มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3036

เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ประมุขเต๋าช่วงปลายไม่ใช่คู่ต่อสู้เลยสักนิด ได้รับบาดเจ็บหนักไปในทันที สูญเสียซึ่งความสามารถในการต่อสู้ไป

เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ จีไป๋ก็มีท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หัวใจตกไปถึงตาตุ่ม ตระกูลจีเฝ้าปกป้องสะพานทะยานเซียนมาหลายชั่วอายุคน มิใช่การสืบทอดธรรมดาทั่วไป ภายใต้ผลการฝึกตนในแดนเดียวกัน ผู้แข็งแกร่งของตระกูลจีสามารถเอาชนะนักยุทธ์คนอื่น ๆ ในห้วงดาราได้อย่างแน่นอน

ด้วยผลการฝึกตนในแดนประมุขเต๋าช่วงปลาย ต่อให้เผชิญหน้ากับมกุฎเต๋า แม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ก็ไม่มีทางถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บง่าย ๆ แบบนี้แน่

ในตอนที่จีไป๋มีสีหน้าเปลี่ยนไปนั่นเอง หลัวซิวได้ต่อยหอคอยเทพลอยออกไปด้วยหนึ่งหมัด และได้แวบมาปรากฏตรงหน้าของเขาภายในพริบตา

แสงเซียนกระจายไปทั่วร่าง ในตอนที่ขับเคลื่อนผลการฝึกตนอย่างเต็มกำลัง แสงเซียนที่อยู่บนร่างของหลัวซิวจะเพียบพร้อมไปด้วยประสิทธิภาพของพลังอมตะสรรพวิถีล้วนว้าง ตราบใดที่พลังอมตะใด ๆ ก็ตามที่โจมตีเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังแห่งเกณฑ์ธรรมเวช จักต้องทะลุผ่านแสงเซียนไร้ลักษณ์ถึงจะทำอันตรายร่างกายของเขาได้

“ตึง!”

หลัวซิวต่อยออกไปหนึ่งหมัด พลังอันแข็งแกร่งได้ทะลวงผ่านไปในอนัตตาหมื่นลี้ภายในพริบตา อานุภาพแห่งมัดเฉกเช่นทลายฟ้าดิน ซึ่งมิอาจต้านทาน

จีไป๋มีสีหน้าเคร่งขรึม ร่างถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดาบยาวเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาในมือ หนึ่งดาบฟันออกไป ฉีกฟ้าผ่าแผ่นดิน ดวงแสงดาบกระทบเข้ากับหมัดของหลัวซิว

เสียงสนั่นหวั่นไหวดังสะท้อนไปในอนัตตา แรงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวม้วนกลืนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ กลายเป็นวงกลม เหมือนดั่งดวงอาทิตย์แขวนอยู่บนท้องฟ้า

แรงดิบอันแข็งแกร่ง ทำให้ร่างของจีไป๋ที่อยู่ตรงข้ามก้าวถอยหลังไป ร่างของหลัวซิวยังคงอยู่นิ่งไม่ขยับ ทว่ากลับมีรอยเลือดปรากฏขึ้นมาบนกำปั้น เลือดสด ๆ ไหลออกมา

ไร้ลักษณ์ผันแปรพลังแห่งชีวิต รอยแผลบนกำปั้นจึงสมานอย่างรวดเร็ว หายไปอย่างไร้ร่องรอยในพริบตา

ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของเขาเพิ่งขัดเกลาถึงขั้นภัณฑ์เต๋าชั้นกลาง ส่วนดาบยาวที่อยู่ในมือของจีไป๋กลับเป็นภัณฑ์เต๋าชั้นยอด เขาได้รับบาดเจ็บก็เป็นเรื่องธรรมดา

ทว่าที่ตกตะลึงยิ่งกว่ายังคงเป็นจีไป๋ ดูเหมือนว่าดาบนั้นของเขาได้ทำให้หลัวซิวบาดเจ็บ แต่กลับทราบดีว่าบาดแผลเล็ก ๆ เช่นนี้อย่าว่าแต่มกุฎเต๋าเลย ต่อให้เป็นเทพมารคนหนึ่งก็ไม่นับอะไร ทว่าเขากลับถูกกระแทกจนถอยหลัง มือที่ถือดาบก็ถูกกระแทกจนมือชา ผู้ใดเป็นต่อผู้ใดเป็นรอง ตัวเขาเองนั้นทราบเป็นอย่างดี

ที่สำคัญก็คือ หลัวซิวยังมิได้ใช้ดาบโลหิตหักเซียนออกมา ฝีมือของเขาก็ร้ายกาจเช่นนี้แล้ว หากเขาใช้ดาบโลหิตหักเซียนละก็ ตนจะสามารถต้านทานได้หรือ?

