หลังจากเงียบไปนาน หวูจี๋ก็ยกมือขึ้นโบก แสงเซียนสายแล้วสายเล่าลอยออกไป ลอยอยู่ด้านหน้าของประมุขเตากับมกุฎเต๋าแต่ละคน
“ในเมื่อไม่มีผู้ใดคัดค้าน เช่นนั้นก็ละทิ้งการต่อต้านของร่างกายเสีย เพื่อให้ข้าลงตัวต้องห้าม”
เมื่อหวูจี๋พูดจบ แสงเซียนสายแล้วสายเล่าก็ลอยเข้าสู่ร่างของทุกคน
มกุฎเต๋านอกนภาถอนหายใจยาว ๆ เขาทำความเข้าใจตรีภพโกลาหลมาเป็นเวลายาวนาน เพื่อให้ได้กลายเซียนเพียงเท่านั้น เมื่อต้องเลือกระหว่างเป็นกับตาย เขาอยากเลือกที่จะต่อต้าน อย่างมากจุดจบก็คือตายเท่านั้นเอง
ทว่าเขากลับไม่อาจตัดใจ เขาทำใจยอมรับไม่ได้ว่าธรรมเวชที่ตนฝึกฝนมาเป็นเวลานานจะถูกตัดการสืบทอดลงเพียงเท่านี้ หากเขาตาไป เช่นนั้นสิ่งที่เขาได้ทำมาตลาดระยะเวลาหลายปีก็เท่ากับเสียเวลาเปล่า
สุดท้าย เขาทนรับความอัปยศและเลือกยอมจำนน เขาเลือกที่จะมีชีวิตต่อไป......
แม้ว่าประมุขเต๋าที่ได้มาอยู่ตรงนี้จะไม่ใช่ประมุขเต๋าทั้งหมดในจักรวาลสามโลกา แต่ก็รับรองได้ว่ามีมากเกินกว่าครึ่ง ควบคุมความเป็นตายของคนพวกนี้ไว้ในมือ ก็เท่ากับว่าสามโลกาตกอยู่ในการควบคุมของหวูจี๋
หลังจากลงตัวต้องห้ามเสร็จ หวูจี๋ก็กล่าวขึ้นมาอย่างช้า ๆ : “ข้าต้องการให้พวกเจ้าให้ทุกวิถีทางเพื่อตามหาหยุนเซวียน สังสารวัฏ และยังมีหลัวซิวทั้งสามคน!”
......
หวูจี๋ร่วมมือกันกับเฉว่โยว ได้ควบคุมสามโลกาอย่างง่ายดาย ภายใต้การบีบบังคับของตัวต้องห้าม บรรดาประมุขเต๋ามากมายได้แต่ทำตามที่เขาสั่ง ทว่าดาราจักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาลเกินไป แถมยังมีสถานที่มากมายหลายแห่งที่ยังไม่เคยมีการเข้าสำรวจมาก่อน ต้องการตามหาทั้งสามคน มันไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทร
ชั่วพริบตา สิบปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ยังคงไร้ซึ่งร่องรอยของพวกหลัวซิวทั้งสามคน แม้แต่คนของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวที่ติดตามหลัวซิว ก็ยังหาไม่เจอ
หวูจี๋ยังได้ออกคำสั่งตามหาจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ ทว่าจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ได้หลบหนีออกมาจากวังเซียนบรรพกาลตั้งแต่นานแล้ว และไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ใด
ในเวลาสิบปีที่ผ่านมา หลัวซิวได้ฝึกฝนขัดเกลาการควบคุมไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างของตัวเองอยู่ในโลกคุกเซียนมาตลอด
ในตอนเริ่มแรกนั้น เขาเอาชนะคู่ต่อสู้ระดับเซียนชั้นฟ้าธรรมดาทั่วไปได้อย่างง่ายดายโดยอาศัยไร้ลักษณ์ไร้รูปร่าง ต่อมาพอได้ประมือกับผู้แข็งแกร่งแดนเซียนชั้นฟ้าขั้นชั้นหนึ่ง เขาก็พบว่าการควบคุมไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างของตนเองมีจุดอ่อนและความไม่สมบูรณ์แบบอยู่ ติดต่อกันหลายครั้ง ล้วนจบลงด้วยความพ่ายแพ้ ได้แต่อาศัยเข็มทิศสาสน์เต๋าเพื่อหลบหนี
สิบปีมานี้ เขามิได้ใช้อาวุธสังหารทั้งสองชิ้นอย่างดาบหักเซียนกับเหล็กเซียนชั้นกล้า การควบคุมไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างก็ชำนาญขึ้นเรื่อย ๆ คู่ต่อสู้เซียนชั้นฟ้าขั้นชั้นหนึ่งคนแล้วคนเล่า พ่ายแพ้อยู่ใต้แทบเท้าของเขา
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง หลัวซิวหนึ่งอยู่บนก้อนหินขนาดใหญ่ ผมยาวสีดำขลับปลิวสยายอยู่ด้านหลังศีรษะ ชุดคลุมสีดำส่งเสียงสะบัดอยู่ในสายลม เสื้อถูกลมเป่าให้พองขึ้นมา
