แผ่นดินโลกร้าง กลายเป็นพื้นที่ที่มีแต่ความเงียบกริบ
หลังจากสมัยต้าเหยียนได้ผ่านพ้นไป โลกมหาศักดิ์แปดด้านที่บรรพโบราณทั้งแปดท่านสร้างขึ้น การสืบทอดรุ่งเรืองเฟื่องฟู ต่อเนื่องไปอีกสิบกว่ายุคแห่งความโกลาหล
หนึ่งยุคแห่งความโกลาหลคือสามแสนสามหมื่นสามพันสามร้อยล้านปี สิบกว่ายุคแห่งความโกลาหล สามารถจินตนาการได้ว่าวันเวลาเช่นนี้มันยาวนานเพียงใด
ทว่านับจากนี้เป็นต้นไป โลกร้างได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ ราชาเซียนเฉว่โยวกลายร่างเป็นงูแก้ว กลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแผ่นดินโลกร้าง พลังวิญญาณที่สูญเสียไปกลับฟื้นฟูไม่ถึงหนึ่งในสิบเท่านั้น
“เผ่าไท่ซ่าง ดาบหักเซียน เหล็กเซียนชั้นกล้า!”
งูแก้วกลายเป็นร่างวิญญาณอีกครั้ง สิงอยู่ในร่างของมกุฎเต๋าหวูจี๋ เขาไม่ใช่ผู้บำเพ็ญวิญญาณ ไม่มีภัณฑ์วิญญาณให้สิงสถิต ดังนั้นร่างวิญญาณจึงไม่อาจอยู่ด้านนอกเป็นเวลานานได้ ไม่เช่นนั้นพลังวิญญาณก็จะถูกใช้อยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าครั้งนี้จะเสียเปรียบครั้งใหญ่ภายใต้เงื้อมมือของหลัวซิว แต่นี่ก็ทำให้ราชาเซียนเฉว่โยวอยากจะได้ร่างของหลัวซิวมาครอบครองอย่างแทบทนรอไม่ไหว ขอเพียงกลืนกินวิญญาณของหลัว ยึดครองร่างของหลัวซิว เช่นนั้นเขาก็จะสามารถมีพรสวรรค์ของเผ่าไท่ซ่าง และได้ยอดภัณฑ์เซียนทั้งสองชิ้นอย่างดาบหักเซียนกับเหล็กเซียนชั้นกล้ามาครอบครอง!
ชนเผ่าไท่ซ่างดำรงอยู่ในตำนาน ราชาเซียนเฉว่โยวเพียงแค่เคยได้ยินมาเท่านั้น ไม่รู้ว่าชนเผ่าไท่ซ่างแข็งแกร่งเพราะเหตุใด และไม่รู้ว่าชนเผ่าไท่ซ่างมีการสืบทอดแบบใด มีพรสวรรค์แบบใดอยู่
แต่วิถีไร้ลักษณ์ของเผ่าไท่ซ่างนั้นเป็นหนึ่งในปฐพี มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้าตั้งแต่สมัยประเทศเซียนในวันเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา เฉว่โยวในตอนนั้น เป็นเพียงเซียนมารชั้นล่างที่เพิ่งกลายร่างมนุษย์เท่านั้น
แน่นอน เพียงแค่ชื่อ ยังมิอาจยืนยันได้ว่าหลัวซิวก็คือทายาทของเผ่าไท่ซ่าง เล่าขานกันว่าเผ่าไท่ซ่างได้ถูกล้างตระกูลไปตั้งแต่ก่อนสมัยประเทศเซียนแล้ว
แต่หากเขาไม่ใช่เผ่าไท่ซ่าง แล้วจะอธิบายได้อย่างไรว่าเพราะเหตุเขาถึงฝึกตนได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ และยังสามารถกลั่นแปรดาบหักเซียนกับเหล็กเซียนชั้นกล้าได้ในขณะที่มีผลการฝึกตนแค่ในระดับประมุขเต๋าเท่านั้น?
เชื่อว่ามี ดีกว่าเชื่อว่าไม่มี ต่อให้ไม่ใช่เผ่าไท่ซ่าง กำลังแฝงของหลัวซิวก็แข็งแกร่งยิ่งนัก เป็นร่างกายที่ราชาเซียนเฉว่โยวใฝ่ฝัน
“หวูจี๋ พลังวิญญาณของข้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก อาศัยพวกมดต่ำต้อยพวกนั้นไม่ว่าข้าจะกลืนกินไปมากแค่ไหนก็มิอาจทำให้ข้าฟื้นฟูได้มากนัก ไปหามกุฎเต๋าพวกนั้น ข้าเป็นต้องกลืนกินญาณเทวดั้งเดิมและแก่นแท้ชีวีของพวกมันเพื่อฟื้นฟูร่างวิญญาณของข้า!” ระงับความเดือดดาลภายในใจ ราชาเซียนเฉว่โยวกล่าวกับมกุฎเต๋าหวูจี๋
“ได้” มกุฎเต๋าหวูจี๋พยักหน้า
“วางใจเถอะ ข้าจะไม่เอาเปรียบเจ้าอย่างแน่นอน ขอเพียงเจ้าตั้งใจทำงานให้ข้า ในอนาคตข้าจะพาเจ้าไปโลกเซียน ไม่เพียงทำให้เจ้ากลายเซียนได้สำเร็จ มอบโอกาสการฝึกฝนจนถึงแดนเซียนชั้นฟ้าให้เจ้าก็เป็นเรื่องง่ายมาก!” ราชาเซียนเฉว่โยวกล่าวให้คำมั่นสัญญา
“ยังมีวังทะยานเซียนที่เจ้าเฒ่าหยุนหลงเหลือเอาไว้ ข้าได้ยินมาว่าในนั้นมีหนืดอมฤตตรีภพ ดูท่าหยันหลงจะได้รับโชคชะตาโอกาสที่ไม่เลว”
ยังมีบุตรีของเจ้าเฒ่าหยุนหลง ข้าจักต้องจับตัวนางมาให้ได้ ให้นางต้องทนทุกข์ทรมานกับการลงทัณฑ์ที่โหดเหี้ยมที่สุดบนโลกใบนี้ ให้นางถูกข้าดูดซับพลังและเลือดทีละคำจนแห้งเหือดภายใต้ความอัปยศอันไร้ขอบเขต
ราชาเซียนเฉว่โยวกลืนกินญาณเทวดั้งเดิมของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน หลอมรวมความทรงจำของมกุฎเต๋าบรรพเสวียน ดังนั้นเขาจึงได้รับรู้เรื่องราวอีกหลายอย่าง
มกุฎเต๋าหวูจี๋มีสีหน้าไร้ความรู้สึกมาตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่สนว่าราชาเซียนเฉว่โยวคิดจะทำอะไร ขอเพียงเขาสามารถบรรลุเป้าหมายของตนเองได้เป็นอันพอ
......
