มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3063

ช่องจิตแปรเปลี่ยนเป็นญาณเทว ซึ่งหมายความว่าระดับกลั่นวิญญาณบรรลุถึงระดับประมุขเต๋าแล้ว

และถ้าเกิดญาณเทวจะแปรเปลี่ยนเป็นภูตเซียน ขั้นตอนในการแปรเปลี่ยนก็เรียกว่าแปรเซียนเช่นกัน

หนืดอมฤตตรีภพหนึ่งหยดทำให้แดนมกุฎเต๋าขั้นสูงในตอนแรกก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียน

ผลการฝึกตนภายในร่างกายเขากลายเป็นจิตเซียนเจ็ดส่วนแล้ว ญาณเทวดั้งเดิมของเขายิ่งแปรเซียนแล้วแปดส่วน!

ซึ่งเช่นนี้ก็หมายความว่ามกุฎเต๋าสังสารวัฏอยู่ห่างจากแดนเซียนที่แท้จริงไม่ไกลแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ต่อหน้าดาบหักเซียน ผลการฝึกตนอันแข็งแกร่งที่เขาสามารถพึ่งพิงก็ไม่ต่างอะไรจากภาพลวงตา ร่างเนื้อที่แข็งแกร่งถูกกำจัดในดาบเดียว ผลการฝึกตนทั้งร่างกายสลายหายไป เหลือแค่เพียงญาณเทวดั้งเดิมที่แปรเซียนไปแล้วแปดส่วน แล้วพุ่งเข้าไปในวังนี๋หวันกลางหว่างคิ้วหลัวซิวอย่างเด็ดขาดแน่วแน่ว่าจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด

อาศัยตัวหยั่งรู้ไร้รูปของต้องห้ามภูตเซียนไท่ซ่าง หลัวซิวไม่เกรงกลัวพลังโจมตีวิญญาณใด ๆ เลย แต่ว่าเขากลับไม่มีความคิดที่จะอำพรางตัวหยั่งรู้ เขาไม่กังวลต่อการครองวิญญาณของมกุฎเต๋าสังสารวัฏ เพราะนี่เป็นสิ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้นพอดี

พลังวิญญาณของมกุฎเต๋าช่วงปลาย ญาณเทวของหลัวซิวยังไม่แปรเซียน ระดับพลังวิญญาณของเขาจึงเทียบเคียงกับมกุฎเต๋าสังสารวัฏที่แปรเซียนไปแล้วแปดส่วนไม่ได้

แต่เขามียุทธภัณฑ์เซียนเลิศล้ำทั้งสองอย่างดาบหักเซียนและเหล็กเซียนชั้นกล้า!

ดาบหักเซียนและเหล็กเซียนชั้นกล้าที่อยู่ในมือหายไปพร้อมกัน ผันเป็นลำแสงสองดวงแล้วมุดหายเข้าไปในร่างกายหลัวซิว จากนั้นก็ปรากฏในวังนี๋หวัน

“ตายซะเถอะ!”

ญาณเทวของมกุฎเต๋าสังสารวัฏพุ่งกระโจนไปทางญาณเทวของหลัวซิว แม้นจะสูญเสียร่างเนื้อไปแล้ว แต่ถ้าเกิดสามารถยึดครองร่างกายของหลัวซิวได้ เช่นนั้นทุกสิ่งอย่างที่เป็นของหลัวซิวก็จะล้วนตกเป็นของเขา

“สังสารวัฏ มึงยังมองไม่ทะลุปรุโปร่งอีกหรือ?”

มีเสียงเยาะเย้ยสะท้อนมา ถัดจากนั้นมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็เห็นว่ามีดวงแสงดาบสีเลือดที่แวววาวจับตาดวงหนึ่งฆ่าสังหารมาทางเขา

“ดาบหักเซียน? ไม่! ……”

มกุฎเต๋าสังสารวัฏตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี เขานึกไม่ถึงเลยว่าดาบหักเซียนเล่มนี้จะสามารถปรากฏในตัวหยั่งรู้ได้ด้วย และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือดาบฉกรรจ์สุดหล้าเล่มนี้ยังสามารถโจมตีวิญญาณได้ด้วย

ฉึก!

