การคุกคามย่ำยีในครั้งนี้ดำเนินการไปนานหลายชั่วโมง สำหรับเหล่าประมุขเต๋ามกุฎเต๋าที่มีชีวิตยืนยาวแล้ว ระยะเวลาหมื่นปียังไม่นับอะไรเลย แต่ทว่าไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้ พวกเขากลับรู้สึกเหมือนผ่านพ้นมานานหลายยุคตรีภพ
“ฮ่าฮ่า……”
ภายในเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของเฉว่โยวหวูจี๋มีความดุร้ายปนอยู่ เหลือแค่เพียงมกุฎมังกรอิมที่เปลือยกายทั้งตัว ทั้งร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยขีดข่วน รอยกัด ยิ่งกว่านั้นคือมีกระดูกหลายจุดถูกหักจนผิดรูป
“หยวนหยินที่ศิษย์น้องอิมดูแลรักษามานานหลายยุคตรีภพอุดมสมบูรณ์มากเลยนี่”
มีรอยยิ้มชั่วร้ายที่ดูพิเรนทร์ปรากฏบนใบหน้าเฉว่โยวหวูจี๋ ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเต๋าขั้นสูงคนหนึ่งที่ฝึกธรรมเวชไท่หยินพรสวรรค์ ทั้งยังเป็นเทพมังกรไท่หยินที่กำเนิดในตรีภพหยินหยาง การได้ยึดพลังแห่งหยวนหยินก็เป็นอาหารเสริมชั้นยอดสำหรับเขาเช่นกัน
ส่วนพลังออร่าของมกุฎมังกรอิมกลับลดฮวบลงไปเกือบครึ่ง ผลการฝึกตนร่วงจากมกุฎเต๋าขั้นสูงลงไปมกุฎเต๋าช่วงกลาง เหมือนดังเทพเจ้าที่อยู่บนสรวงสวรรค์ตกลงมาในโลกมนุษย์
ริมฝีปากของนางถูกตัวเองกัดจนเลือดรินไหล แววตาของนางหม่นหมองไร้แสง ราวกับวิญญาณได้ดับสลายไปแล้วยังไงอย่างนั้น และนางก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำเช่นกัน บิดกระดูกที่ผิดรูปกลับเข้าที่ แล้วสวมใส่ชุดกระโปรงดำชุดใหม่
ในส่วนของเรื่องที่ว่าเมื่อครู่นางและเหล่ามกุฎเต๋าพูดคุยเรื่องอะไรกันนั้น เฉว่โยวหวูจี๋ก็ไม่ได้ไต่ถามอีก เพราะสำหรับเขาแล้ว ไม่ว่ามกุฎมังกรอิมจักตอบกลับคำถามของเขาอย่างซื่อสัตย์หรือไม่ เขาก็จำเป็นต้องยึดครองหยวนหยินของนางมาให้ได้
มกุฎเต๋านอกนภาโกรธจนร่างกายสั่นเทา แต่ภายใต้การควบคุมของวิญญาณต้องห้าม นอกจากไฟโกรธที่อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจแล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ศิษย์น้องนอกนภา เจ้าดูโกรธมากเลยนี่ หรือว่าเจ้าแอบรักศิษย์น้องอิมมาโดยตลอด?”เฉว่โยวหวูจี๋มองมกุฎเต๋านอกนภารอบหนึ่ง ความดุร้ายบนใบหน้าเข้มข้นมากยิ่งขึ้น “น่าเสียดายจัง หยวนหยินครั้งแรกของศิษย์น้องอิมถูกข้าเอาไปแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก หากเจ้าไม่รังเกียจละก็ ในฐานะที่เห็นว่าอดีตเราเป็นศิษย์พี่น้องที่ความสัมพันธ์ดีมาก ๆ ข้าจะให้เจ้าเล่นสนุกกับนางหน่อยก็แล้วกัน”
แต๊ก!