คิดมาถึงตรงนี้ ใจของจีไป๋ก็เริ่มถดถอยขึ้นมา ส่วนเหล็กเซียนชั้นกล้าได้ถูกหลัวซิวเอาไปหรือไม่นั้น เขาไม่มีเวลาไปใส่ใจแล้ว เกรงว่าคงมีเพียงให้หัวหน้าเผ่าลงมือด้วยตนเองถึงจะควบคุมตัวหลัวซิวได้

ในตอนนี้เอง หลัวซิวได้อาศัยการปลุกเสกเบิกเนตรของกฎปริภูมิกับความเร็วสองขั้นโจมตีเข้ามาอีกครั้ง สองมือของเขาวาดตราพร้อมกัน ตราเบญจธาตุสูญพันธุ์สองสายถูกซัดออกไป

จีไป๋เรียกหอคอยเทพกลับคืนมาโดยเร็ว เห็นเพียงว่าตราเบญจธาตุสูญพันธุ์ทั้งสองสายกระแทกลงไปบนหอคอยเทพ ทั่วท้องนภาได้ถูกกระแสคลื่นสะเทือนจนแตกกระจาย

เงาร่างสายหนึ่งลอยถอยออกไป พลังอันแข็งแกร่งผ่านหอคอยเทพเข้ามากระทบสู่ร่าง ทำให้จีไป๋แทบกระอักเลือดออกมา

เลือดระเบิดเป็นหมอกโลหิต มือของหลัวซิวเองก็ถูกพลังสะท้อนกลับสะเทือนจนเลือดไหลหยดย้อย หอคอยเทพของจีไป๋เองก็เป็นภัณฑ์เต๋าชั้นยอด

ต่อให้เป็นบรรดามกุฎเต๋า ก็มีเพียงระดับชั้นยอดแค่ไม่กี่คนที่มีภัณฑ์เต๋าชั้นยอดสองชิ้นอยู่ในมือ เห็นได้ว่ารากฐานของตระกูลจีนั้นร้ายกาจเพียงใด

“ดูท่าคงต้องใช้ดาบหักเซียนแล้ว จะลองอานุภาพของเหล็กเซียนชั้นกล้าหน่อยไหม?”

ในตอนที่หลัวซิวกำลังจะใช้กระบวนท่าสังหารออกมานั่นเอง จีไป๋ที่อยู่ตรงข้ามก็ได้พ่นแก่นเลือดออกมา เห็นเพียงโลหิตสายแล้วสายเล่าได้เบ่งบาน ร่างของจีไป๋หายไปทันที ไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้เลย

ในขณะเดียวกัน ประมุขเต๋าช่วงปลายอีกสองคนเองก็ได้พาพรรคพวกที่บาดเจ็บหนักบีบยันต์ทะลุฟ้าแผ่นหนึ่ง ทะลวงอนัตตา แล้วเหาะหนีไปในทันที

ประมุขเต๋าช่วงปลายกับมกุฎเต๋าต้องเป็นบุคคลระดับสูงของตระกูลจีอย่างแน่นอน ต่างมีหนทางรักษาชีวิตอยู่ในมือ แม้ว่าหลัวซิวจะมีฝีมือเหนือพวกเขา แต่ก็ยากรั้งพวกเขาเอาไว้ได้

เงาร่างขยับ หลัวซิวเองก็ไปจากที่นี่ เขาเพิ่งกลั่นแปรเหล็กเซียนชั้นกล้าไปเมื่อสักครู่ ยังต้องใช้เวลาเพื่อทำความคุ้นชินกับภัณฑ์เซียนชิ้นนี้ แบบนี้ถึงจะสามารถแสดงอานุภาพของภัณฑ์เซียนชิ้นนี้ออกมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