มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3034

ความเร็วของเข็มทิศสาส์นเต๋ารวดเร็วจนไม่สามารถจินตนาการได้ เพียงพริบตาเดียว ก็หายไปจากขอบฟ้าแล้ว

ฟ้าดินที่ถูกแสงเซียนที่ไร้ขอบเขตส่องสว่างค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อชายชุดคลุมยาวม่วงเงยหน้ามองขึ้นไปอีกครั้ง สีหน้ากลับหม่นหมองลงไปในทันที

เนื่องจากในบรรดาผีเฮี้ยนทั้งหกตนที่วางแผนจะขัดขวางการหลบหนีของหลัวซิวในตอนแรก ถึงขั้นมีสามตนระเบิดแตกจนเสียงดังปั้ง กลายเป็นหมอกสีดำไปแล้ว

“ช่างเป็นพลังอมตะที่ทรงพลังยิ่งนัก จากผลการฝึกตนของเขา ต่อให้ปลดปล่อยพลังอมตะเซียนชั้นฟ้า ก็ไม่มีทางมีพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ตกลงมีความลับอะไรซ่อนอยู่บนตัวนายจ้าวซิวหลัวคนนี้กันแน่?”

ชายชุดคลุมยาวม่วงเพ่งมองไปยังตำแหน่งทิศทางที่หลัวซิวจากไป เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าร่างกายของผีเฮี้ยนเหล่านั้นสามารถเทียบทัดภัณฑ์เต๋าชั้นสูง มาตรแม้นว่าเป็นกึ่งเซียนอย่างเขา ก็ทำลายภัณฑ์เต๋าชั้นสูงได้ยากมาก จึงแสดงให้เห็นเลยว่าพลานุภาพของพลังอมตะในเมื่อครู่นี้ของหลัวซิวทรงพลังมากเพียงใด

“เจ้าสามารถหนีได้ชั่วขณะ แล้วจะสามารถหนีได้ทั้งชีวิตหรือ?”

ชายชุดคลุมยาวม่วงทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง เห็นเพียงเขายกนิ้วมือขึ้นมาหนึ่งนิ้ว แล้ววาดลงกลางอากาศที่ว่างเปล่าครั้งหนึ่ง ประตูมิติบานหนึ่งจึงปรากฏ ก่อนที่เขาจะย่างเท้าก้าวเข้าไปในประตู

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของเข็มทิศสาส์นเต๋าเป็นหนึ่งไม่เป็นรอง ในยุคปัจจุบัน นอกเสียจากมีเซียนบังเกิด มิเช่นนั้นจักไม่มีคนใดสามารถไล่ตามความเร็วในการเคลื่อนที่ของเข็มทิศสาส์นเต๋าได้

และเป็นเพราะมีสมบัติอย่างเข็มทิศสาส์นเต๋านี่แหละ หลัวซิวถึงมีความมั่นใจที่แน่นอนไปเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งทั้งปวง เนื่องจากต่อให้เขาสู้ไม่ไหว หากต้องการหนี ก็ไม่มีคนใดสามารถหยุดยั้งเขาได้

การปรากฏของชายชุดคลุมยาวม่วง ทำให้ระฆังเตือนภัยในใจหลัวซิวดังขึ้น เพราะขณะที่เข้าไปในวังเซียนบรรพกาล ในบรรดามกุฎเต๋าทั้งหลาย ไม่มีบุคคลเช่นนี้แน่นอน

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่มีทางเป็นผู้ไร้นามในห้วงดาราแน่นอน นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกว่าเหมือนกำลังมีแผนการร้ายที่ยิ่งใหญ่เตรียมปะทุในวังเซียนบรรพกาล

……

โครม!

มีศพของอสูรยักษ์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งล้มลงไปกับพื้นจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น มกุฎเต๋าหวูซินง้างมือปล่อยหนึ่งกระบวนท่า หอคอยเสวียนเหลืองบินกลับมาลอยอยู่กลางฝ่ามือเขา

ตั้งแต่เข้ามาในวังเซียนบรรพกาล เขาก็ลึกเข้าไปยังส่วนลึกของวังเซียนบรรพกาลมาโดยตลอด ตลอดทางก็สังหารอสูรโหดระดับประมุขเต๋าไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ในที่สุดก็มาถึงสถานชำระของทั้งแปดโลกาสักที

ส่วนเหล่าผู้แข็งแกร่งจำนวนมากที่เขาพาเข้ามาด้วย กลับตายเป็นตาย บาดเจ็บเป็นบาดเจ็บ บัดนี้เหลือเพียงประมุขเต๋าไม่กี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่