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น เฉว่โยวหวูจี๋ก็ดีดนิ้วครั้งหนึ่ง ภายใต้การควบคุมของวิญญาณต้องห้าม ร่างกายของมกุฎมังกรอิมจึงลุกขึ้นยืนอย่างควบคุมไม่ได้ ก่อนจะเดินตรงไปทางมกุฎเต๋านอกนภา
ในระหว่างที่เดินอยู่นั้น มือทั้งสองข้างของนางก็ยกขึ้นมาถอดชุดกระโปรงที่เพิ่งใส่ในเมื่อครู่นี้ออกอย่างควบคุมไม่ได้เช่นกัน
และในขณะเดียวกัน ร่างกายของมกุฎเต๋านอกนภาก็สูญเสียการควบคุมด้วย นี่จึงทำให้มีความรู้สึกที่ดูอับอายขายหน้าถึงขีดสุดปรากฏบนใบหน้าเขา
“ฮ่าฮ่า น่าสนุกจริง ๆ เลย ศิษย์น้องนอกนภาเจ้าชอบท่าอะไรรึ? เดี๋ยวข้าจะให้ศิษย์น้องอิมร่วมมือกับเจ้า”เฉว่โยวหวูจี๋ยิ่งอยู่ยิ่งกำเริบเสิบสาน กวาดมองคนอื่น ๆ ในพระตำหนักด้วยแววตาที่ดูเจ้าเล่ห์ “เป็นถึงมกุฎมังกรผู้สง่าผ่าเผยเชียวนะ คนอื่นไม่มีคนใดอยากเล่นสนุกกับนางบ้างรึ? ข้าคิดว่าศิษย์น้องอิมต้องมีความสุขมากแน่นอนที่ได้เล่นสนุกกับพวกเจ้า”
“ไอ้สัตว์เดรัจฉาน!”
มกุฎเต๋านอกนภาถูกกระตุ้นจนโกรธเกรี้ยวโดยสิ้นเชิงแล้ว จู่ ๆ ก็มีเพลิงอัคคีที่กลายมาจากตรีภพลุกโชนออกมาจากตัวเขา เขาได้ทำการเผาผลาญสารพลังชีวิตทั้งหมดของตัวเอง กลายเป็นอัคคีตรีภพที่ไร้ขอบเขต ลุกโชนเข้าไปในตัวหยั่งรู้ ไปแผดเผาวิญญาณต้องห้ามที่ควบคุมตัวเองเอาไว้
“ทุ่มสุดชีวิตแล้วหรือ? น่าเบื่อจัง”
เฉว่โยวหวูจี๋ไม่ยี่หระ เห็นเพียงเขาดีดนิ้วอย่างสบายมืออีกครั้ง วิญญาณต้องห้ามถูกเขาควบคุม อัคคีตรีภพที่อยู่บนตัวมกุฎเต๋านอกนภาจึงถูกกดอัดจนหายไป ส่วนท่าทางของมกุฎมังกรอิมก็หยุดลงเช่นกัน สวมใส่ชุดกระโปรงกลับเข้าที่อีกครั้ง
“ครั้งนี้ข้าจักปล่อยพวกเจ้าไปก่อนก็แล้วกัน เมื่อถูกตัวต้องห้ามของราชันย์อย่างข้าควบคุม พวกเจ้าก็คือทาสของข้า คือหมารับใช้ของข้า! ในเมื่อเป็นหมาก็ต้องรู้ตัวว่าตัวเองเป็นหมา!”
เฉว่โยวหวูจี๋หัวเราะอย่างเยือกเย็นครั้งหนึ่ง “หากยังมีผู้ใดบังอาจเล่นลูกไม้กับข้าอีกละก็ แม้นจะอยากตายพวกเจ้าก็ตายไม่ได้ ข้าจะทำให้เจ้าได้ตายทั้งเป็น!”
