฝ่ายยิ่งถึงขั้นลงมือโจมตีกันยกใหญ่ แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง เพราะฝ่ายที่พ่ายแพ้คือมกุฎมังกรทั้งสอง!
และเริ่มตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ชนชั้นตระกูลจีก็ปล่อยข่าวว่ามีเพียงผู้ที่บรรลุเป็นเซียนเท่านั้น ถึงจะมีสิทธิ์มุ่งหน้าไปยังสะพานทะยานเซียน
ตั้งแต่โบราณกาลมา กาลเวลาได้ผ่านพ้นมายาวนานอย่างไม่รู้จบ แต่กลับไม่เคยมีคนบรรลุมรรคผลกลายเซียน ดังนั้นสะพานทะยานเซียนจึงเป็นปริศนาหนึ่งมาโดยตลอด
จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ชำนาญการทำนายดูดวง แต่ทว่าสิ่งต้องห้ามที่เป็นทำนองเดียวกับสะพานทะยานเซียน กลับเป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าทำนายง่าย ๆ นอกเสียจากเขาสามารถบรรลุถึงแดนเซียน บางทีถึงจะสามารถลองทำนายดูได้
จากข้อเรียกสองทั้งสองข้อที่หลัวซิวกล่าวมา แม้นจะไม่ได้รับคำตอบที่พึงพอใจจากจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ แต่ก็ทำให้เขาได้รับดอกผลที่ไม่น้อยเช่นกัน
“ข้ายังเหลือคำถามสุดท้าย เจ้าสามารถช่วยข้าทำนายตำแหน่งที่ตั้งของจ่างเทียนตี้ได้หรือไม่?”หลัวซิวถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
จ่างเทียนตี้เป็นกองกำลังที่มกุฎเต๋าสังสารวัฏริเริ่ม ทว่ามันกลับลึกลับมากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ร่องรอยในการเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมาก ไม่มีผู้ใดทราบเลยว่าสำนักงานใหญ่ของกองกำลังดังกล่าวตั้งอยู่ที่ใดกันแน่
ถ้าเกิดให้จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ทำนายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับมกุฎเต๋าสังสารวัฏ จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ต้องไม่กล้าแน่นอน แต่ถ้าเกิดแค่ทำนายตำแหน่งที่ตั้งของจ่างเทียนตี้ เช่นนั้นก็จะไม่ทำให้จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์แตะต้องข้อห้ามต่าง ๆ
สำหรับหลัวซิวแล้ว จ่างเทียนตี้เป็นกองกำลังที่เขาจำเป็นต้องโค่นล้มให้ได้ เพราะมูลเหตุไม่ได้มีแค่เขาและมกุฎเต๋าสังสารวัฏเป็นศัตรูคู่อาฆาต แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ นั่นก็คือการตายของจี้หวูชวงเกิดจากฝีมือของจ่างเทียนตี้!
บางทีในยุคสมัยที่วุ่นวายนั้น จี้หวูชวงเป็นเพียงมหาจักรพรรดิยุทธ์เก้ากงล้อเล็ก ๆ คนหนึ่ง ยังไม่ถึงขั้นให้มกุฎเต๋าสังสารวัฏออกคำสั่งกำจัดนางทิ้ง แต่ในเมื่อเรื่องนี้เป็นฝีมือของจ่างเทียนตี้ หลัวซิวก็ไม่มีทางนิ่งดูดายแน่นอน
……
ตำแหน่งที่ตั้งของจ่างเทียนตี้ตั้งอยู่บนอาณาจักรดาราอันรกร้างว่างเปล่าที่ซ่อนเร้นจากโลกาภายนอกแห่งหนึ่ง ต่อให้มีคนเดินทางผ่านพื้นที่บริเวณนั้น ก็แค่จะมองเห็นห้วงดาราที่รกร้างว่างเปล่าแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเพียงระดับฝีมือบนวิถีค่ายบรรลุถึงแดนประมุขเต๋าค่าย ถึงจะสามารถค้นพบว่าแท้จริงแล้วมันถูกค่ายกลขนาดใหญ่ค่ายหนึ่งปิดบังอยู่
โครม!
วันนี้ จู่ ๆ ดาราที่เป็นตำแหน่งที่ตั้งของสำนักงานใหญ่จ่างเทียนตี้ก็สั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง บนท้องฟ้ามีรอยร้าวขนาดใหญ่ปรากฏหลายจุด ไม่รู้ว่าค่ายพิทักษ์เขาระดับประมุขเต๋าถูกพลังโจมตีที่น่ากลัวและดุดันเช่นไรโจมตี ส่งผลให้ค่ายพิทักษ์เขาเริ่มแตกร้าวด้วยระดับความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยเนื้อตาเปล่า
“ข้าศึกบุก!”
จอมยุทธ์คนแรกที่มองเห็นสถานการณ์นี้ตะโกนเสียงดัง เสียงของเขาได้รับการปลุกเสกจากผลการฝึกตน ทำให้สะท้อนไปทั่วสำนักงานใหญ่ของจ่างเทียนตี้ภายในพริบตา
ผู้แข็งแกร่งแต่ละคนต่างเดินออกมาจากสถานที่ฝึกตนของตัวเอง มีผู้แข็งแกร่งประมุขเต๋าสองคนเป็นผู้นำ ต่างพากันแหงนหน้ามองไปทางท้องฟ้าที่แตกร้าวอย่างตกตะลึงและสงสัย
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? เหตุใดสำนักงานใหญ่ของจ่างเทียนตี้เราจึงถูกโจมตี?”ประมุขเต๋าคนหนึ่งพูดกระแทกเสียงต่ำ
“เพล้ง!”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงแตกร้าวดังขึ้น จากนั้นก็มีช่องโหว่หนึ่งจุดปรากฏบนท้องฟ้า แล้วมีเงาดำร่างหนึ่งเดินเข้ามา เงาร่างดังกล่าวอยู่ในชุดคลุมยาวดำ สีหน้าอารมณ์เย็นเยือก
“เจ้าคือ……”เมื่อประมุขเต๋าทั้งสองมองเห็นเงาร่างที่ปรากฏ สีหน้าอารมณ์ก็เปลี่ยนไปเยอะมาก
“กูเป็นผู้ที่จะมาสังหารพวกมึง”
หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ชื่อและสมญานามของเขาคือนายจ้าวซิวหลัว และคำว่าซิวหลัวก็เป็นความหมายของการสังหารอย่างไร้ขอบเขต!
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น อาณาจักรไร้ลักษณ์ที่น่าสยดสยองก็แผ่ขยายออกไปจากตัวหลัวซิว ภายในอาณาจักร มีพลังอมตะต่าง ๆ นานาที่ถูกวิวัฒนาการออกมาโดยไร้ลักษณ์ ตรีภพหยินหยาง เบญจธาตุลมอัสนี ความเป็นตายห้วงเวลา พลังธรรมวิถีทั้งปวงล้วนถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสบายมือ แล้วปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่
อาณาจักรของเขาได้ทำการปกคลุมทั้งดาราที่เป็นที่ตั้งของจ่างเทียนตี้เอาไว้ ในเมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว ก็วางแผนที่จะทำการกวาดล้างอย่างยิ่งใหญ่ เขาจะไม่ปล่อยให้เหยื่อเล็ดลอดออกไปจากเงื้อมมือแม้แต่ตัวเดียว
“ส่งข่าวไปยังมกุฎเต๋า ขัดขวางมันเอาไว้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...