มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3037

ตำแหน่งที่เหล็กเซียนชั้นกล้าหายไป เงาร่างของราชาเซียนเฉว่โยวลอยอยู่กลางอากาศ ขมวดคิ้วอยู่ตลอดเวลา เงียบอยู่เป็นเวลานาน

ผู้ที่เอาเหล็กเซียนชั้นกล้าไปนั้นทำให้เขารู้สึกหวั่นเกรง ตอนนั้นในเมื่อเขากับราชาเซียนหยุนหลงสามารถลงมายังโลกามนุษย์ บางทีอาจมีคนรู้ร่องรอยของเหล็กเซียนชั้นกล้าได้ตามเบาะแสบางอย่าง ดังนั้นจึงได้ลงมายังโลกามนุษย์เหมือนกัน

“หากคนที่เอาเหล็กเซียนชั้นกล้าไปเป็นเซียนชั้นฟ้าผู้หนึ่งจริง และอีกฝ่ายต้องการต่อกรกับข้าละก็ เช่นนั้นไม่ว่าข้าจะอยู่ที่นี่หรือออกไปยังภายนอก ต่างก็มีผลลัพธ์เช่นเดียวกัน”

หลังจากที่เงียบอยู่แสนนาน ราชาเซียนเฉว่โยวยื่นมือออกไปคว้า ญาณเทวร่างมนุษย์สายหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของเขา

ปกติแล้วหลังจากได้ฝึกตนจนถึงแดนประมุขเต๋า ขอเพียงมีวรยุทธ์กลั่นวิญญาณที่ไม่เลว ช่องจิตที่แปลงมาจากวิญญาณดั้งเดิมส่วนมากล้วนสามารถถอดร่างกลายเป็นญาณเทว หลังจากประมุขเต๋าก็จะเป็นมนุษย์อมตะ นั่นหมายความว่าแดนประมุขเต๋าคือการเปลี่ยนแปลงระดับชีวิตจากเทพมารเข้าสู่ระดับเซียน

ส่วนญาณเทว เป็นการเปลี่ยนแปลงจากช่องจิตก้าวเข้าสู่ภูตเซียน ซึ่งสอดคล้องกับแดนประมุขเต๋าพอดี

ญาณเทวร่างมนุษย์ที่ถูกราชาเซียนเฉว่โยวจับไว้ในมือเวลานี้ เหมือนกับมกุฎเต๋าบรรพเสวียนที่หดเล็กลง

ตอนนั้นราชาเซียนเฉว่โยวถูกราชาเซียนหยุนหลงทำร้ายได้รับบาดเจ็บหนักและถูกผนึก สิ่งที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดก็คือภูตเซียนดั้งเดิมของเขา ดังนั้นเมื่อเขาได้พบเข้ากับมกุฎเต๋าบรรพเสวียนโดยบังเอิญในตอนที่ตามหาหลัวซิว จึงได้ทำลายร่างเนื้อของมกุฎเต๋าบรรพเสวียนไป และผนึกญาณเทวของเขาเอาไว้

เห็นเพียงราชาเซียนเฉว่โยวอ้าปาก แล้วกลืนญาณเทวมกุฎเต๋าบรรพเสวียนลงไปทันที อัสนีโลหิตสายแล้วสายเล่าปรากฏขึ้นบนร่างของเขา อัสนีโลหิตไร้ขอบเขตพุ่งทะลักออกมา กลายร่างเป็นงูยักษ์สีเลือดท่าทางดุร้ายตัวหนึ่งปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเขา!

ดวงตาของยักษ์สีเลือด เหมือนกับดวงตาของราชาเซียนเฉว่โยวไม่มีผิด ตอนที่ร่างเนื้อยังไม่ถูกทำลาย ร่างเดิมของเขาก็คืองูแก้ว!

