มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3138

“ไร้ลักษณ์ไร้รูปร่าง......”

ทันใดนั้น เงาร่างของหลัวซิวพลันหายไป ไม่มีความผันผวนใด ๆ เกิดขึ้นเลย

ราชาเซียนชุดดำถึงกับต้องตกตะลึง พลังวิญญาณราชาเซียนที่แข็งแกร่งแผ่ซ่านออกไป และค้นความผิดปกติขึ้นมาในทันที

“ผลัวะ!”

เลือดสด ๆ พุ่งกระฉูด แขนข้างหนึ่งของราชาเซียนชุดดำถูกตัดขาด

“รนหาที่ตาย!”

ราชาเซียนชุดดำตวาดด้วยความโมโห ในขณะที่หลัวซิวตัดแขนอีกฝ่ายขาด อีกฝ่ายก็ได้ซัดเข้าที่หน้าอกของหลัวซิวเช่นเดียวกัน

การโจมตีในหนึ่งครั้งของราชาเซียนนั้นร้ายกาจเพียงใด ต่อให้เป็นร่างเนื้อที่เทียบเท่ากับภัณฑ์เซียนชั้นยอดก็ยากที่จะต่อต้าน ร่างของหลัวซิวเองก็ได้ลอยปลิวออกไป หน้าอกของเขาถึงกับยุบลงไป เลือดไหลอาบไปทั่วร่าง

เสียงดังระเบิด ร่างของหลัวซิวกระแทกเข้ากับยอดเขาแห่งหนึ่ง ยอดเขาลูกนี้ได้พังทลายกลายเป็นฝุ่นละอองไปในทันที

ดาบหักเซียนนั้นไม่ใช่สิ่งธรรมดา แขนที่ถูกตัดของราชาเซียนชุดดำ บาดแผลยากที่จะห้ามเลือด เลือดเนื้อไม่อาจเกิดใหม่ และไม่สามารถต่อแขนที่ขาดได้

สีหน้าท่าทางของราชาเซียนชุดดำเยือกเย็นจนถึงขีดสุด “คิดไม่ถึงว่าราชาเซียนอย่างข้า จะได้รับความอัปยศครั้งใหญ่เช่นนี้ภายใต้เงื้อมมือของเซียนดินผู้น้อยอย่างเจ้า”

“และข้าก็คิดไม่ถึงว่า เซียนดินเล็ก ๆ อย่างเจ้า จะมีทรัพย์สมบัติที่สำคัญที่ทัดเทียมภัณฑ์จักรพรรดิถึงสองชิ้น!”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไปตายเสียเถอะ ฆ่าเจ้าแล้วก็จะได้ภัณฑ์จักรพรรดิสองชิ้นมาครอง สังหารเทพธิดาดึกดำบรรพ์ข้าก็จะได้รับลิขิตเลื่อนขั้นสู่กษัตริย์เซียน!”

ระหว่างที่พูดนั้น ราชาเซียนชุดดำเปิดเผยข้อมูลสำคัญออกมา เขารับคำสั่งมาสังหารเทพธิดาดึกดำบรรพ์ ดูเหมือนว่ารางวัลจะเป็นลิขิตในการสำเร็จแดนกษัตริย์เซียน

สำหรับเรื่องนี้หลัวซิวกลับรู้สึกเย้ยหยันยิ่งนัก เขากล่าวเยาะเย้ย: “ท่านเป็นถึงราชาเซียนผู้หนึ่ง ถูกผู้อื่นใช้เป็นหมากยังไม่รู้ตัว เทพธิดาดึกดำบรรพ์มีสถานะในระดับใด? หากท่านฆ่านางแล้วจริง ๆ ผู้ที่อยู่ด้านหลังของท่านจักต้องฆ่าท่านปิดปากแน่ เป็นไปได้อย่างไรที่จะมอบลิขิตในการสำเร็จแดนกษัตริย์เซียนให้ท่าน?”

“เรื่องของข้า ใช่เรื่องที่ผู้น้อยอย่างเจ้าจะมาเที่ยววิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างไรกัน?”

