มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3110

ในเมื่อความลับไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เช่นนั้นเผ่ามังกรเซียนจึงอำพรางเรื่องนี้ต่อไปไม่ได้ อย่างไรเสียหากพูดถึงศักยภาพละก็ เผ่ามังกรเซียนยังไม่สามารถต่อกรกับแดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโยวและภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์พร้อมกัน

มิหนำซ้ำความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามังกรเซียนและแดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโยวก็ดีมากด้วย หากทุกคนออกปฏิบัติการพร้อมกันละก็ ทั้งสองฝ่ายยังสามารถร่วมมือกันถ่วงดุลภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ได้อีก

จำนวนคนที่เข้าไปในแดนต้องห้ามกระดูกฝังในครั้งนี้มีไม่มากนัก พวกผู้บำเพ็ญตนอิสระล้วนถูกขับไล่ออกไปหมดแล้ว จำนวนคนในแต่ละกองกำลังก็มีเพียงยี่สิบสามสิบคนเท่านั้น เมื่อรวมเข้าด้วยกันก็มีไม่ถึงร้อย

เทพธิดาจิ่วโยวพาหลัวซิวเดินออกมาจากราชรถ หลัวซิวในวินาทีนี้ได้ใช้วิชาไร้ลักษณ์เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าออร่าไปแล้ว

อย่างไรก็ตามคนทั่วไปไม่สามารถมองทะลุการปลอมตัวของเขา แต่หลงเทียนหลิงและตงฟางหยุนอีกลับเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือราชาเซียน จึงสัมผัสได้ภายในเสี้ยววินาทีว่าพลังออร่าบนตัวเขาผิดปกติ

ทว่าแม้พวกเขาจะดูออกอยู่ว่าหลัวซิวอำพรางตัวตน แต่พวกเขากลับมองความเป็นมาของเขาไม่ออก

ตงฟางหยุนอีหัวเราะเบา ๆ “จิ่วโยวนวี่ เคยได้ยินมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าเจ้าไม่เคยสบอารมณ์ต่อบุรุษคนใดมาก่อน นี่เจ้าแอบเลี้ยงดูหนุ่มหน้าตี๋คนหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ?”

เผ่าจิ่วโยวและเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ไม่ถูกกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อเห็นโอกาสตงฟางหยุนอีย่อมต้องถากถางอยู่แล้ว ถึงนางจะรู้อยู่ว่าจากอุปนิสัยของเทพธิดาจิ่วโยว ไม่มีทางชอบมดตัวจ้อยที่ผลการฝึกตนเป็นเพียงเซียนตนหนึ่ง

“ตงฟางนังผู้หญิงชั้นต่ำ ข้าจักทำอะไรมันก็เรื่องของข้า ถึงคราวเจ้ามาสาระแนแล้วหรือ?”

เทพธิดาจิ่วโยวทำเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง ด่าตงฟางหยุนอีว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำต่อหน้าผู้คน ช่างกล้าหาญจนน่ากลัวจริง ๆ

“เป็นถึงเทพธิดาของเผ่าจิ่วโยวที่สง่าผ่าเผย ไม่นึกเลยว่าจะหยาบคายเช่นนี้!”สีหน้าของตงฟางหยุนอีดูย่ำแย่ลงไปทันที

“เจ้าไม่พอใจรึ? หากเก่งจริงเจ้าก็ต้านรับสามกระบวนท่าของข้าให้ได้ก่อนสิ แล้วต่อไปข้าจะไม่ด่าเจ้าว่าเป็นนังผู้หญิงชั้นต่ำอีก”

เทพธิดาจิ่วโยวมองตงฟางหยุนอีด้วยสายตาที่เหยียดหยามรอบหนึ่ง

ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ล้วนนิ่งเงียบ แม้นเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์และเผ่าจิ่วโยวจะไม่ถูกกัน แต่ทันทีที่พบกัน เทพธิดาของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ถึงขั้นต้องทะเลาะกันรุนแรงขนาดนี้

โดยส่วนใหญ่แล้วคนทั่วไปไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับศึกระหว่างเทพธิดา อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงจะมีสิทธิ์เข้าไปยุ่ง

มีเพียงหลัวซิวที่รู้ว่าสาเหตุที่เทพธิดาจิ่วโยวด่าตงฟางหยุนอีว่านังผู้หญิงชั้นต่ำนั้น เป็นเพราะนางกำลังช่วยตัวเองแก้แค้น