มกุฎเต๋าหวูซินก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้ อสูรโหดที่อยู่ในวังเซียนบรรพกาลแข็งแกร่งมากเกินไป อ่อนสุดก็เป็นระดับประมุขเต๋า มีอสูรโหดบางส่วนยิ่งสามารถเทียบเคียงกับมกุฎเต๋าแล้ว

ทันใดนั้นเอง ก็มีคลื่นปริภูมิปรากฏ มกุฎเต๋าหวูซินเงยหน้ามองขึ้นไป เห็นเพียงมีระลอกคลื่นปรากฏบนกลางอากาศที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล จากนั้นก็มีประตูมิติบานหนึ่งปรากฏ แล้วมีชายชุดคลุมยาวม่วงที่สวมใส่หน้ากากเดินออกมา

“เจ้า……”

เสี้ยววินาทีที่ชายชุดคลุมยาวม่วงปรากฏ มกุฎเต๋าหวูซินก็สัมผัสพลังอำนาจที่แข็งแกร่งได้จากตัวฝ่ายตรงข้ามทันที

เขาคือมกุฎเต๋าขั้นสุดยอด ตลอดกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านพ้นมาอย่างไม่รู้จบ ในจักรวาลสามโลกานี้ ไม่มีคนใดที่สามารถทำให้เขาสัมผัสได้ถึงแรงกดอัดเช่นนี้ เขาคือหนึ่งในมกุฎเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลสามโลกา

กระทั่งต่อมา มกุฎเต๋าสังสารวัฏอาศัยหนืดอมฤตตรีภพก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียนในรวดเดียว มกุฎเต๋าหวูซินก็เคยสัมผัสแรงกดอัดเช่นนี้จากตัวมกุฎเต๋าสังสารวัฏแล้ว แต่ว่าแรงกดอัดของชายชุดคลุมยาวม่วงที่อยู่ตรงหน้ากลับแข็งแกร่งกว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏหลายเท่าตัวเลย

“หวูซิน ข้าจักให้เจ้าตัดสินใจเอง จักยอมศิโรราบต่อข้าหรือตาย!”ดวงตาที่ซ่อนอยู่ด้านหลังหน้ากากของชายชุดคลุมยาวม่วงเพ่งมองไปทางมกุฎเต๋าหวูซิน

เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าว มกุฎเต๋าหวูซินก็ผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นเมื่อเขาได้สบตากับดวงตาคู่นั้น สีหน้าอารมณ์ก็เข้มงวดขึ้นมาทันที “ที่แท้ก็คือเจ้านี่เอง! จีชูหยาง!”

“สรุปเจ้าเลือกที่จะตายหรือ?”

ชายชุดคลุมยาวม่วงไม่ได้ยอมรับ และไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน ทว่าดวงทั้งสองข้างกลับเย็นเยือกลงกะทันหัน กระบี่ยาวแสงดาวปรากฏในมือ

มกุฎเต๋าหวูซินหันไปสบตากับเหล่าประมุขเต๋าที่อยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่เข้าใจบทสนทนาระหว่างมกุฎเต๋าหวูซินและชายชุดคลุมยาวม่วงด้วยซ้ำ และสิ่งที่ทำให้พวกเขาช็อกยิ่งกว่านั้นคือ ชายชุดคลุมยาวม่วงคนนี้คือผู้ใดกันแน่? แล้วจีชูหยางคือผู้ใด? ไม่นึกเลยว่าจะให้มกุฎเต๋าผู้สูงส่งยอมศิโรราบต่อเขาอย่างนั้นหรือ?

“ไม่นึกเลยว่าตระกูลจีที่เฝ้าดูแลสะพานทะยานเซียนกันมารุ่นสู่รุ่นโดยไม่เคยก้าวเท้าออกมาปรากฏสู่โลกาภายนอกจะมีความทะเยอทะยานที่แรงกล้าเช่นนี้ คิดจะให้มกุฎอย่างข้าศิโรราบ? เจ้าฝันไปเถอะ!”มกุฎเต๋าหวูซินหัวเราะอย่างเยือกเย็น ในฐานะที่เป็นหนึ่งในมกุฎเต๋าที่แข็งแกร่งที่สุด เขาจะมีทางยอมศิโรราบต่อผู้อื่นได้อย่างไร?