เพียงกระบวนท่าเดียว ญาณเทวดั้งเดิมของมกุฎเต๋าสังสารวัฏก็ถูกสับจนแหลกสลาย เศษวิญญาณที่นับไม่ถ้วนแตกกระจาย เหมือนดั่งพลุดอกไม้ไฟที่ระเบิดแตกในยามค่ำคืน

“มันจบแล้ว”

สีหน้าของหลัวซิวไร้อารมณ์ ยกมือโบกครั้งหนึ่ง เหล็กเซียนชั้นกล้าก็กลายเป็นเสาเทพค้ำฟ้า พุ่งกดอัดลงมาจนเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ฟาดฟันดาบหักเซียนอย่างต่อเนื่อง ทำการสยบ สังหารเศษวิญญาณปณิธานทั้งปวงที่เป็นของมกุฎเต๋าสังสารวัฏทิ้ง!

เศษวิญญาณไร้จ้าวเหมือนดั่งดวงดาวที่เป็นประกายระยิบระยับ ส่องสว่างอยู่ในตัวหยั่งรู้ที่มืดมน ญาณเทวของหลัวซิวอ้าปากสูดลมหายใจเข้าปากครั้งหนึ่ง เศษวิญญาณที่ล้นฟ้าก็พุ่งเบียดเสียดกันเข้ามา

วินาทีต่อไป จิตสำนึกของหลัวซิวก็กลับคืนสู่ร่างเดิม ตัวหยั่งรู้ที่อยู่ในวังนี๋หวันกลับคืนสู่สภาพที่ไร้รูป ญาณเทวดั้งเดิมเริ่มกลั่นแปรเศษวิญญาณของมกุฎเต๋าสังสารวัฏ

พลังวิญญาณที่แปรเซียนไปแล้วแปดส่วน หลังจากถูกยุทธภัณฑเซียนทั้งสองบดขยี้สังหาร ต่อให้จะได้รับความเสียหายไปไม่น้อย แต่ถ้าเกิดสามารถกลั่นแปรทั้งหมด ก็เพียงพอที่จะสามารถทำให้พลังวิญญาณของเขายกระดับขึ้นอีกครั้ง อย่างน้อยก็สามารถบรรลุถึงมกุฎเต๋าขั้นสูง ตลอดจนก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียน ญาณเทวแปรเซียน!

กงล้อวัฏจักรธรรมที่มีชื่อเสียงมายาวนานแตกสลายไปแล้ว หลังจากการเวลาผ่านพ้นไปยาวนานอย่างไม่รู้จบ เศษชิ้นส่วนทุกชิ้นของกงล้อวัฏจักรธรรมล้วนสามารถกลายเป็นอัญดั้งเดิมที่ทรงพลังชิ้นหนึ่ง

กงล้อวัฏจักรธรรมคือภัณฑ์เต๋าชาตะของมกุฎเต๋าสังสารวัฏ เขามีความทะเยอทะยานที่อยากบรรลุมรรคผลกลายเซียน ดังนั้นวัตถุดิบที่ใช้ในการหลอมภัณฑ์เต๋าชั้นยอดชิ้นนี้จึงล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นสุดยอด

หลัวซิวง้างมือขยำครั้งหนึ่ง เศษชิ้นส่วนของมกุฎเต๋าสังสารวัฏที่ผนึกรวมกันมาที่เขา เขาโคจรวิชากลั่นร่างกลืนเศษณ์ที่เขาเคยอนุมานโดยอิงจากหนังสือยุทธภัณฑ์ ทำการดูดซับพละกำลังที่แฝงซ่อนอยู่ในเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ออกมา แล้วหลอมรวมเข้าไปในร่างเนื้อ