เมื่อได้ออกมาจากโลกร้าง หลัวซิวก็ขับขี่เข็มทิศสาสน์เต๋าลอยมุ่งหน้าไปยังโลกสวรรค์
นับตั้งแต่บรรพสวรรค์ได้ดับสูญ ยังโลกสวรรค์ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายจากสงคราม กองกำลังภายใต้บังคับบัญชาของบรรพยักษ์ตรีภพกับมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคีได้ต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง แต่ละฝ่ายต่างยึดครองพื้นที่ครึ่งหนึ่งของแผ่นดินโลกสวรรค์
หลัวซิวนั่งขัดสมาธิอยู่บนเข็มทิศสาสน์เต๋า หลังจากได้ใช้กรองแก้วเซียนไปนับร้อยก้อน พลังและเลือดของที่สูญเสียไปของเขาก็ฟื้นคืนดังเดิม
เพราะความสามารถของคนคนหนึ่งไม่มีทางที่จะแข็งแกร่งโดยไม่มีสาเหตุ เพราะความยากลำบากของการเพิ่มระดับผลการฝึกตน ผลการฝึกตนของหลัวซิวจึงแข็งแกร่งยิ่งกว่านักยุทธ์ขั้นสุดยอดที่อยู่ในแดนเดียวกันนับสิบเท่า หรือมากกว่านั้น
จักต้องรู้ว่า เขาคือบุคคลที่อาศัยผลการฝึกตนแดนประมุขเต๋าช่วงกลางเทียบเท่ามกุฎเต๋าชั้นสุดยอด!
เขามายังโลกสวรรค์ ไม่ใช่เพื่อมาหาบรรพยักษ์ตรีภพหรือมกุฎศักดิ์สิทธิ์บรรพอัคคี ผู้แข็งแกร่งสมัยต้าเหยียนทั้งสองคนนี้มีประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดา แต่เมื่ออยู่ในปัจจุบัน กลับไม่มีความโดดเด่นอะไร ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม
ผ่านไปไม่นานนัก หลัวซิวก็ได้มายืนอยู่ปากทางเข้าโลกคุกเซียน ตอนนั้นเขากับหญิงชุดเขียวและลู่เมิ่งเหยาได้ถูกบรรพสวรรค์ไล่ล่าสังหาร เกือบจะไร้ซึ่งความหวังอยู่แล้ว จึงได้บุกเข้ามาซ่อนตัวที่นี่
ในโลกคุกเซียนมีค่ายสยบที่ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ผู้แข็งแกร่งที่มีผลการฝึกตนยังไม่บรรลุถึงขั้นราชาเซียน ทันทีที่ได้เข้าสู่โลกคุกเซียน ผลการฝึกตนก็จะถูกกดจนถึงแดนผู้สูงส่งทันที
กาลเวลานานแสนนานได้ผ่านไป คุกเซียนแห่งนี้เคยกักขังผู้แข็งแกร่งที่ร้ายกาจเอาไว้มากมายในสมัยโบราณกาล ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นมีอยู่หลายคนที่มีชีวิตรอดมาได้ และถูกกักขังอยู่ในโลกคุกเซียนแห่งนี้ไปชั่วนิรันดร์
หลัวซิวไม่ได้มาที่นี่เพื่อตามหาชาวเซียนที่ถูกขังไว้ในที่แห่งนี้ แต่มาเพื่อตามหาราชาเซียนผู้ลึกลับที่ถูกผนึกไว้ในจุดใจกลางของโลกคุกเซียน
เขาทราบดีว่าหากตนเองต้องการต่อกรกับราชาเซียนเฉว่โยว เพียงแค่เพิ่มระดับผลการฝึกตนผลลัพธ์ที่ได้มันไม่มากนัก เพราะต่อให้เขาใช้กรองแก้วเซียนไปจนหมด ก็มิอาจทำให้เขาฝึกตนถึงแดนมนุษย์อมตะได้
สิ่งที่หลัวซิวต้องการยิ่งกว่าคือเพิ่มสำนึกการต่อสู้กับประสบการณ์การต่อสู้ของตนเอง การประมือกับราชาเซียนเฉว่โยวในครั้งนี้ ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความกดขี่ของแดนการฝึกตนได้อย่างลึกซึ้ง
และก็เพราะการกดขี่ของแดนการฝึกตน ทั้ง ๆ ที่เขามีวิธีทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แท้ ๆ แต่กลับแทบจะไม่สามารถโจมตีให้โดนอีกฝ่ายได้เลย
และคนที่สามารถช่วยให้เขาทำเช่นนั้นได้ มีเพียงราชาเซียนคนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...