มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3068

“วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ!”

เมื่อสัมผัสได้ว่าแค่อาศัยสภาวะธรรมลักษณ์ฟ้าดินยังไม่สามารถต้านทานตรีภพที่อยู่รอบกายได้ จึงมีกงล้อวงหนึ่งปรากฏหลังศีรษะเขา

อาศัยพลังปลุกเสกจากวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพ หลัวซิวรู้สึกว่าแรงกดดันบนตัวหายไป ก่อนจะก้าวไปด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว

ตู้มม!

ก้าวไปเพียงก้าวเดียวเท่านั้น จู่ ๆ ตรีภพที่อยู่รอบกายก็บ้าระห่ำขึ้นมาไม่รู้ตั้งกี่เท่า วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพไม่สามารถต้านทานพลังโจมตีที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ ทำให้มันหายกลับเข้าไปในร่างหลัวซิวภายในพริบตา

“อั่กก!”

พลังโจมตีที่แข็งแกร่งขึ้นกะทันหันทำให้หลัวซิวก็คาดการณ์ไม่ถึงเช่นกัน จึงอ้าปากกระอักเลือด

เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นนี้ หลัวซิวก็ทำได้เพียงใช้อาวุธเซียนแล้ว ดาบหักเซียนปรากฏในมือ แล้วทำการฟาดฟันตรีภพมังกรพิโรธที่พุ่งเข้ามาอย่างดุดันจนแตกสลาย

ไม่นึกเลยว่าตรีภพที่ถูกฟาดฟันจนแตกสลายจะประกอบเป็นภาพฉากแห่งการบุกเบิกฟ้าดิน ทำให้มีดินลมน้ำไฟที่ไร้ขอบเขตระเบิดแตก

“เหล็กเซียนชั้นกล้า!”

หลัวซิวขยำมือซ้ายครั้งหนึ่ง กำเหล็กเซียนที่มีแสงสีทองเปล่งประกายไว้ในมือ พละสยบเซียนสยบสังหารทุกสรรพสิ่ง ต่อให้เป็นธรรมเวชตรีภพก็ถูกสยบเช่นกัน

ดาบหักเซียนที่อยู่มือขวาสังหารทำลายล้างทุกสรรพสิ่งที่กีดขวาง เหล็กเซียนชั้นกล้าในมือซ้าย สยบสังหารทุกสรรพสิ่งในโลกหล้า!

อาศัยยุทธภัณฑ์เซียนเลิศล้ำสองชิ้น หลัวซิวก้าวเท้ายาวเดินตรงไปยังแท่งหินทรงกระบอก และจากการที่เขาก็กระตุ้นอาวุธเซียนทั้งสองชิ้น ผลการฝึกตนของเขาก็ถูกบริโภคอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

ตู้มม!

ฟาดเหล็กเซียนชั้นกล้าลงไป มังกรตัวหนึ่งที่วิวัฒนาการออกมาจากตรีภพจึงถูกทุบจนแหลกสลาย หลัวซิวก้าวเท้ายาวพุ่งไปข้างหน้า เหล็กเซียนชั้นกล้าในมือหายไป แล้วใช้มือคว้าไปทางถ้วยทองแดงผุพังที่วางอยู่บนแท่นหิน

เมื่อมือเขาใกล้จะคว้าถ้วยผุพังมาได้ จู่ ๆ ก็มีพลังที่น่ากลัวถึงขีดสุดระเบิด!

“อั่ก!”

หลัวซิวกระอักเลือดอย่างบ้าคลั่ง เสี้ยววินาทีที่ร่างกายกระเด็นออกไป เขาก็ฟาดฟันดาบหักเซียนที่อยู่มือขวาออกไป ทลายตรีภพหลายชั้น ดวงแสงดาบสีโลหิตจึงโจมตีใส่ถ้วยผุพังที่อยู่บนแท่นหิน

“เตี๊ยง!”

