ข่าวถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เรื่องการปรากฏของวังปี้โหยว ส่งผลต่อเส้นประสาทของทุกฝ่าย
ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ คนมีพรสวรรค์ประสบโอกาสอันดี ภูมิภาคสิบลี้ ผู้แข็งแกร่งคนแล้วคนเล่าได้มาถึงภูมิภาคสามยอดกระทั่งที่ว่าในนั้นยังมีผู้สำเร็จวิถีเซียนที่ได้หลบซ่อนจากโลกมาเป็นเวลานานแสนนานปะปนอยู่ไม่น้อย
ตำนานเล่าว่า จักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ได้หายตัวไปหลังจากเข้าไปในวังปี้โหยว ด้วยเหตุนี้เมื่อวังปี้โหยวได้ปรากฏขึ้น ผู้ที่เคลื่อนไหวเร็วที่สุดย่อมเป็นเขาภูตศักดิ์สิทธิ์
ในวันนี้ มีกระแสพลังอันยิ่งใหญ่ไพศาลน่าสะพรึงกลัวปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ผู้คนที่อยู่ในภูมิภาคสามยอดต่างก็สัมผัสได้ถึงความกดดันอันยิ่งใหญ่ไพศาล
แรงกดดันปกคลุมไปทั่วภูมิภาค นี่เป็นพลังอำนาจที่มีเพียงผู้สำเร็จวิถีเต๋าที่ก้าวเข้าสู่ระดับเซียนสูงสุดเท่านั้นถึงจะทำได้!
วังปี้โหยว เส้นทางเลิศล้ำ เบาะแสที่ลึกลับของจักรพรรดิเซียนในแต่ละยุคสมัย ให้ผู้คนรุ่นหลังแข่งกันสืบเสาะตามหา คนข้างหน้าล้มคนข้างหลังเข้ามาเสริม
ในขณะเดียวกัน การมีอยู่ของวังปี้โหยวก็มิได้เป็นความลับอีกต่อไป นักยุทธ์จำนวนนับไม่ถ้วนต่างพากันรีบเดินทางมา
คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเข้าไปในวังปี้โหยว เพราะอย่างไรเสียหลังจากจักรพรรดิเซียนในแต่ละยุคสมัยได้เข้าไปแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
แต่ที่ทำให้ผู้คนไม่เข้าใจคือ ในอดีตเคยมีผู้สำเร็จเซียนสูงสุดได้ติดตามจักรพรรดิเซียนเข้าไปด้านใน แต่สุดท้ายมีเพียงเซียนสูงสุดเท่านั้นที่กลับมา ทว่าจักรพรรดิเซียนกลับไม่ได้กลับมาอีกเลย
มีคนต้องการสืบเสาะความลับของวังเลิศล้ำ และมีคนต้องการตามหาเส้นทางเลิศล้ำที่อยู่ในวังปี้โหยวสายนั้น
ส่วนบรรดานักยุทธ์ธรรมดาทั่วไปที่มาชื่มชมความสนุกพวกนั้น พวกเขาเพียงแค่ต้องการได้มองหนึ่งในวังเลิศล้ำในตำนานด้วยความเคารพเท่านั้นเอง
หลัวซิวไม่คิดไปที่นั่นเลยสักนิด แต่เลือกที่จะออกห่าง ตอนนี้ความสนใจของแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ได้ถูกวังปี้โหยวดึงดูดไป มันเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะหลบหนีไปจากที่นี่
จากภูมิภาคขีดจัตุมาจนถึงภูมิภาคสามยอดและจากภูมิภาคสามยอดไปยังภูมิภาคเบญจธาตุ บวกกับวิชาไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างของเขา ต่อให้เผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์กับชนเผ่าดึกดำบรรพ์มีฝีมือเหนือฟ้า ก็ไม่มีทางที่จะตามหาเขาพบ
ผ่านไปไม่นาน หลัวซิวก็ได้ยินข่าวอย่างอื่น ผู้สำเร็จวิถีเซียนของแดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโยวก็ได้มายังภูมิภาคสามยอดและได้ต่อสู้กับผู้สำเร็จวิถีเซียนของเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ ทำลายผืนแผ่นดินไปนับล้านลี้
เหตุการณ์นี้ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาไม่น้อย หลัวซิวเดาว่าอาจเป็นเพราะเรื่องแดนต้องห้ามกระดูกฝัง
แม้ว่าเขาภูตศักดิ์สิทธิ์จะได้รับความสูญเสียอย่างหนักในแดนต้องห้ามกระดูกฝัง แต่ก็ได้เป็นฝ่ายรอบโจมตีก่อน เกือบทำให้ผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโยวมีอันตรายถึงชีวิต
เป็นหนึ่งในหกเผ่าพันธุ์โบราณเหมือนกัน และมีการถ่ายทอดของจักรพรรดิเซียนเหมือนกัน แดนศักดิ์สิทธิ์จิ่วโยวย่อมจะไม่ยอมกลืนความคับแค้นนี้เอาไว้อยู่แล้ว
บัดนี้ภูมิภาคสามยอดตกอยู่ในความโกลาหล หลัวซิวเองก็ไม่กล้าขับขี่เข็มทิศสาสน์เต๋าสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่แน่ว่าด้วยความไม่ทันระวัง อาจต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหาเซียนเข้าโดยบังเอิญก็ได้ หรืออาจถึงขั้นเป็นผู้สำเร็จเซียนสูงสุด
ผ่านไปอีกหลายวัน ข่าวที่น่าตกใจยิ่งกว่าได้แพร่กระจายมา ผู้สำเร็จเซียนสูงสุดของเผ่าพันธุ์มังกรเซียนกับผู้สำเร็จเผ่าจิ่วโยวได้ร่วมมือกัน สังหารเซียนสูงสุดผู้นั้นของเขาภูตศักดิ์สิทธิ์!