อย่าว่าแต่แค่จีชูหยางคนหนึ่งเลย ต่อให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นเซียน แม้นหวูซินเขาต้องตาย ก็ไม่มีทางยอมก้มหัวเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป

“เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายซะเถอะ”

ชายชุดคลุมยาวม่วงค่อย ๆ ง้างกระบี่ยาวแสงดาวที่อยู่ในมือขึ้นมา เห็นเพียงมีแสงดาวที่ไร้ขอบเขตแย้มบาน แล้วมีทางช้างเผือกที่แวววาวจับตาสายหนึ่งปรากฏ

ใบหน้ามกุฎเต๋าหวูซินไร้ความรู้สึก เขาเป็นคนที่ไม่มีแม้แต่หัวใจ จึงไม่มีเกรงกลัวอะไรเลยด้วยซ้ำ และไม่มีความรู้สึกหวาดกลัวด้วย

เห็นเพียงแหวนเก็บของที่อยู่บนนิ้วมือเขากระพริบทีหนึ่ง ฮู้สีแดงฉานที่มีออร่าเซียนตลบฟุ้งก็ปรากฏในมือมกุฎเต๋าหวูซิน

“ฮู้เพลิงนภา?”เมื่อเห็นฮู้ที่อยู่ในมือมกุฎเต๋าหวูซิน สีหน้าของชายชุดคลุมยาวม่วงจึงเปลี่ยนไป

“ดูท่าเจ้าก็มีความรู้ไม่น้อยเลยนี่ เช่นนั้นก็คอยดูแล้วกันว่าเจ้าหรือข้าที่ต้องตาย”มกุฎเต๋าหวูซินหัวเราะอย่างเยือกเย็น โคจรแรงเต๋า แล้วกระตุ้นฮู้ชิ้นนี้ภายในพริบตา

ตู้มม!

ไม่ให้โอกาสชายชุดคลุมยาวม่วงได้พูดอะไรด้วยซ้ำ ก็มีเพลิงอัคคีสีแดงฉานที่ไร้ขอบเขตระเบิดออกมาจากฮู้จนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ทุกสรรพสิ่งที่อยู่รอบ ๆ ล้วนถูกเพลิงอัคคีม้วนซัด ดูดกลืน ทำลายล้าง

ฮู้เพลิงนภาเป็นไพ่เด็ดท่าไม้ตายของมกุฎเต๋าหวูซินมาโดยตลอด นี่คือฮู้ระดับเซียนชิ้นหนึ่ง หากผู้กระตุ้นฮู้คือเซียนผู้แข็งแกร่งละก็ พลานุภาพของฮู้เพลิงนภาก็เพียงพอที่จะสามารถสังหารผู้แข็งแกร่งทั้งปวงที่อยู่ต่ำกว่าเซียนดิน

แม้นมกุฎเต๋าหวูซินจักไม่ใช่เซียน ทว่าจากการกระตุ้นของเขา พลานุภาพที่ระเบิดออกมาจากฮู้เพลิงนภาก็สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งทั้งปวงที่อยู่ต่ำกว่าเซียนได้อย่างแน่นอน

ร่างกายของชายชุดคลุมยาวม่วงและมกุฎเต๋าหวูซินจมหายไปในเพลิงอัคคีที่ไร้ขอบเขต เหล่าประมุขเต๋าที่มกุฎเต๋าหวูซินพามาด้วยยังตอบสนองกลับมาไม่ได้ ก็ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ในเพลิงอัคคีไปแล้ว

……

เข็มทิศสาส์นเต๋าและปริภูมิหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง หากไม่ใช่ประมุขเต๋าที่มีตัวสำนึกแข็งแกร่ง ต่อให้เข็มทิศสาส์นเต๋าบินผ่านหัวเขา คนคนนั้นก็สัมผัสไม่ได้

“หากไม่ใช่เพราะข้ามีตัวหยั่งรู้ไร้รูป พลังอำนาจที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เกรงว่าแม้แต่เซียนก็คงต้านทานไม่ไหวสินะ?”

แม้นตัวหยั่งรู้ไร้รูปไม่ได้รับผลกระทบจากพลังอำนาจดังกล่าว แต่หลัวซิวก็ยังสามารถสัมผัสความน่าสยดสยองของพลังอำนาจนี้ได้อยู่เช่นเคย

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดหลัวซิวก็มาถึงจุดที่สูงที่สุดของเสาเหล็กเสานี้สักที เนื่องจากเสาเหล็กกว้างใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พื้นที่ตรงจุดที่สูงที่สุดจึงเหมือนดั่งสนามจัตุรัสที่กว้างใหญ่แห่งหนึ่ง

ทั้งสนามไม่มีผู้คนเลย ว่างเปล่ามาก เดิมทีหลัวซิวคิดว่าจะเจอเบาะแสมีมูลค่าที่สามารถคลี่คลายปริศนาของบุกเบิกเซียนโบราณ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลย

เนื่องจากมีพลังอำนาจแข็งแกร่งกดอัดตัวหยั่งรู้ หลัวซิวจึงไม่สามารถแผ่ขยายตัวสำนึกออกไปได้ด้วยซ้ำ ในขณะที่เขาวางแผนจะจากไปอยู่นั้น จู่ ๆ หางตาก็เหลือบไปเห็นแสงสีเขียวดวงหนึ่ง

หลัวซิวรีบย่างเท้าเดินตรงไป จากนั้นก็เห็นม้วนหยกสีเขียวชิ้นหนึ่ง

“ข้ามีนามว่าหยุนหลง……”

เสี้ยววินาทีที่ตัวสำนึกของหลัวซิวสัมผัสกับม้วนหยกชิ้นนี้ ก็มีเสียงที่แก่ชราและเหมือนผ่านโลกมาอย่างโชกโชนดังขึ้นมาในตัวหยั่งรู้ของเขา

ราชาเซียนหยุนหลง!

