“พ่อหนุ่ม เจ้ากินตามใจปากได้ แต่จะพูดจามั่วซั่วไม่ได้นะ อยู่ในเมืองหยุนม่านหอเยียนเซียะของเรามีชื่อเสียงไม่เป็นสองรองใคร หากผู้ใดกล้าใส่ร้ายทำให้หอเยียนเซียะของข้าเสียชื่อเสียง ผลที่ตามมิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถรับได้”
ชายชราผมขาวหรี่ตาลง และยิ้มอย่างมีเลศนัย
แม้ว่าเขาจะกำลังยิ้มอยู่ แต่หลัวซิวกลับยังคงสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังข่มขู่ตนเองอยู่ เห็นได้ชัดว่าอาศัยที่มีหอเยียนเซียะหนุนหลัง จึงคิดแย่งชิงภัณฑ์เซียนหอคอยเงินหลังนั้นไปครอบครอง
“ในเมื่อชื่อเสียงของหอเยียนเซียะไม่มีปัญหา เช่นนั้นตอนนี้ข้าต้องการไปจากที่นี่แล้ว ของของข้าก็ควรคืนให้ข้าได้แล้วสินะ?” หลัวซิวลุกยืนขึ้น สายตาตกลงบนหอคอยเล็กสีเงินที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย
“ของของเจ้า? เจ้าล้อเล่นหรือเปล่า? เจ้ามาที่นี่เพื่อประเมินราคาของที่ต้องการขาย กรองแก้วเซียนเจ้าก็ได้รับไปแล้ว ภัณฑ์เซียนที่อยู่ในมือข้าชิ้นนี้ เจ้าได้ขายให้กับข้าแล้ว” ชายชราผมขาวยิ้มกล่าวอย่างเจ้าเล่ห์
“ดูท่าท่านจะไม่ยอมคืนให้ข้าแล้วสินะ?” ความเย็นยะเยือกแวบผ่านไปในดวงตาของหลัวซิว
“ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดอะไรอยู่ หากเจ้าไม่มีสมบัติอะไรที่ต้องการประเมินราคาเพื่อขายอีก เจ้าก็ออกไปได้แล้ว”
ชายชราผมขาวคร้านที่จะเสแสร้งอีกต่อไป ส่งเสียงหึออกมาหนึ่งครั้ง พลังกดดันแดนเซียนกระจายออกมาจากร่าง ถาโถมเข้าไปหาหลัวซิว
เรื่องที่คล้ายกันนี้เขาได้ทำมามากมาย ผู้บำเพ็ญตนอิสระที่นำภัณฑ์เซียนมาขายผู้หนึ่ง ต่อให้ต้องพบเจอกับเรื่องราวเช่นนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของหอเยียนเซียะ ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝนทน
เดิมทีใช้พลังกดดันของมนุษย์อมตะบีบบังคับกึ่งเซียนผู้หนึ่งนั้นมันเป็นเรื่องง่ายมาก ทว่าหลัวซิวกลับยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับว่าพลังกดดันที่ชายชราผมขาวปลดปล่อยออกมา เป็นเหมือนดั่งสายลมอ่อน ๆ ที่พัดมากระทบใบหน้า
หลัวซิวอยากลงมือกำจัดอีกฝ่ายยิ่งนัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ในแดนมนุษย์อมตะ แต่หลังจากที่เขาได้รับต้องห้ามไท่ซ่างที่หกร่างศักดิ์สิทธิ์หวูจี๋ไท่ซ่างฝึกฝนสำเร็จ มีโอกาสชนะเพียงเล็กน้อยหากต้องเผชิญหน้ากับเซียนดิน แต่ถ้าหากเป็นเพียงมนุษย์อมตะ ก็ไม่ยากเลยที่จะเอาชีวิตของอีกฝ่าย
แต่ที่นี่คือหอเยียนเซียะ เขาทราบดีว่าหากลงมือที่นี่ เช่นนั้นแม้ว่าเขาจะยืนอยู่ในเหตุผล ก็จักต้องไม่มีผลลัพธ์ที่ดีอันใดอย่างแน่นอน
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็ได้ระงับความต้องการสังหารที่อยู่ในใจลง กล่าว: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เอาตามที่ท่านกล่าวมาในเมื่อสักครู่ ท่านให้กรองแก้วเซียนชั้นล่างข้าสามแสนก้อน ข้าก็จะไม่เอาภัณฑ์เซียนชิ้นนั้นแล้ว”