งูแก้วนั้นเป็นอสูรเซียน อสุรกายจำพวกงูจำนวนมากเมื่อบำเพ็ญตนถึงแดนที่แน่นอนแล้วต่างเลือกแปลงมังกร ทำให้สายเลือดของตนเพิ่มระดับขึ้นไปอีกขั้น ฝึกตนวิวัฒนาการไปทางสายเลือดแห่งมังกร

ทว่างูแก้วกลับแตกต่างไป สายเลือดโดยกำเนิดของงูแก้วเดิมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเผ่ามังกร แข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่ามังกรอีกด้วยซ้ำ

แน่นอน เผ่ามังกรที่กล่าวถึงในตอนนี้ มิใช่เผ่ามังกรในจักรวาลสามโลกา แต่เป็นมังกรเซียนในยุคดึกดำบรรพ์ เป็นมังกรแท้ที่มีสายเลือดวิถีเซียนมีโดยกำเนิด!

มังกรในยุคหลัง ในร่างกายมีสายเลือดมังกรเซียนปะปนอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในสายเลือดได้สูญเสียท่วงเซียนไปนานแล้ว

จากนั้นเพียงไม่นาน ราชาเซียนเฉว่โยวก็ได้กลั่นแปรญาณเทวของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน ในขณะที่ได้รับพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์ของอีกฝ่าย เขายังได้รับความทรงจำของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน

“ลูกศิษย์ของหยุนหลง?”

จากความทรงจำของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน ราชาเซียนเฉว่โยวได้เห็นคนที่ถูกเขากลืนกินพลังวิญญาณผู้นี้เคยฟังคำสั่งสอนอยู่ใต้บัญชาของราชาเซียนหยุนหลง ทันใดนั้นรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา

เขากับหยุนหลงมีความแค้นที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ได้กลืนกินศิษย์ขอวหยุนหลง ทำให้ภายในใจของราชาเซียนเฉว่โยวรู้สึกสาแก่ใจยิ่งนัก

เมื่อราชาเซียนเฉว่โยวได้ผสานความทรงจำถูกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทันใดนั้น ความทรงจำตอนหนึ่งได้ดึงดูดความสนใจของเขา

“มีคนกลั่นแปรดาบหักเซียนอย่างนั้นหรือ?”

ตอนนั้นราชาเซียนเฉว่โยวได้ลงมายังโลกามนุษย์มิได้ไปท้าประลองกับราชาเซียนหยุนหลงโดยตรง แต่ได้ยินนามของดาบหักเซียน ดังนั้นจึงได้มุ่งหน้าไปยังที่นั่นก่อน

ในฐานะผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียน เขาได้ใช้ทุกวิถีทาง แต่ก็มิอาจต้านทานการโจมตีจากแรงสังหารของดาบหักเซียน ด้วยเหตุนี้ภูตเซียนดั้งเดิมของเขาจึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเช่นเดียวกัน

จนกระทั่งภูตเซียนดั้งเดิมของเขาได้ฟื้นฟูในเวลาต่อมา เขาถึงได้ตามหาราชาเซียนหยุนหลงพบ

ดาบหักเซียนที่แม้แต่ราชาเซียนอย่างเขาก็มิอาจกำราบกลั่นแปรได้ กลับถูกเจ้าหนุ่มที่มีผลการฝึกตนไม่ถึงแดนประมุขเต๋าด้วยซ้ำได้ไป มันเป็นไปได้อย่างไร?

นอกจากนี้เขายังมั่นใจได้ว่า ราชาเซียนหยุนได้ลงมายังโลกามนุษย์ก่อนเขา ต้องได้ลองกำราบดาบหักเซียนมาก่อนแน่ เขามีเหล็กเซียนชั้นกล้าอยู่ในมือยังทำไม่ได้เลย แล้วคนรุ่นหลังที่ชื่อหลัวซิวคนนั้นทำได้อย่างไร?

“หรือว่า คนที่เอาเหล็กเซียนชั้นกล้าไป อาจจะไม่ใช่เซียนชั้นฟ้าอย่างที่เขาคิด แต่เป็นคนรุ่นหลังที่ชื่อหลัวซิวคนนี้?”

ทันใดนั้นเอง ดวงตาคู่นั้นของราชาเซียนเฉว่โยวก็เป็นประกายขึ้นมา เดิมทีเขาต้องการที่จะครอบครองร่างของหลัวซิว เช่นนี้แล้ว ก็ไม่เท่ากับว่าตนเองจะได้ภัณฑ์เซียนชั้นเลิศทั้งสองชิ้นอย่างดาบหักเซียนและเหล็กเซียนชั้นกล้ามาครอบครองพร้อมกันเลยหรอกหรือ?

