มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3103

“ความหวังดีของผู้คุมการลู่ข้าน้อมรับไว้แล้ว แต่ว่าผลการฝึกตนของข้าเป็นเพียงกึ่งเซียน การนำเซียนอัคคีต่างพันธุ์ขั้นสองให้ข้าใช้ มันเป็นการสิ้นเปลืองไปหน่อย”

หลัวซิวยิ้มพลางปฏิเสธอย่างอ่อนโยน เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าต่อให้ผู้คุมการลู่ที่อยู่ตรงหน้านี้จะถือหางเขามากเพียงใด แต่ก็ไม่ถึงขั้นมอบเซียนอัคคีต่างพันธุ์ดวงหนึ่งให้ตัวเองโดยไร้เงื่อนไข

ถึงแม้ผู้คุมการลู่จะบอกแล้วว่าขอแค่ตกลงเงื่อนไขเล็ก ๆ ของเขาก็จะมอบเซียนอัคคีต่างพันธุ์ให้ ทว่าไม่ต้องพูดหลัวซิวก็รู้แล้วว่าเงื่อนไขที่กล่าวถึงนั้น ต้องเป็นการช่วยหอเยียนเซียะกลั่นยาแน่นอน

สาเหตุที่เขากลั่นยานั้น ก็เพื่อทำให้การเพ็ญตนของตัวเองสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นจึงจะไม่ทำให้การฝึกตนของตัวเองล่าช้าเพียงเพราะเรื่องกลั่นยา แม้นเซียนอัคคีต่างพันธุ์จะเป็นอะไรที่ดีเยี่ยมมาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจำเป็นต้องมี

ผู้คุมการลู่คบค้าสมาคมกับผู้อื่นมานาน จึงต้องฟังความหมายในคำปฏิเสธที่อ่อนโยนของหลัวซิวออกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“อย่างนั้นก็น่าเสียดายจริง ๆ”

เขาถอนหายใจพลางส่ายหน้า ดังนั้นจึงไม่พูดเรื่องของเซียนอัคคีต่างพันธุ์อีก ก่อนจะพูด: “ข้าจะให้คนนำวัตถุดิบต่าง ๆ มาให้ท่านชายดูบัดเดี๋ยวนี้เลย”

ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้คุมการลู่ก็หยิบม้วนหยกชิ้นหนึ่งออกมา แล้วใช้ตัวสำนึกบันทึกชื่อของวัตถุดิบต่าง ๆ เข้าไปภายใน

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง สาวใช้ก็เดินมาพร้อมกับถาดรอง ด้านบนมีวัตถุดิบที่มีออร่าเพลิงอัคคีเข้มข้นวางอยู่สามสี่ชนิด

วัตถุดิบเหล่านี้ล้วนเป็นวัตถุดิบที่สามารถทำให้เซียนอัคคีระดับกึ่งเซียนบรรลุเป็นเซียนอัคคีระดับปุถุชน แต่ทว่าคุณภาพดีแย่ของวัตถุดิบจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของเซียนอัคคี

อาทิเช่นเมื่อใช้วัตถุดิบทั่วไปยกระดับเซียนอัคคี เช่นนั้นเซียนอัคคีก็อาจจะหยุดอยู่ที่ระดับปุถุชนตลอดไป ยากที่จะเลื่อนขึ้นไปถึงระดับดิน ระดับชั้นฟ้า และยิ่งไม่ต้องพูดถึงระดับราชาเลย

บนถาดรองคือแก่นสารไฟลายเมฆีวางเรียงรายกันสามสี่ชิ้น แก่นสารไฟลายเมฆีเหล่านี้มีทั้งชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูงและชั้นยอด

คุณภาพยิ่งดี หลังจากเซียนอัคคีเลื่อนขั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพลานุภาพหรือประสิทธิผลในการกลั่นยาหลอมอาวุธก็จะยิ่งดี

ในเมื่อหลัวซิวต้องการบ่มเพาะอัคคีชาตะไร้ลักษณ์ของตัวเอง เช่นนั้นจึงต้องวัตถุดิบที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

ดังนั้นสายตาของเขาจึงร่วงลงบนแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นยอดทันที

“แก่นสารไฟลายเมฆีชิ้นนั้นเท่าไหร่หรือ?”หลัวซิวถาม

“เหอะ ๆ แววตาของท่านชายไท่ซ่างช่างยอดเยี่ยมเสียจริง นั่นคือแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นยอด ซึ่งสามารถทำให้อัคคีชีวีเลื่อนระดับกลายเป็นเซียนอัคคีได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันนี้แซ่ลู่จักลดให้ท่าน 30 เปอร์เซ็นต์ ท่านชายซื้อด้วยกรองแก้วเซียนชั้นล่างสองล้านก้อนก็ได้แล้วขอรับ”ผู้คุมการลู่ยิ้มพลางตอบกลับ

เมื่อได้ยินราคานี้ หลัวซิวก็รู้สึกตะลึงอยู่เล็กน้อย หากไม่มีส่วนลดละกฌ มูลค่าของแก่นสารไฟลายเมฆีชิ้นนี้ก็เทียบเท่ากรองแก้วเซียนเกือบสามล้านก้อนแล้วนะ

และนี่แค่สามารถทำให้อัคคีชีวีเลื่อนระดับเป็นเซียนอัคคีระดับปุถุชนเท่านั้น อนาคตหากต้องการเลื่อนระดับเป็นเซียนอัคคีระดับดิน ระดับชั้นฟ้า แล้ววัตถุดิบที่ใช้จะแพงมากเพียงใดกัน?