ราชาเซียนชุดดำเดินเหยียบอากาศเข้ามา แม้ว่าเขาเหลือเพียงแขนข้างเดียวที่ใช้ได้ แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับเขาแล้ว มันไม่มีผลกระทบต่อพลังการต่อสู้สักเท่าไรนัก

ระหว่างที่พูด ราชาเซียนชุดดำได้จู่โจมเข้ามาทันที การโจมตีรวดเร็วดั่งสายฟ้า

ฝ่ามือในเมื่อสักครู่ ทำให้หลัวซิวได้รับบาดเจ็บหนัก แม้ว่าไร้ลักษณ์จะแปรผันลิขิตชีวิตได้ แต่การบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรงก็ไม่ใช่ว่าจะฟื้นฟูได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น

เขามิได้เลือกรับมือกับอีกฝ่ายซึ่ง ๆ หน้า ดังนั้นจึงขับเคลื่อนเทเลพอร์ต ไร้ลักษณ์ไร้รูปร่าง หายไปในพริบตา

“ตูม!”

เท้าข้างหนึ่งของราชาเซียนชุดดำกระทืบลงไปบนพื้น รอยแตกขนาดใหญ่สายแล้วสายเล่ากระจายออกไปเป็นวงกว้าง อานุภาพเป็นที่น่าทึ่ง

แม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งโลกยุทธ์ที่ไม่ได้ฝึกฝนวิชากลั่นร่างโดยตรง แต่เมื่อบรรลุถึงแดนราชาเซียน ภายใต้การหล่อเลี้ยงของจิตเซียนตลอดทุกวันคืนก็จะทำให้ร่างเนื้อแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ

การโจมตีครั้งนี้ไม่โดนเป้าหมาย ราชาเซียนชุดดำยกฝ่ามือหนึ่งขึ้น ฝ่ามือบดบังท้องฟ้า แล้วเลื่อนกดทับลงไป

เหมือนดั่งฟ้าดินมีพายุฝนโหมกระหน่ำ ท้องฟ้าผืนใหญ่ถูกกระแทกพังทลายลง แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ พลังการต่อสู้ของราชาเซียนผู้หนึ่ง ก็ยังคงน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด

“พรึบ!”

ดาบเซียนที่รายล้อมไปด้วยสายฟ้าลอยออกมาจากตรงกลางระหว่างคิ้วของราชาเซียนชุดดำ ดาบเซียนเล่มนี้มิใช่ภัณฑ์เซียนชาตะของเขา แต่ก็เป็นภัณฑ์เซียนผู้ชนะเหมือนกัน สามารถตัดทุกสิ่งอย่าง

“ดูท่าท่านจะยังไม่ได้รับบทเรียนสินะ”

หลัวซิวยิ้มเยาะ เขาไม่เลือกที่จะหลบการโจมตีครั้งนี้ แต่ได้ขยับดาบหักเซียน ตัดดาบเซียนที่ฟันเข้ามา

“แม้ว่าภัณฑ์จักรพรรดิจะแข็งแกร่งก็ตาม ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้ามีพลังการฝึกตนมากแค่ไหนมาขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง”

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นมาที่มุมปากของราชาเซียนชุดดำ ทันใดนั้นนิ้วทั้งงห้าของเขาก็กางออก มิได้จู่โจมด้วยร่างแท้ แต่ได้ใช้จิตเซียนกลายรูปเป็นมือขนาดยักษ์ เหมือนดั่งกรงเล็บของมังกรสายฟ้า

“ที่แท้ท่านก็คิดจะให้ข้าใช้พลังหมดนี่เอง”

หลัวซิวเข้าใจแผนการของราชาเซียนชุดดำขึ้นมาทันที ก็เหมือนกับที่อีกฝ่ายได้กล่าว แม้ว่าดาบหักเซียนกับภาชนะติ่งปีศาจมังกรจะร้ายกาจ แต่ทุกครั้งที่เคลื่อนใช้ล้วนสูญเสียจิตเซียนเป็นจำนวนมาก

หากราชาเซียนชุดดำลงมืออย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่เลือกที่จะหลบ เขาก็ต้องเคลื่อนใช้ภาชนะติ่งปีศาจมังกรกับดาบหักเซียนมารับมือ เช่นนี้แล้ว จิตเซียนของเขาก็จะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งไม่สามารถเคลื่อนใช้ภัณฑ์จักรพรรดิได้ หรือใช้ออกมาไม่ได้แม้กระทั่งเทเลพอร์ต

ภายใต้สถานการณ์สิ่งหนึ่งมลายสิ่งใหม่เข้ามาแทน พลังของราชาเซียนชุดดำกลับถูกใช้ไปไม่มากนัก ผลลัพธ์สามารถรู้ได้โดยไม่ต้องพูด

แต่ถึงแม้หลัวซิวจะรู้ว่าเป็นเช่นนั้น กลับยังคงต้องพึ่งพาอานุภาพของภัณฑ์จักรพรรดิ มิเช่นนั้นคงมีเพียงใช้สองมหาพลังอมตะอย่างเข้าล็อกเดิมกับหวูจี๋ ถึงจะมีต้นทุนในการต่อสู้ซึ่งหน้ากับราชาเซียน

