มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3075

“แผ่นดินซิวหลัว?”

เทพธิดาหยุนเซวียนมองหลัวซิวด้วยสายตาที่แปลกใจรอบหนึ่ง “เจ้าทำการปรับแก้ดาวเคราะห์ตระกูลจีให้กลายเป็นพสุธาห้วงดาราแห่งหนึ่ง ก็เพื่อจะยึดกุมสะพานทะยานเซียนหรือ?”

สะพานทะยานเซียนเชื่อมต่อกับโลกเซียน สามารถพูดได้เลยว่าในจักรวาลพิภพนี้ หากผู้ใดต้องการมุ่งไปสู่โลกเซียน ก็มีเพียงต้องข้ามผ่านสะพานทะยานเซียนเท่านั้น

เพราะฉะนั้นแล้ว ทันทีที่มีศักยภาพที่สามารถยึดกุมสะพานทะยานเซียนอยู่ในกำมือ ก็เท่ากับควบคุมชีวิตและเส้นเลือดของมกุฎเต๋าประมุขเต๋าที่นับไม่ถ้วนแล้ว

“ข้าจำเป็นต้องยึดกุมสะพานทะยานเซียนด้วยหรือ?”หลัวซิวหลุดหัวเราะออกมา

เมื่อเทพธิดาหยุนเซวียนได้ยินคำพูดดังกล่าว นางก็รู้สึกมึนตึ๊บก่อน จากนั้นใบหน้าที่เรียวบางก็แดงก่ำขึ้นมา รู้ตัวแล้วว่าตัวเองพูดผิด

เหมือนอย่างที่หลัวซิวกล่าวมา เขาไม่จำเป็นต้องยึดกุมสะพานทะยานเซียนด้วยซ้ำ เพราะเมื่ออาศัยศักยภาพของเขา เขาถึงขั้นสามารถกลั่นแปรสะพานทะยานเซียนเหมือนเฉว่โยวหวูจี๋ได้โดยตรงเลย ทำการยึดครองมันโดยสมบูรณ์

แต่หลัวซิวกลับไม่มีความคิดที่จะทำเช่นนั้น ยิ่งกว่านั้นคือหลังจากเขาจัดการธุระส่วนตัวบางอย่างเสร็จสรรพ ก็ยินดีที่จะพาเหล่ามกุฎเต๋าประมุขเต๋าที่อยากมุ่งหน้าไปยังโลกเซียนเดินทางไปพร้อมเขาด้วย

อย่างน้อยแค่เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าหลัวซิวไม่มีเจตนาที่เห็นแก่ตัว

แต่ทว่าหลัวซิวยังไม่ถึงขั้นจัดการอย่างเป็นธรรมและเที่ยงตรงขนาดนั้น สาเหตุที่เขาบุกเบิกแผ่นดินซิวหลัวขึ้นมานั้น ก็เพื่อจัดแจงให้แดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวอยู่ที่นี่ และอยู่ในนามผู้เฝ้าดูแลสะพานทะยานเซียน เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอแค่มีมกุฎเต๋าประมุขเต๋าข้ามผ่านสะพานทะยานเซียนมุ่งหน้าไปยังโลกเซียน คนเหล่านั้นก็จะเป็นหนี้บุญคุณแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัว

ศึกสงครามครั้งหนึ่งทำให้ดาวเคราะห์ตระกูลจีพินาศยับเยินในครั้งเดียว หลังจากปรับแก้ให้กลายเป็นแผ่นดินซิวหลัว สิ่งที่ชำรุดทรุดโทรมไปก็ถูกฟื้นฟูกลับคืนมาใหม่เช่นกัน

หลัวซิวไม่ได้ปลดปล่อยมหาอิทธิฤทธิ์เปลี่ยนแปลงฟ้าดิน แต่เป็นการหยิบไข่มุกสื่อสารออกมา ให้ต้วนคงและยู่เอ๋อร์เดินทางมาที่นี่พร้อมกับไข่มุกโลกา มีเพียงให้ผู้คนในเผ่าจี้ ภูเขาว่านเริ่น แล้วก็ตระกูลเทพสงครามมาบุกเบิกพสุธาแห่งนี้ ทำการก่อสร้างบ้านเมืองด้วยตนเอง พวกเขาถึงจะมีความผูกพันที่แท้จริงต่อสถานที่แห่งนี้