แน่นอนอยู่แล้วว่าเนื่องจากหาพบแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นยอดได้ค่อนข้างน้อย อีกทั้งมันสามารถทำให้เซียนอัคคีเลื่อนระดับได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นราคาถึงได้สูงลิ่วเช่นนี้ หากเป็นแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นล่าง ใช้กรองแก้วเซียนแค่หนึ่งแสนก้อนก็สามารถซื้อได้แล้ว แต่หลังจากเลื่อนระดับ จะเป็นเพียงเซียนอัคคีระดับปุถุชนที่ธรรมดาที่สุด

ส่วนมูลค่าของแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นกลางอยู่ที่ประมาณกรองแก้วเซียนหกแสนก้อน มูลค่าของแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นสูงอยู่ที่ประมาณกรองแก้วเซียนหนึ่งล้านก้อน

ไม่ว่าอย่างไรปัจจุบันหลัวซิวก็เป็นเศรษฐีที่มีทรัพย์สินหลักพันล้านแล้ว แม้นมูลค่าของแก่นสารไฟลายเมฆีชั้นยอดชิ้นนี้จะแพงมาก แต่เขาก็ทำการซื้อมาอย่างไม่ลังเลใจอยู่ดี

ในส่วนของเตายาระดับภัณฑ์เซียนนั้น ก็ยิ่งจัดการได้ง่ายมากเลย ตอนนี้เขายังไม่จำเป็นต้องใช้เตายาระดับสูง ดังนั้นเขาจึงทำการซื้อเตายาระดับภัณฑ์เซียนชั้นกลางหนึ่งเตา ซึ่งเสียกรองแก้วเซียนไปหนึ่งล้านกว่าก้อน

หลังจากทำการซื้อของทั้งสองสิ่งนี้ ในมือหลัวซิวยังเหลือกรองแก้วเซียนประมาณห้าล้านกว่าก้อน ซึ่งเพียงพอที่จะสามารถทำให้เขาใช้จ่ายได้อีกระยะหนึ่งแล้ว

ก่อนหน้านี้เนื่องจากทรัพย์สินบนมือไม่ค่อยเอื้ออำนวย ดังนั้นหลัวซิวจึงใช้ยาแลกกับต้นโอสถเซียน ปัจจุบันในเมื่อมีกรองแก้วเซียนแล้ว ดังนั้นเขาจึงทำการซื้อต้นโอสถเซียนจำนวนมากในหอเยียนเซียะโดยตรง

ในโลกามนุษย์ ต้นโอสถเซียนเป็นสิ่งที่ตามหายากมาก ทว่าในโลกเซียน ต้นโอสถเซียนระดับปุถุชนและระดับดินถือว่ามีค่อนข้างมากเลย ซึ่งในหอเยียนเซียะก็มีเก็บไว้ในคลังเยอะมากเช่นกัน

สุดท้ายเมื่อหลัวซิวเดินออกมาจากหอเยียนเซียะ ในแหวนเก็บของของเขาก็เหลือกรองแก้วเซียนชั้นล่างแค่หนึ่งล้านกว่าก้อนแล้ว

……

หอเยียนเซียะมีทั้งหมดหกชั้น สมบัติวัตถุดิบส่วนมากที่รับซื้อและขายในห้องโถงใหญ่ชั้นแรกอยู่ที่ระดับเซียน ชั้นสองสอดคล้องกับระดับเซียนดิน ชั้นสามสอดคล้องกับระดับเซียนชั้นฟ้า ส่วนสมบัติวัตถุดิบที่อยู่สูงกว่าระดับราชาเซียน หอเยียนเซียะไม่ได้รับซื้อหรือขายแต่อย่างใด อย่างไรเสียเทพธิดาหยุนม่านที่อยู่เบื้องหลังหอเยียนเซียะก็เป็นเพียงเซียนชั้นฟ้าตนหนึ่งเท่านั้น

หากในหอเยียนเซียะมีสมบัติระดับราชาเซียน ขอแค่ข่าวคราวแพร่งพรายออกไป และทันทีที่ผู้แข็งแกร่งราชาเซียนเข้ามาแก่งแย่ง ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้ด้วยซ้ำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