หลัวซิวนึกไม่ถึงเลยว่าม้วนหยกชิ้นนี้ จะเป็นของที่ราชาเซียนหยุนหลงทิ้งไว้ที่นี่

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ในเสียงของราชาเซียนหยุนหลงที่อยู่ในม้วนหยก ยังมีการกล่าวถึงความลับหนึ่งที่น่าทึ่งมาก!

อ้างอิงจากคำพูดของราชาเซียนหยุนหลง เสาเทพค้ำฟ้าที่เต็มไปด้วยขี้สนิมนี่มีนามว่าเหล็กเซียนชั้นกล้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ราชาเซียนหยุนหลงได้รับมาขณะสำรวจสถานโบราณแดนปริศนาแห่งหนึ่ง

แต่ทว่าขั้นตอนการที่ได้รับเหล็กเซียนชั้นกล้ามา มีราชาเทียนอีกองค์ปรากฏ ซึ่งมีนามว่าราชาเซียนเฺฉว่โยว

เพื่อเป็นการช่วงชิงเหล็กเซียนชั้นกล้า ราชาเซียนทั้งสองจึงลงมือต่อสู้กันอย่างยิ่งใหญ่ สุดท้ายราชาเซียนหยุนเซียนก็เป็นฝ่ายที่แข็งแกร่งกว่า

เหล็กเซียนชั้นกล้าคือวัตถุโบราณกาล ตำนานเล่ากันว่ามันมีความสามารถที่สามารถสยบสะกดเหล่าเซียน ฉะนั้นหลังจากได้รับสมบัติชิ้นนี้มา ราชาเซียนหยุนหลงก็ออกจากโลกเซียน เพราะเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าทันทีที่ข่าวคราวของเหล็กเซียนชั้นกล้าแพร่งพรายออกไป ต้องส่งผลให้ราชาเซียนแข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วน ตลอดจนผู้มีอิทธิพลที่อยู่เหนือราชาเซียนไล่ล่าตัวเองแน่นอน

อย่างไรก็ตามหลังจากกาลเวลาอันยาวนานผ่านพ้นไป ราชาเซียนหยุนหลงได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขแล้ว กระทั่งวันหนึ่ง ราชาเซียนเฺฉว่โยวก็ปรากฏตัวกะทันหัน

กระทั่งเวลานั้นราชาเซียนหยุนหลงถึงจะรู้ว่า ขณะที่ช่วงชิงเหล็กเซียนชั้นกล้า ราชาเซียนเฺฉว่โยวก็ได้ทำการร่ายสัญลักษณ์ซ่อนเร้นหนึ่งไว้ในร่างกายเขาแล้ว ฉะนั้นไม่ว่าเขาจะหลบซ่อนไปยังสถานที่ใด ราชาเซียนเฺฉว่โยวก็สามารถเจอตัวเขาอยู่ดี

และราชาเซียนเฺฉว่โยวก็ไม่เคยบอกข่าวคราวของเหล็กเซียนชั้นกล้าให้ผู้ใดเช่นกัน เพราะถ้าเกิดข่าวเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ต่อให้หยุนหลงถูกสังหาร ราชาเซียนเฺฉว่โยวก็ไม่มีทางแย่งเหล็กเซียนชั้นกล้ามาจากมือเหล่าผู้มีอิทธิพล

การได้ประมือกันอีกครั้ง ศักยภาพของราชาเซียนเฺฉว่โยวแข็งแกร่งมากกว่าเก่า ซึ่งอยู่เหนือราชาเซียนหยุนหลงแล้ว ศึกสงครามในครั้งนั้นได้สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพี สุดท้ายราชาเซียนทั้งสองก็แทบจะดับสลายสูญสิ้นไปพร้อมกัน

ก่อนราชาเซียนหยุนหลงจะดับสลายสูญสิ้น เขาได้ใช้เหล็กเซียนชั้นกล้าเป็นฐานค่าย ยึดโลกาทั้งแปดเป็นธงค่าย ทำการปิดผนึกราชาเซียนเฺฉว่โยวเอาไว้ในโลกาวังเซียนแห่งนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