ต่างเป็นเทพธิดาเหมือนกัน เทพธิดาจิ่วโยวเป็นราชาเซียนแล้ว แต่ตงฟางหยุนอีกลับยังคงเป็นเซียนชั้นฟ้า ถึงนางจะเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูง แต่ถ้าเกิดต่อสู้กับเทพธิดาจิ่วโยวจริง ๆ อย่าว่าแต่สามกระบวนท่าเลย แค่สองกระบวนท่าก็คงต้านรับไว้ไม่ได้แล้ว

“ทั้งสองท่านอย่าเพิ่งปะทะฝีปากกันเลย ยังมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ”หลงเทียนหลิงผู้อาวุโสของเผ่ามังกรเซียนทนดูต่อไปไม่ได้แล้ว

แม้การปะทะฝีปากของเทพธิดาจะเป็นอะไรที่ถูกตาสบายใจมาก แต่ก็ต้องแยกแยะเวลาเช่นกัน

สีหน้าของตงฟางหยุนอีเขียวช้ำ เทพธิดาจิ่วโยวทำเสียงหึเบา ๆ ครั้งหนึ่ง ทั้งสองไม่ได้ปะทะฝีปากต่อ ถือเป็นการไว้หน้าหลงเทียนหลิง

คนกลุ่มหนึ่งเริ่มออกเดินทาง เข้าสู่แดนต้องห้ามกระดูกฝัง

แม้จะอยู่ในริมขอบชั้นนอกของแดนต้องห้ามกระดูกฝัง ก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยภยันตรายอยู่ดี ผู้คนเพิ่งเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีฝูงแมลงซื่อเซียนพุ่งเบียดเสียดกันเข้ามา เสมือนกระแสน้ำสีดำ

“ก็แค่แมลงซื่อเซียนสีดำเอง”

หลงเทียนหลิงโบกมืออย่างเย็นชา ผู้แข็งแกร่งเผ่ามังกรเซียนตนหนึ่งจึงก้าวเดินไปด้านหน้า อ้าปากแล้วพ่นอัคคีมังกรที่ร้อนแรงออกมา ทำให้ฝูงแมลงซื่อเซียนถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลี

กลุ่มคนที่มีคุณสมบัติถูกคัดเลือกให้มาสำรวจในแดนต้องห้ามกระดูกฝัง ผลการฝึกตนของทุกคนล้วนไม่ต่ำกว่าเซียนชั้นฟ้า จึงไม่เกรงกลัวแมลงซื่อเซียนที่แม้แต่ระดับเซียนยังบรรลุไม่ถึงอยู่แล้ว ต่อให้เป็นฝูงแมลงซื่อเซียนสีม่วง พวกเขาก็ไม่เกรงกลัว

อย่างไรก็ตามแมลงซื่อเซียนกลับเป็นเพียงภยันตรายที่พบได้บ่อยที่สุดในแดนต้องห้ามกระดูกฝัง สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือญาณมรณะที่น่าสยดสยองนั่น เพราะญาณมรณะทุกดวงล้วนมีศักยภาพที่อยู่เหนือราชาเซียน

ผู้คนมุ่งไปด้านหน้าต่อ ระหว่างทางก็เจอฝูงแมลงซื่อเซียนติดต่อกันอีกสองสามครั้ง ทว่ากลับหยุดยั้งฝีเท้าของเหล่าผู้แข็งแกร่งวิถีเซียนไม่ได้

จากการที่ยิ่งอยู่ยิ่งลึกเข้าไป ออร่าเงียบสงัดที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ก็ยิ่งอยู่ยิ่งน่ากลัว จากนั้นก็มียักษ์กระดูกขาวตนหนึ่งที่สูงสามพันกว่าเมตรปรากฏด้านหน้า

มือข้างหนึ่งของยักษ์กระดูกขาวกำลังถือศพมังกรครึ่งท่อนที่เลือดอาบท่วมตัว มันยกศพมังกรขึ้นมากัดกินอยู่เป็นระยะ ๆ เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด กระดูกมังกรที่แข็งแรงถูกเคี้ยวจนเสียงดังกรอบแกรบ ทำให้ผู้คนขนหัวลุกซู่

“ไอ้สารเลว!”

หลงเทียนหลิงโกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง เพราะศพมังกรครึ่งท่อนที่ถูกฉีกกระชากก็คือผู้อาวุโสระดับกษัตริย์เซียนตนหนึ่งในเผ่ามังกรเซียนของพวกเขานั่นเอง

“โฮกก!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