เขาเป็นงูแก้ว ส่วนราชาเซียนหยุนหลงนั้นเป็นเผ่าพันธุ์มังกร สายเลือดของทั้งสองไม่อาจผสานเข้าด้วยกัน และเขาก็ไม่สามารถทำให้สายเลือดในร่างของราชาเซียนหยุนหลงกลายมาเป็นสายเลือดงูแก้วได้

“คิดหนี?”

มีการล็อกเป้าจากตัวสำนึก ราชาเซียนเฉว่โยวไม่กังวลเลยว่าหลัวซิวจะหลบหนีไปได้ เห็นเพียงร่างของเขาได้กลายเป็นอัสนีโลหิตไปในพริบตา ไล่ตามไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่าเข็มทิศสาสน์เต๋า

แม้ว่าราชาเซียนเฉว่โยวจะมีความเร็วที่เหนือกว่า แต่ก็ไม่เร็วถึงขั้นสามารถตามมาถึงได้ในทันที ดังนั้นก่อนที่ราชาเซียนเฉว่โยวจะตามมาทัน หลัวซิวก็ได้เหาะออกมาจากทางเข้าที่เขาใช้เข้าไปในโลกาวังเซียนก่อนหน้านี้เสียแล้ว

หลังออกมาจากโลกาวังเซียนเป็นที่เรียบร้อย หลัวซิวมิได้หยุดชะงักเลยสักนิด เข็มทิศสาสน์เต๋ากลายเป็นลำแสงสายหนึ่ง ลอยออกไปยังด้านนอกแดนบรรพกาล

ในขณะเดียวกัน เขาได้ล้วงเอาไข่มุกสื่อสารออกมา แจ้งไปยังต้วนคงกับยู่เอ๋อร์ ให้พวกเขานำผู้คนที่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์หลัวซิวเก็บเข้าสู่หอคอยฮวง แล้วนำหอคอยฮวงไปจากที่นั่น หาที่ใดที่หนึ่งซ่อนตัวเอาไว้

หลังจากได้รับข้อความ ต้วนคงกับยู่เอ๋อร์ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่พวกเขาสัมผัสได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงได้ไปทำตามคำสั่งของหลัวซิวทันที

“บัดซบ!”

บริเวณทางเข้าโลกาวังเซียน ม่านแสงสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้น ขัดขวางราชาเซียนเฉว่โยวเอาไว้

จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ราชาเซียนเฉว่โยวถึงได้รู้ว่าราชาเซียนหยุนหลงมิได้ทิ้งทางหนีทีไล่เอาไว้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แม้ว่าเหล็กเซียนชั้นกล้าจะถูกเอาไปแล้ว ทำให้ค่ายผนึกสูญเสียอิทธิฤทธิ์ไป ทว่าก่อนสิ้นลมหายใจราชาเซียนหยุนหลงกลับได้ลงตัวต้องห้ามไว้บนร่างกายของตนเอง ทำให้ร่างกายร่างนี้ ไม่สามารถออกไปจากวังเซียนแห่งนี้

“เจ้าหยุนหลงที่สมควรตาย!”

ราชาเซียนเฉว่โยวโมโหจนแทบกระอักเลือด เขาทำทุกวิถีทางกว่าจะกลั่นแปรร่างของราชาเซียนหยุนหลงได้ แต่ร่างร่างนี้กลับมิอาจออกไปจากวังเซียน เช่นนั้นความทุ่มเทในช่วงเวลาอันยาวนานที่ผ่านมาของเขามันไม่เสียเปล่าหรอกหรือ?

“ช้าเร็วยังไงก็ต้องสละร่างนี้ หยุนหลงเจ้าคิดว่าทำเช่นนี้แล้ว จะสามารถกักขวางข้าได้อย่างนั้นหรือ?”

ราชาเซียนเฉว่โยวโมโหก็ส่วนโมโห แต่ไม่นานก็คิดหาวิธีรับมือได้ คิดจะไปจากวังเซียนแห่งนี้มันง่ายมาก สละร่างนี้ทิ้ง แล้วไปครอบครองร่างของคนอื่นก็ได้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