หลังจากยุคโบราณหลังเป็นต้นมา ในยุคปัจจุบัน เซียนสูงสุดพบเห็นได้น้อย มกุฎเซียนไม่ปรากฏ จักรพรรดิเซียนไร้ร่องรอย
เซียนสูงสุดถูกสังหาร มันเป็นเรื่องใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั่วภูมิภาคสิบลี้อย่างแน่นอน ต่อให้เป็นหลัวซิวเมื่อได้ยินข่าวนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
“ในยุคบรรพกาล เผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์โหดเหี้ยมจนเกินไป นับตั้งแต่จักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ได้หายตัวไป เผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ถูกทุกฝ่ายล้อมโจมตี ได้รับความเสียหายอย่างหนัก”
“ลือกันว่าในยุคบรรพกาล เผ่าจิ่วโยวกับเผ่าพันธุ์มังกรเซียนได้ถูกเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์กดขี่ข่มเหงอย่างรุนแรง”
“นั่นเป็นผู้สำเร็จเซียนสูงสุดเชียวนะ กลับถูกสังหารไปเช่นนี้ เกรงว่าเขาพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์คงต้องแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเป็นแน่”
หลัวซิวได้ยินผู้คนคุยกันต่าง ๆ นานา คลื่นลูกใหญ่ที่เกินขึ้นเพราะวังปี้โหยว รุนแรงยิ่งกว่าโบราณสถานปีศาจมังกรกับแดนต้องห้ามกระดูกฝังในภูมิภาคขีดจัตุเสียอีก
“ได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ได้พากันปิดผนึกภูมิภาคสามยอดเป็นที่เรียบร้อย เกรงว่าการปรากฏของวังปี้โหยว จะก่อให้เกิดศึกครั้งใหญ่ระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์”
เมื่อหลัวซิวได้ยินข่าวคราวเช่นนี้ มันทำให้เขาไม่สบายใจขึ้นมา เพราะเช่นนี้ก็หมายความว่าเขาไม่สามารถไปจากภูมิภาคสามยอดได้ ความคิดที่จะไปลี้ภัยยังภูมิภาคเบญจธาตุ ได้แต่ล้มเลิกไป
แดนศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกันปิดผนึกภูมิภาค นั่นเป็นแนวป้องกันที่แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับมหาเซียนยังไม่อาจข้ามผ่านได้ ด้วยความสามารถของเขาไม่มีทางที่บุกออกไปได้อย่างแน่นอน
“ดูท่าข้าคงทำได้เพียงซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ เพื่อรอให้พายุลูกนี้ผ่านพ้นไป”
แม้ว่าจะจนปัญญา แต่หลัวซิวก็มิได้กังวลใจนัก เขามีวิชาไร้ลักษณ์ไร้รูปร่าง หากต้องการซ่อนตัวจริง ๆ ไม่ว่าผู้ใดก็อย่าคิดที่จะหาเขาเจอ
ในเมื่อมีแผนการอยู่ในใจแล้ว หลัวซิวก็เตรียมหาสถานที่เพื่อหลบซ่อนตัว ในมือเขายังมีราชาสมุนไพรอยู่อีกหลายต้น อยากมาก็แค่ปิดขังฝึกตนสองสามปี ไม่แน่ว่าเมื่อพายุลูกนี้ผ่านไป เขาอาจมีผลการฝึกตนในแดนเซียนชั้นฟ้าแล้วก็เป็นได้
นี่คือป่าภูเขาที่ขาดแคลนปราณทิพย์เซียน โดยปกติแล้ว ยิ่งเป็นสถานที่ที่ขาดแคลนปราณทิพย์เซียน ก็ยิ่งแทบจะไม่มีสมบัติวิเศษใด ๆ อยู่เลย ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ น้อยมากที่จะมีคนมาเยือน
ในรัศมีเกือบสิบสิบล้านลี้ ไม่มีเมืองเซียนอยู่เลย ปราณทิพย์เซียนขาดแคลนอย่างน่าสงสาร
นักยุทธ์โดยธรรมดาทั่วไปต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะมีในสถานที่เช่นนี้ กลัวว่าจะชะลอความก้าวหน้าของระดับผลการฝึกตนของตนเอง ทว่าสำหรับหลัวซิวแล้ว ยิ่งเป็นสถานที่แบบนี้ กลับยิ่งปลอดภัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...