พอชายชราผมขาวได้ยินดังนั้น รอยยิ้มก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เขาย่อมมองออกอยู่แล้วว่า เจ้าหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไม่กล้าก่อเรื่องในหอเยียนเซียะ
“เมื่อครู่ข้าได้ให้โอกาสเจ้าไปแล้ว แต่เจ้ากลับไม่คว้ามันเอาไว้ ดังนั้นข้าจะไม่ให้กรองแก้วเซียนกับเจ้าเลยแม้แต่ก้อนเดียว ถือซะว่าเป็นการให้บทเรียนแก่เจ้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวซิวก็ไม่พูดมากอะไรอีก แล้วหันหลังเดินจากไปทันที
“หึ เจ้าคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”
แววความเย้ยหยันแวบผ่านไปในดวงตาของชายชราผมขาว จากนั้นสายตาก็ตกลงไปบนหอคอยเล็กสีเงินที่อยู่ในมือ รอยยิ้มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
เขาสามารถมองออก ภัณฑ์เซียนชิ้นนี้รับรองได้ว่าเป็นของที่ตกทอดมาจากสมัยโบราณ วิธีหลอมอาวุธที่แฝงอยู่ด้านในไม่เคยได้ยินได้เห็นมาก่อน แม้ว่าตัวเขาเองจะสืบเสาะอะไรออกมาไม่ได้เลย แต่แค่นำไปขายต่อ จักต้องมีนักภัณฑ์เซียนระดับสูงมากมายยอมจ่ายราคาแพงเพื่อซื้อมันอย่างแน่นอน
ในตอนนี้เอง ชายชราผมขาวก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังลอยมาจากห้องโถง
“หอเยียนเซียะร้านใหญ่รังแกคน ข้านำสมบัติไปประเมินราคาเพื่อขาย ผู้ประเมินกลับฮุบสมบัติไป อาศัยว่าตนเองมีผลการฝึกตนสูงจึงรังแกข่มเหงข้า......”
ในห้องโถงชั้นหนึ่งของหอเยียนเซียะ หลัวซิวเดินออกมาจากห้องประเมินราคา แล้วตะโกนเสียงดังขึ้นมา เสียงของเขาดังก้องไปทั่วหอเยียนเซียะ
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ผู้คนที่เดินไปมาอยู่ในหอเยียนเซียะต่างก็ชะงัก จากนั้นก็พากันพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา
“ไม่นึกเลยว่าหอเยียนเซียะจะทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้?”
“ข้าได้ยินคนอื่นบอกว่าหอเยียนเซียะมีชื่อเสียงค่อนข้างดีมิใช่หรือ? เหตุใดถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้?”
“ชื่อเสียงของหอเยียนเซียะไม่เลวจริง ๆ แต่ก็มักมีพวกคนขี้โกงไร้ยางอาย สหายคนหนึ่งของข้าก็เคยหถูกตาเฒ่าหวางเต๋ออี้ผู้นั้นเอาเปรียบมาเหมือนกัน”
“......”
ห้องโถงชั้นหนึ่ง ผู้คนที่เดินไปมาอยู่นั้นล้วนเป็นมนุษย์อมตะ หรือไม่ก็นักยุทธ์ชั้นล่างที่มีระดับต่ำกว่ามนุษย์อมตะลงไป หลัวซิวไม่ใช่กรณีแรก เพียงแต่คนที่เคยถูกเอาเปรียบในก่อนหน้านี้ไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น เพราะกลัวว่าจะถูกเอาความในภายหลัง
ตอนนี้มีคนเป็นผู้นำที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หลายคนต่างก็คล้อยตามขึ้นมาทันที หากไม่ใช่มีสหายเคยถูกเอาเปรียบ ก็เป็นตนเองที่เคยถูกเอาเปรียบมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...