……
ณ สถานตรีภพแห่งวังทะยานเซียน มีชี่อลวนทั้งหลายผนึกรวมมาจากทั่วทุกสารทิศ แล้วหลอมรวมเข้าไปในร่างกายหลัวซิว
ประโยชน์ของหนืดอมฤตตรีภพคือใช้เพื่อตระหนักเกณฑ์ตรีภพ เดิมทีพลังที่แฝงซ่อนอยู่ภายในก็มีไม่มากตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ฉะนั้นการใช้มันมายกระดับผลการฝึกตนจึงเป็นการทำลายของล้ำค่าตามอำเภอใจชัด ๆ
อย่างไรก็ตามเมื่ออยู่ในสถานตรีภพแล้ว ผลลัพธ์กลับแตกต่างกัน จากการที่การตระหนักรู้ในตรีภพลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น พละตรีภพที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็จะผนึกมารวมกันเองโดยธรรมชาติ ทำให้ผลการฝึกตนค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามจังหวะ!
หลัวซิวไม่รู้ว่าตัวเองปิดขังอยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว หลังจากหนืดอมฤตตรีภพหยดแรกไร้ประสิทธิผลแล้ว เขาก็เทหยดที่สองออกมาอย่างไม่ลังเลใจ แล้วกดแนบลงกลางหว่างคิ้ว ทำให้ญาณเทวดั้งเดิมถูกตรีภพอันลึกลับและมหัศจรรย์ที่ไร้ขอบเขตห่อหุ้มอยู่ตลอดเวลา
ภายในตรีภพได้ครอบคลุมความล้ำลึกของความเป็นตายด้วย จากแดน ณ ปัจจุบันของหลัวซิว เขาไม่สามารถตระหนักรู้และสัมผัสเกณฑ์ตรีภพสูงศักดิ์ได้ด้วยซ้ำ ทว่ากลับทำให้การตระหนักรู้ในเกณฑ์ความเป็นตาย ห้วงเวลา เบญจธาตุหยินหยางและเกณฑ์ทั้งปวงของเขายกระดับขึ้นไม่น้อย
มือทั้งสองข้างของเขาประสานอินอยู่ตรงจุดตันเถียน จนเกิดเป็นวิชาตราประทับหนึ่งตรา ซึ่งมันก็คือตราประทับที่เกิดจากแก่นสารวิถียุทธ์ทั้งหมดของเขารวมเข้าด้วยกัน แล้วกลายเป็นตราประทับที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างตราเข้าล็อกเดิม!
ในอดีต เมื่อเขาปลดปล่อยตราเข้าล็อกเดิม ก็จะมีแสงเซียนที่ไร้ขอบเขตผนึกรวมกันอยู่กลางฝ่ามือ เหมือนดั่งพระอาทิตย์ดวงหนึ่งค่อย ๆ ลอยขึ้น แวววาวและแยงตา
แต่ตราเข้าล็อกเดิมที่อยู่กลางฝ่ามือเขาในวินาทีนี้กลับกลายเป็นผังเต๋า มีลายเส้นธรรมเวชที่ชัดเจนปรากฏ จากนั้นลายเส้นธรรมเวชทั้งหลายก็ประกอบเป็นอักษรฮู้ ซึ่งมีความลึกซึ้งที่ไร้ขอบเขตแฝงซ่อนอยู่ภายใน
กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลัวซิวหยุดการตระหนักรู้ลืมตาขึ้นมา ชี่อลวนที่ไหลกลิ้งโอบล้อมอยู่รอบกายเขาก็สงบลงเช่นกัน
เขาพบว่าตัวเองบรรลุถึงจุดตีบตันจุดหนึ่งแล้ว แม้จะใช้หนืดอมฤตตรีภพต่อ การตระหนักรู้ในธรรมเวชกฎก็ไม่มีทางพัฒนาขึ้นอีกขั้นได้แล้ว หากฝืนกลั่นแปรต่อ มากสุดก็แค่สามารถดูดซับชี่อลวนได้อีกเล็กน้อย ยกระดับผลการฝึกตนได้ไม่มากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...