ขณะที่ปรับแก้ดาวเคราะห์ตระกูลจี หลัวซิวเจอผังค่ายชิ้นหนึ่ง บนผังค่ายมีท่วงเซียนไหลเวียน มีออร่าเซียนที่ลึกลับและมหัศจรรย์แพร่กระจายออกมาจากอักษรฮู้ที่ประกอบมาจากแสงเซียนที่นับไม่ถ้วนผนึกรวมกัน

นี่คือผังค่ายระดับเซียนหนึ่งชิ้น และเป็นฐานค่ายของค่ายกลระดับเซียนดั้งเดิมของดาวเคราะห์ตระกูลจีเช่นกัน

ฝีมือความสามารถบนวิถีค่ายของหลัวซิวยังบรรลุไม่ถึงระดับเซียน ต่อให้มีผังค่ายชิ้นนี้อยู่ในมือ ก็ไม่สามารถจัดวางค่ายใหญ่ระดับเซียนออกมาได้ แต่ทว่าเมื่อเขาใช้ผังค่ายชิ้นนี้เป็นพื้นฐาน กลับสามารถจัดวางค่ายใหญ่ระดับกึ่งเซียนขั้นสุดยอดออกมาได้

ค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งได้ปกคลุมแผ่นดินซิวหลัวเอาไว้ ต่อให้มีกึ่งเซียนบุกโจมตีมา ก็อย่าคิดว่าจะสามารถทลายค่ายกลเข้ามาได้ง่าย ๆ

“ท่านพี่!”

เมื่อยู่เอ๋อร์มาถึงที่นี่ นางก็กระโจนเข้าไปในอ้อมอกหลัวซิวด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ

“มกุฎเต๋า!?”

เมื่อสัมผัสคลื่นผลการฝึกตนบนตัวยู่เอ๋อร์ได้ ใบหน้าของฉินจ้าน ตู๋กู จ้าวอาณัติแห่งสวรรค์แล้วก็เทพธิดาหยุนเซวียนต่างดูประหลาดใจมาก

พวกเขาค่อนข้างเข้าใจหลัวซิว โดยเฉพาะในอดีต หุบเขาสยบปีศาจก็เคยถูกจัดวางให้อยู่บนอาณานิคมของอาณากระบี่หวูจี๋โดยเฉพาะด้วย ตู๋กูก็เคยเห็นยัยยู่เอ๋อร์นี่เช่นกัน แต่ดูเหมือนเมื่อปีนั้นนางยังผนึกรวมกงล้อเทพออกมาไม่ได้มิใช่หรือ?

อย่างไรก็ตามนี่เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ปีเอง? แค่หลัวซิวที่เก่งกาจปานปีศาจเพียงคนเดียวก็แล้วไป ไม่นึกเลยว่าจะมียัยหนูที่แหกกฎสวรรค์เช่นนี้โผล่ขึ้นมาอีกคน? หรือว่าช่วงนี้มีอัจฉริยะที่เก่งกาจปานปีศาจเช่นนี้เกลื่อนกลาดเลย?

เมื่อเห็นทุกคนต่างเบิกตากว้าง หลัวซิวแค่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับเรื่องที่ผลการฝึกตนเขายกระดับเร็ว เพราะเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรเช่นกัน และเขาก็จะไม่อธิบายความลับที่อยู่บนตัวยู่เอ๋อร์ด้วย

มิหนำซ้ำต่อให้เขาอยากอธิบาย แม้แต่เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าบนตัวยู่เอ๋อร์มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่

เขาก็เคยคิดที่จะสืบเสาะเช่นกัน แต่ต่อมากลับล้มเลิกความคิดนั้น เนื่องจากยู่เอ๋อร์คือน้องสาวของเขา การที่สามารถฝึกตนได้รวดเร็วเช่นนี้คือเรื่องดี ในเมื่อเป็นเรื่องดี ไยตนจึงต้องสืบเสาะด้วยเล่า?

ภายในไข่มุกโลกา ศิษย์จำนวนมากของแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวต่างพากันปรากฏ ภายใต้การนำพาของว่านเริ่น ซิงเฉินแล้วก็หัวหน้าเผ่าจี้ ทุกคนจึงเริ่มบุกเบิกฟื้นฟูฟ้าดินที่ชำรุดเสียหายแล้วให้กลับมาเป็นปกติ