หากพูดถึงเมื่อสิบปีก่อน เขาอาศัยผลการฝึกตนแดนประมุขเต๋าช่วงกลางสามารถเทียบเท่าได้กับมกุฎเต๋าขั้นสุดยอด เช่นนั้นตอนนี้หากเขาออกไปจากโลกคุกเซียน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมกุฎเต๋าขั้นสุดยอด เขาล้วนสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย และนี่ก็คือความแข็งแกร่งของไร้ลักษณ์ไร้รูปร่าง
ทว่าความสามารถเช่นนี้ กลับยังมิอาจทำให้หลัวซิวประทับใจ เขาทราบดีว่าอาศัยไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างในตอนนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับราชาเซียนเฉว่โยวได้
ดังนั้น หลัวซิวจึงเตรียมที่จะไปตามหาผู้แข็งแกร่งแดนเซียนชั้นฟ้าขั้นสุดยอดที่อยู่ในโลกคุกเซียนแห่งนี้
สำหรับความปลอดภัยของพวกต้วนคงกับยู่เอ๋อร์ หลัวซิวไม่ค่อยกังวลนัก เพราะเขาได้ให้พวกเขาพาคนของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวหลบหนีไปก่อนแล้ว และไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในสามโลกา แต่ได้ไปยังจักรวาลกันดาร
จักรวาลกันดารมีมหาโลกาพันสาม โลกที่มีดารานับไม่ถ้วน เพียงแค่หาที่ใดที่หนึ่งเพื่อซ่อนตัวเอาไว้ นอกเสียจากว่าจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์จะไม่กลัวตายและใช้ความสามารถในการทำนายครั้งสุดท้าย มิเช่นนั้นโอกาสที่จะถูกหาเจอนั้นมีน้อยมาก
อีกอย่างจากความรู้ความเข้าใจที่หลัวซิวมีต่อจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ เชื่อว่าตาเฒ่านั่นคงซ่อนตัวไปตั้งนานแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนในปัจจุบัน หากจ้าวอาณัติแห่งสวรรค์ไม่หลบไปซ่อนตัวเพื่อเอาตัวรอด เช่นนั้นก็คงไม่มีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้
โลกคุกเซียน เป็นดาราที่ถูกกักกันดวงหนึ่ง และเป็นโลกาดาราที่สมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง
ในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ผู้แข็งแกร่งมากมายถูกกักขังอยู่ที่นี่ หลังจากผ่านการคัดออกของกาลเวลา ที่สามารถอยู่รอดมาได้นั้น ส่วนมากล้วนเป็นเซียนชั้นฟ้า
มีการดำรงอยู่ของตาคุกเซียน ไม่มีนักโทษคนใดหลบหนีออกไปจากที่นี่ได้ มีผู้แข็งแกร่งบางคนได้มีครอบครัวอยู่ที่นี่ มีทายาทลูกหลาน หรือแม้กระทั่งได้สร้างการสืบทอด
ระยะห่างของสมัยประเทศเซียนกับสมัยปัจจุบัน ไม่รู้ห่างกันกี่ยุคแห่งความโกลาหล ในวันเวลาอันยาวนานเช่นนี้ อย่าว่าแต่ขยายพันธุ์สร้างตระกูลที่รุ่งเรืองขึ้นมาเลย ต่อให้เป็นการสร้างอาณาจักรมนุษย์ขึ้นมามันก็ง่ายนิดเดียว
สิบปีมานี้ กุ่ยสีเป็นเหมือนดั่งลูกสมุนที่คอยติดตามอยู่ข้างกายหลัวซิว เขาได้เห็นการตระหนักรู้และการเติบโตอันน่าสะพรึงกลัวของหลัวซิว ตอนแรกนั้นสู้ไม่ได้แม่แต่เซียนชั้นฟ้าธรรมดาทั่วไป ใช้เวลาแค่เพียงสิบปีก็สามารถเอาชนะเซียนชั้นฟ้าขั้นชั้นหนึ่งได้
ปีนั้น ในสิบปีมานี้ หลัวซิวก็ได้สังหารคู่ต่อสู้ที่ต้องการเอาชีวิตเขาไปหลายคน และได้กลายเป็นเป้าหมายการจับกุมของหลายกองกำลังในโลกคุกเซียนไปแล้ว
เซียนชั้นฟ้าขั้นสุดยอด ต่อให้อยู่ในสมัยประเทศเซียนอันไกลแสนไกล ก็นับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่มีอำนาจบารมีพอสมควร ต่อให้ให้เป็นประเทศเซียนที่ราชาเซียนบุกเบิก เซียนชั้นฟ้าขั้นสูงสุดก็มีจำนวนไม่มากนัก ส่วนมากล้วนเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นธรรมดา ขั้นชั้นหนึ่งนั้นก็ค่อนข้างน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...