“วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!”
เมื่อสัมผัสได้ว่าแค่อาศัยสภาวะธรรมลักษณ์ฟ้าดินยังไม่สามารถต้านทานตรีภพที่อยู่รอบกายได้ จึงมีกงล้อวงหนึ่งปรากฏหลังศีรษะเขา
อาศัยพลังปลุกเสกจากวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ หลัวซิวรู้สึกว่าแรงกดดันบนตัวหายไป ก่อนจะก้าวไปด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว
ตู้มม!
ก้าวไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น จู่ ๆ ตรีภพที่อยู่รอบกายก็บ้าระห่ำขึ้นมาไม่รู้ตั้งกี่เท่า วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ ทำให้มันหายกลับเข้าไปในร่างหลัวซิวภายในพริบตา
“อั่กก!”
พลังโจมตีที่แข็งแกร่งขึ้นกะทันหันทำให้หลัวซิวก็คาดการณ์ไม่ถึงเช่นกัน จึงอ้าปากกระอักเลือด
เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นนี้ หลัวซิวก็ทำได้เพียงใช้อาวุธเซียนแล้ว ดาบหักเซียนปรากฏในมือ แล้วทำการฟาดฟันตรีภพมังกรพิโรธที่พุ่งเข้ามาอย่างดุดันจนแตกสลาย
ไม่นึกเลยว่าตรีภพที่ถูกฟาดฟันจนแตกสลายจะประกอบเป็นภาพฉากแห่งการบุกเบิกฟ้าดิน ทำให้มีดินลมน้ำไฟที่ไร้ขอบเขตระเบิดแตก
“เหล็กเซียนชั้นกล้า!”
หลัวซิวขยำมือซ้ายครั้งหนึ่ง กำเหล็กเซียนที่มีแสงสีทองเปล่งประกายไว้ในมือ พละสยบเซียนสยบสังหารทุกสรรพสิ่ง ต่อให้เป็นธรรมเวชตรีภพก็ถูกสยบเช่นกัน
ดาบหักเซียนที่อยู่มือขวาสังหารทำลายล้างทุกสรรพสิ่งที่กีดขวาง เหล็กเซียนชั้นกล้าในมือซ้าย สยบสังหารทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า!
อาศัยยุทธภัณฑ์เซียนเลิศล้ำสองชิ้น หลัวซิวก้าวเท้ายาวเดินตรงไปยังแท่งหินทรงกระบอก และจากการที่เขาก็กระตุ้นอาวุธเซียนทั้งสองชิ้น ผลการฝึกตนของเขาก็ถูกบริโภคอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน
ตู้มม!
ฟาดเหล็กเซียนชั้นกล้าลงไป มังกรตัวหนึ่งที่วิวัฒนาการออกมาจากตรีภพจึงถูกทุบจนแหลกสลาย หลัวซิวก้าวเท้ายาวพุ่งไปข้างหน้า เหล็กเซียนชั้นกล้าในมือหายไป แล้วใช้มือคว้าไปทางถ้วยทองแดงผุพังที่วางอยู่บนแท่นหิน
เมื่อมือเขาใกล้จะคว้าถ้วยผุพังมาได้ จู่ ๆ ก็มีพลังที่น่ากลัวถึงขีดสุดระเบิด!
“อั่ก!”
หลัวซิวกระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง เสี้ยววินาทีที่ร่างกายกระเด็นออกไป เขาก็ฟาดฟันดาบหักเซียนที่อยู่มือขวาออกไป ทลายตรีภพหลายชั้น ดวงแสงดาบสีโลหิตจึงโจมตีใส่ถ้วยผุพังที่อยู่บนแท่นหิน
“เตี๊ยง!”
เสียงเหล็กและหินกระทบกันดังก้องอยู่ในตรีภพ ถ้วยทองแดงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง ถูกดวงแสงดาบของดาบหักเซียนโจมตี ไม่นึกเลยว่ามันจะไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่าในขณะที่มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หนืดอมฤตตรีภพสามหยดที่อยู่ก้นถ้วยก็สั่นสะเทือนจนบินลอยขึ้นมาเช่นกัน มีหนึ่งหยดกระเด็นออกไปจากแท่นหิน เหมือนดั่งดาวหางสีม่วง เคลื่อนผ่านตรีภพที่มืดมน
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว หลัวซิวก็ดูดีใจขึ้นมาทันที และไม่มีเวลาไปสนใจสภาพอาการบาดเจ็บตามร่างกายด้วยซ้ำ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพบินออกมาจากตัวหยั่งรู้ เพียงพริบตาเดียวก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่ง พุ่งไปไล่หนืดอมฤตตรีภพที่กระเด็นออกมาจากถ้วยทองแดงผุพัง
ในขณะเดียวกัน อีกสองหยดที่เหลือก็ร่วงกลับเข้าไปในถ้วยใหม่
“จับได้แล้ว!”
หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง หลัวซิวก็จับหนืดอมฤตตรีภพที่เหมือนดังคริสตัลสีม่วงมาได้ เสี้ยววินาทีที่เขาได้สัมผัสกับมัน เขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าตรีภพที่บริสุทธิ์และเข้มข้นอย่างยิ่ง
หนืดอมฤตตรีภพหยดนี้ ต่อให้นำทั้งห้าหยดที่เขาได้มาในก่อนหน้านี้รวมเข้าด้วยกัน ก็เทียบเคียงกับหนืดอมฤตตรีภพหยดนี้ไม่ได้!
เก็บหนืดอมฤตตรีภพหยดนี้เข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนหลัวซิวจะมองไปทางถ้วยผุพังที่อยู่บนแท่นหินทรงกระบอก จิตใจเร่าร้อนขึ้นมา
ไร้ลักษณ์วิวัฒนาการพลังแห่งชีวิต ทำการฟื้นฟูผลการฝึกตนและสภาพอาการบาดเจ็บตามร่างกายก่อน จากนั้นหลัวซิวก็พยายามลองดูอีกเป็นร้อยครั้ง
“ให้ตายเถอะ!”
ได้รับบาดเจ็บอยู่ในตรีภพมาเป็นร้อยครั้ง แต่กลับไม่สามารถครอบครองหนืดอมฤตตรีภพหยดที่สอง ต่อให้หลัวซิวจะเป็นคนที่อารมณ์ดีมากเพียงใด วินาทีนี้ก็อดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบ
ในที่สุดเขาก็ถือว่าเข้าใจสักทีว่าเมื่อครู่ตนโชคดีมากเพียงใด เขาสามารถทำให้ถ้วยใบนั้นสั่นสะเทือนจนหนืดอมฤตตรีภพทั้งสองหยดที่อยู่ในถ้วยบินลอยขึ้นมาได้ทุกครั้ง ทว่ามันก็ร่วงกลับเข้าไปในถ้วยทุกครั้งเลย
นั่งอยู่บนวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้วยใบหน้าที่ขาวซีด หลัวซิวโคจรผลการฝึกตนดูดซับชี่อลวนที่อัดแน่นอยู่รอบกาย เพื่อฟื้นฟูผลการฝึกตนที่สูญเสียไป
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ?”
และในเวลานี้เอง ก็มีเสียงที่ไพเราะสะท้อนมา จากนั้นหลัวซิวก็ลืมตาขึ้น แล้วพบว่าเทพธิดาหยุนเซวียนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เห็นได้ชัดเจนเลยว่าบุตรสาวแห่งราชาเซียนคนนี้ก็ปิดขังเสร็จสิ้นแล้ว ก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียน จึงมีออร่าท่วงเซียนเสี้ยวหนึ่งแพร่กระจายออกมาจากตัวนาง
“ขอแสดงความยินดีกับเทพธิดาด้วยที่ผลการฝึกตนก้าวรุด”หลัวซิวอมยิ้ม
“มีอะไรน่ายินดีรึ? หนืดอมฤตตรีภพของข้าใช้หมดแล้วนะ”เทพธิดาหยุนเซวียนถอนหายใจเบา ๆ การใช้หนืดอมฤตตรีภพมายกระดับผลการฝึกตนเป็นการปู้ยี้ปู้ยำของล้ำค่าชัด ๆ หากไม่ใช่เพราะจะจัดการเฉว่โยวหวูจี๋ นางไม่มีทางใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตามอันที่จริงนางก็เข้าใจดีมากเช่นกันว่า แม้นตนจักบรรลุเป็นกึ่งเซียน ทว่าหากได้ปะทะกับเฉว่โยวหวูจี๋ ตนก็ไม่มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน
ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น เทพธิดาหยุนเซวียนก็มองไปทางแท่นหินทรงกระบอกกลางตรีภพ เมื่อนางมองเห็นก้นถ้วยทองแดงผุพังนั่น แววตางดงามคู่นั้นก็ดูผงะไปในทันที
“สองหยด?”
นางหันขวับกลับมา จ้องมองไปทางหลัวซิวด้วยแววตาที่ร้อนผ่าวเล็กน้อย “เจ้าได้มาแล้วหรือ?”
ที่นี่ไม่มีคนอื่น ส่วนยักษ์ตรีภพที่หลัวซิวพามานั่นยิ่งไม่มีทางทำเช่นนี้ได้แน่นอน ฉะนั้นนางไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าผู้ใดได้ครอบครองหนืดอมฤตตรีภพหยดนั้น
“ข้าต้องแลกกับการบาดเจ็บสาหัสเป็นร้อยครั้งเชียวนะ ถึงจะได้มาหยดหนึ่ง”
หลัวซิวยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูด เมื่อเขามองเห็นแววตาที่ร้อนผ่าวของเทพธิดาหยุนเซวียน เขาก็รู้ความคิดของฝ่ายตรงข้ามแล้ว
ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ด้วย เมื่อได้ยินว่าหลัวซิวทำสำเร็จจริง ๆ เทพธิดาหยุนเซวียนจึงพูดทันทีว่า “เจ้าช่วยข้าเก็บมาหยดหนึ่ง หากเจ้าต้องการอะไร ข้าก็ให้เจ้าได้ทุกอย่างเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...