นอกจากนี้แล้วยังมีแหวนเก็บของของมกุฎเต๋าสังสารวัฏด้วย ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ระดับสูงสุดของจักรวาลพิภพนี้ สมบัติที่อยู่ในแหวนเก็บของมีเยอะมากจนนับไม่ถ้วน

อย่างไรก็ตามหลัวซิวกลับส่ายหน้าอย่างรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จากแดนผลการฝึกตน ณ ปัจจุบันของเขา สมบัติทรัพยากรหายากสำหรับมกุฎเต๋าส่วนมาก ยากที่จะต้องตาเขาแล้ว ในแหวนเก็บของวงนี้ไม่มีกรองแก้วเซียนโอสถเซียนที่เขาเฝ้าปรารถนาเลย มีเพียงวัตถุดิบหลอมอาวุธระดับเซียนนิดเดียว

หลัวซิวไม่ได้รีบย้อนกลับไปแต่อย่างใด แต่เป็นการนั่งขัดสมาธิอยู่บนเข็มทิศสาส์นเต๋า การเคลื่อนที่ของเวลาที่อยู่รอบกายเริ่มช้าลง

หลังจากหลอมรวมเข้ากับใจแห่งศุภรที่สมบูรณ์ครบถ้วน หลัวซิวก็สามารถใช้งานธรรมเวชเพลาที่แฝงซ่อนอยู่ในเข็มทิศสาส์นเต๋าได้จริง ๆ แล้ว ซึ่งเขาสามารถทำให้เวลาที่อยู่รอบ ๆ เคลื่อนที่ช้าลงหนึ่งร้อยเท่า

พลังวิญญาณที่แปรเซียนไปแล้วแปดส่วนไม่ได้กลั่นแปรง่ายขนาดนั้น หลัวซิวใช้เวลาประมาณหนึ่งปี แดนพลังวิญญาณยกระดับถึงมกุฎเต๋าขั้นสูง ต่อมาก็ก้าวเข้าสู่แดนแปรเซียน

แต่ทว่าญาณเทวของเขากลับแปรเซียนแค่สามส่วนเท่านั้น

เวลาที่นั่งอยู่บนเข็มทิศสาส์นเต๋าผ่านไปหนึ่งปี เวลาในโลกาภายนอกก็เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสี่วัน ศักยภาพของเขายกระดับขึ้นอีกขั้น หากได้ปะทะกับราชาเซียนเฉว่โยวละก็ โอกาสชนะของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

หลังจากผ่านศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ หลัวซิวรู้ตัวเองดีอยู่ว่าจากศักยภาพ ณ ปัจจุบันของเขา เพียงพอที่จะรับมือกับผู้แข็งแกร่งทั้งปวงที่อยู่ต่ำกว่าเซียนได้แล้ว ทว่าสาเหตุที่เขายังคงเกรงกลัวเฉว่โยวนั้น เป็นเพราะศักยภาพของเฉว่โยวไม่ได้อยู่แค่ระดับกึ่งเซียน แต่จุดที่รับมือยากยิ่งกว่าคือแดนยุทธ์ของเฉว่โยวคือแดนราชาเซียน

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่านี้ก็คือ แม้นจะอยู่แดนดึ่งเซียนเหมือนกัน กึ่งเซียนธรรมดาทั่วไปก็เหมือนเด็กฝึกหัดที่เพิ่งฝึกยุทธ์ ส่วนเฉว่โยวกลับอยู่ในแดนปรมาจารย์โลกยุทธ์แล้ว

ชิ่ว!

เข็มทิศสาส์นเต๋ากลายเป็นลำแสงดวงหนึ่ง แล้วบินตรงไปยังตำแหน่งที่ตั้งของดาวเคราะห์ตระกูลจี แม้นเวลาเพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสี่วัน ทว่าไม่แน่ภายในระยะเวลาที่สั้นขนาดนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้มีเหตุร้ายต่าง ๆ เกิดขึ้นได้แล้ว

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