เสียงเหล็กและหินกระทบกันดังก้องอยู่ในตรีภพ ถ้วยทองแดงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงครั้งหนึ่ง ถูกดวงแสงดาบของดาบหักเซียนโจมตี ไม่นึกเลยว่ามันจะไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย

แต่ทว่าในขณะที่มันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง หนืดอมฤตตรีภพสามหยดที่อยู่ก้นถ้วยก็สั่นสะเทือนจนบินลอยขึ้นมาเช่นกัน มีหนึ่งหยดกระเด็นออกไปจากแท่นหิน เหมือนดั่งดาวหางสีม่วง เคลื่อนผ่านตรีภพที่มืดมน

เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าว หลัวซิวก็ดูดีใจขึ้นมาทันที และไม่มีเวลาไปสนใจสภาพอาการบาดเจ็บตามร่างกายด้วยซ้ำ วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพบินออกมาจากตัวหยั่งรู้ เพียงพริบตาเดียวก็เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างยิ่ง พุ่งไปไล่หนืดอมฤตตรีภพที่กระเด็นออกมาจากถ้วยทองแดงผุพัง

ในขณะเดียวกัน อีกสองหยดที่เหลือก็ร่วงกลับเข้าไปในถ้วยใหม่

“จับได้แล้ว!”

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง หลัวซิวก็จับหนืดอมฤตตรีภพที่เหมือนดังคริสตัลสีม่วงมาได้ เสี้ยววินาทีที่เขาได้สัมผัสกับมัน เขาก็สัมผัสได้ถึงออร่าตรีภพที่บริสุทธิ์และเข้มข้นอย่างยิ่ง

หนืดอมฤตตรีภพหยดนี้ ต่อให้นำทั้งห้าหยดที่เขาได้มาในก่อนหน้านี้รวมเข้าด้วยกัน ก็เทียบเคียงกับหนืดอมฤตตรีภพหยดนี้ไม่ได้!

เก็บหนืดอมฤตตรีภพหยดนี้เข้าไปอย่างระมัดระวัง ก่อนหลัวซิวจะมองไปทางถ้วยผุพังที่อยู่บนแท่นหินทรงกระบอก จิตใจเร่าร้อนขึ้นมา

ไร้ลักษณ์วิวัฒนาการพลังแห่งชีวิต ทำการฟื้นฟูผลการฝึกตนและสภาพอาการบาดเจ็บตามร่างกายก่อน จากนั้นหลัวซิวก็พยายามลองดูอีกเป็นร้อยครั้ง

“ให้ตายเถอะ!”

ได้รับบาดเจ็บอยู่ในตรีภพมาเป็นร้อยครั้ง แต่กลับไม่สามารถครอบครองหนืดอมฤตตรีภพหยดที่สอง ต่อให้หลัวซิวจะเป็นคนที่อารมณ์ดีมากเพียงใด วินาทีนี้ก็อดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบ

ในที่สุดเขาก็ถือว่าเข้าใจสักทีว่าเมื่อครู่ตนโชคดีมากเพียงใด เขาสามารถทำให้ถ้วยใบนั้นสั่นสะเทือนจนหนืดอมฤตตรีภพทั้งสองหยดที่อยู่ในถ้วยบินลอยขึ้นมาได้ทุกครั้ง ทว่ามันก็ร่วงกลับเข้าไปในถ้วยทุกครั้งเลย

นั่งอยู่บนวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพด้วยใบหน้าที่ขาวซีด หลัวซิวโคจรผลการฝึกตนดูดซับชี่อลวนที่อัดแน่นอยู่รอบกาย เพื่อฟื้นฟูผลการฝึกตนที่สูญเสียไป

“เจ้ามาทำอะไรที่นี่น่ะ?”

และในเวลานี้เอง ก็มีเสียงที่ไพเราะสะท้อนมา จากนั้นหลัวซิวก็ลืมตาขึ้น แล้วพบว่าเทพธิดาหยุนเซวียนกำลังยืนอยู่ตรงหน้าเขา

เห็นได้ชัดเจนเลยว่าบุตรสาวแห่งราชาเซียนคนนี้ก็ปิดขังเสร็จสิ้นแล้ว ก้าวเข้าสู่แดนกึ่งเซียน จึงมีออร่าท่วงเซียนเสี้ยวหนึ่งแพร่กระจายออกมาจากตัวนาง

“ขอแสดงความยินดีกับเทพธิดาด้วยที่ผลการฝึกตนก้าวรุด”หลัวซิวอมยิ้ม

“มีอะไรน่ายินดีรึ? หนืดอมฤตตรีภพของข้าใช้หมดแล้วนะ”เทพธิดาหยุนเซวียนถอนหายใจเบา ๆ การใช้หนืดอมฤตตรีภพมายกระดับผลการฝึกตนเป็นการปู้ยี้ปู้ยำของล้ำค่าชัด ๆ หากไม่ใช่เพราะจะจัดการเฉว่โยวหวูจี๋ นางไม่มีทางใช้อย่างสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้แน่นอน

อย่างไรก็ตามอันที่จริงนางก็เข้าใจดีมากเช่นกันว่า แม้นตนจักบรรลุเป็นกึ่งเซียน ทว่าหากได้ปะทะกับเฉว่โยวหวูจี๋ ตนก็ไม่มีโอกาสชนะอย่างแน่นอน

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น เทพธิดาหยุนเซวียนก็มองไปทางแท่นหินทรงกระบอกกลางตรีภพ เมื่อนางมองเห็นก้นถ้วยทองแดงผุพังนั่น แววตางดงามคู่นั้นก็ดูผงะไปในทันที

“สองหยด?”

นางหันขวับกลับมา จ้องมองไปทางหลัวซิวด้วยแววตาที่ร้อนผ่าวเล็กน้อย “เจ้าได้มาแล้วหรือ?”

ที่นี่ไม่มีคนอื่น ส่วนยักษ์ตรีภพที่หลัวซิวพามานั่นยิ่งไม่มีทางทำเช่นนี้ได้แน่นอน ฉะนั้นนางไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าผู้ใดได้ครอบครองหนืดอมฤตตรีภพหยดนั้น

“ข้าต้องแลกกับการบาดเจ็บสาหัสเป็นร้อยครั้งเชียวนะ ถึงจะได้มาหยดหนึ่ง”

หลัวซิวยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูด เมื่อเขามองเห็นแววตาที่ร้อนผ่าวของเทพธิดาหยุนเซวียน เขาก็รู้ความคิดของฝ่ายตรงข้ามแล้ว

ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ด้วย เมื่อได้ยินว่าหลัวซิวทำสำเร็จจริง ๆ เทพธิดาหยุนเซวียนจึงพูดทันทีว่า “เจ้าช่วยข้าเก็บมาหยดหนึ่ง หากเจ้าต้องการอะไร ข้าก็ให้เจ้าได้ทุกอย่างเลย!”

อดีตมากสุดเขาก็แค่เคยได้รับกรองแก้วเซียนสามสี่พันก้อน ทั้งยังเป็นกรองแก้วเซียนที่กระเทาะลงมาจากจุดอ่อนของมังกรเขียวเส้นปราณเซียนแห่งวังเซียนบรรพกาล

“พวกโลภในทรัพย์สินเงินทอง!”เทพธิดาหยุนเซวียนกลอกตามองบนใส่หลัวซิว จากนั้นก็โยนแหวนเก็บของให้เขาหนึ่งวง

“มีจริง ๆ หรือ?”หลัวซิวงุนงงไปชั่วขณะ ก่อนจะยกมือขึ้นมารับแหวนเก็บของเอาไว้ จากนั้นตัวสำนึกก็มองเห็นกรองแก้วเซียนหนึ่งหมื่นก้อนในแหวนเก็บของ

สุดท้ายแล้วโลกทัศน์และความรู้ของเขาก็แค่จำกัดอยู่ในจักรวาลพิภพนี้อยู่ดี ในพิภพนี้ กรองแก้วเซียนเป็นสิ่งที่ตามหายากมาก ทว่าในฐานะที่เทพธิดาหยุนเซวียนเป็นบุตรสาวแห่งราชาเซียน จึงได้รับมรดกส่วนหนึ่งที่ราชาเซียนหยุนหลงทิ้งไว้ให้เขา จึงไม่ขาดแคลนทรัพยากรอย่างกรองแก้วเซียนจริง ๆ มากไปกว่านั้นคือกรองแก้วเซียนหนึ่งหมื่นก้อนก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยสำหรับนางเท่านั้นแหละ

เมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ของเทพธิดาหยุนเซวียน หลัวซิวก็รู้แล้วว่าตัวเองขาดทุนหนักมากแล้ว หากนำหนืดอมฤตตรีภพหยดนี้ไปขายในโลกเซียน ต้องสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งราชาเซียนที่นับไม่ถ้วนแก่งแย่งกันอย่างบ้าคลั่งแน่นอน จำนวนกรองแก้วเซียนที่ขายได้ต้องสูงเสียดฟ้าแน่นอน!

แต่ทว่าหลัวซิวก็ไม่ถึงขั้นเปลี่ยนใจอะไรหรอก ระหว่างเทพธิดาหยุนเซวียนและเขาถือเป็นมิตรสหายที่ค่อนข้างไม่เลวเลย เสียเปรียบนิดหน่อยก็เสียเปรียบไปเถอะ

ส่งหนืดอมฤตตรีภพหนึ่งหยดออกไปด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง หลัวซิวเก็บกรองแก้วเซียนเข้าที่แล้วถาม: “เราจะไปสะพานทะยานเซียนตอนนี้เลยไหม?”

การปิดขังในครั้งนี้ ศักยภาพของหลัวซิวได้รับการยกระดับขึ้นมาเยอะมาก จึงอยากประลองกับเฉว่โยวหวูจี๋อย่างอดใจรอไม่ไหวแล้ว

“เราไปรวมตัวกับหลินเทียนกัน หากสามคนร่วมมือกันละก็ โอกาสที่จะชนะก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น”เทพธิดาหยุนเซวียนพูด

เมื่อสิ้นเสียง ทั้งสองก็บินตรงไปยังทางออกของสถานตรีภพ ในส่วนของลาร์นั้น กลับถูกหลัวซิวปล่อยให้ฝึกตนอยู่ที่นี่ต่อ

ทันทีที่บินออกมาจากวังทะยานเซียน หลัวซิวและเทพธิดาหยุนเซวียนก็หยิบไข่มุกสื่อสารออกมาพร้อมกัน วินาทีนี้มีรัศมีอ่อน ๆ กำลังเป็นประกายอยู่บนไข่มุกสื่อสารของทั้งสอง

เมื่อปีนั้นเขาและเทพธิดาหยุนเซวียนวางแผนที่จะปิดขังระยะหนึ่ง ขณะที่จากกัน ระหว่างพวกเขาและหลินเทียนได้แลกเปลี่ยนไข่มุกสื่อสารกัน อนาคตหากมีเรื่องอะไรจะได้ติดต่อกันได้สะดวก

สถานตรีภพตัดขาดกับโลกาภายนอก ฉะนั้นจึงไม่สามารถได้รับข่าวสารใด ๆ เมื่ออยู่ในสถานตรีภพ มีเพียงหลังจากออกมาแล้วไข่มุกสื่อสารถึงจะแจ้งเตือน

“ไปกันเถอะ”

หลินเทียนได้บอกตำแหน่งที่ตั้งของเขาผ่านการสื่อสารแล้ว หลัวซิวและเทพธิดาหยุนเซวียนจึงผันเป็นแสงกลบินตรงไปยังเป้าหมายปลายทาง

……

ณ แกนกลางของดาราที่รกร้างว่างเปล่าดวงหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงของดาวเคราะห์ตระกูลจี หลินเทียนได้ทำการบุกเบิกถ้ำหนึ่งแห่งอยู่ที่นี่

ภายในถ้ำ ณ วินาทีนี้ มกุฎมังกรอิมกำลังนั่งอยู่ภายในด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ นอกเหนือจากนางแล้ว มกุฎเต๋านอกนภา มกุฎเต๋าบรรพจักรวาลและมกุฎเต๋าบรรพเหลืองก็อยู่ที่นี่เช่นกัน

“ศิษย์พี่นอกนภา หลัวซิวเขาสามารถช่วยเราทลายวิญญาณต้องห้ามได้จริง ๆ หรือ?”มกุฎเต๋าบรรพเหลืองถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเป็นผู้ทำลายความเงียบ

“มาพูดอะไรตอนนี้จะยังมีประโยชน์อะไร? เราต่างออกมากันแล้ว สุดท้ายจะทำได้หรือไม่ก็ทำได้เพียงปล่อยเรื่องราวดำเนินการไปตามนี้แล้วล่ะ”จะว่าไปมกุฎเต๋าบรรพจักรวาลก็ถือว่าปลงตกแล้ว

มกุฎเต๋านอกนภาไม่ได้พูดอะไร ถึงแม้คู่กรณีอย่างฉินจ้านและบรรพจารย์จักรภพจะไม่อยู่ที่นี่ แต่อดีตเขาเคยเห็นบรรพจารย์จักรภพอยู่ ดังนั้นจึงทราบเรื่องที่หลัวซิวสามารถทลายวิญญาณต้องห้าม

ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้นเป็นต้นมา เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองไม่มีทางเลือกใด ๆ แล้ว ภายใต้การควบคุมจากวิญญาณต้องห้าม แม้แต่การฆ่าตัวตายเขายังทำไม่ได้เลย จะดีกว่าหากให้หลัวซิวลองดู ไม่ว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ต่อให้ต้องตายเขาก็ไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