แต่พลังอมตะทั้งสองแขนงนี้ก็ต้องใช้พลังมากเช่นเดียวกัน

“เจ้าหนีไม่พ้นหรอก ถูกกำหนดไว้แล้วว่าวันนี้เจ้าจักต้องตายในเงื้อมมือของข้า”

แววความเย็นยะเยือกได้ปรากฏขึ้นมาในดวงตาของราชาเซียนชุดดำ นิ้วมือจิ้มลงไปในอากาศอย่างต่อเนื่อง อัสนีสองสามสายลอยออกมา กรีดฉีกปริภูมิ

เห็นได้ชัด คนผู้นี้คือราชาเซียนที่ฝึกฝนพลังแห่งกฎอัสนี แม้ว่าหลัวซิวต้องการขับเคลื่อนเข็มทิศสาสน์เต๋าเพื่อหลบหนี อีกฝ่ายก็ยังคงสามารถตามทันได้อย่างง่ายดาย

พลังวิญญาณถูกภัณฑ์จักรพรรดิทั้งสามทำลายทันที ราชาเซียนชุดดำที่อยู่ด้านนอกส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างทุกข์ทรมาน เลือดไหลออกทางทวารทั้งเจ็ด ร่างลอยปลิวออกไป

“ถึงแม้เจ้าจะเป็นราชาเซียน กล้าเข้ามาในตัวหยั่งรู้ของข้า ก็เท่ากับเป็นการรนหาที่ตาย"

หลัวซิวสลับตนกลายเป็นฝ่ายรุกทันที เมื่อสักครู่เขาได้จงใจเปิดเผยช่องโหว่ออกมา เขาเชื่อว่าทันทีที่มีโอกาส อีกฝ่ายจักต้องพยายามสอดส่องเข้ามาในตัวหยั่งรู้ของตน เพื่อสืบค้นความลับของภัณฑ์จักรพรรดิและพลังอมตะจากความทรงจำของเขา

ขอเพียงอีกฝ่ายตกหลุมพราง เช่นนั้นทันทีที่มีพลังวิญญาณเข้ามาในตัวหยั่งรู้ เขาก็จะขับเคลื่อนภัณฑ์จักรพรรดิทั้งสามสังหารได้ทันที ทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

“ตึง!”

ภาชนะติ่งปีศาจมังกรถูกหลัวซิวถือเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว ออกแรงแกว่ง แล้วมันก็ได้กระแทกเข้าใส่ร่างของราชาเซียนชุดดำอย่างรุนแรงไร้ขีดสุด

“กร๊อบ!”

แรงโจมตีของภัณฑ์จักรพรรดิ แม้จะไม่ได้ขับเคลื่อนพลังเพิ่มเติม อาศัยเพียงพลังของตัวภัณฑ์จักรพรรดิเท่านั้น ก็ยังกระแทกจนกระดูกสันหลังของราชาเซียนชุดดำแหลกละเอียด

“ส่งเจ้าออกเดินทาง”

หลัวซิวมิได้คิดที่จะเยาะเย้ยอีกฝ่าย ดาบหักเซียนลอยผ่านอากาศ เสียงผลัวะดังขึ้นหนึ่งครั้ง ศีรษะของราชาเซียนผู้นี้ถูกตัดแยกจากร่าง

“ตึง!”

เขากระทืบเท้าข้างหนึ่งลง ภูเขาสั่นสะเทือน ท้องฟ้าสั่นสะท้าน ศีรษะของราชาเซียนถูกเขาเหยียบจนแหลกละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้ภูตเซียนได้ซ่อนตัว

แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ที่ถูกดาบหักเซียนสังหาร ภูตเซียนก็จะพลอยถูกไอสังหารของหักเซียนจู่โจมเช่นกัน ไม่มีโอกาสที่จะรอดไปได้เลยด้วยซ้ำ

ยกมือเซ่นเซียนอัคคีไร้ลักษณ์ออกมาเพื่อลบร่องรอยทั้งหมด การเคลื่อนไหวของหลัวซิวไม่ได้หยุดชะงักเลย ใช้ไร้ลักษณ์ไร้รูปร่างออกมาเพื่อปกปิดกลิ่นอาย แล้วจากไปทันที

เมื่อก่อนคิดว่ามาซ่อนตัวที่ภูมิภาคสามยอดก็จะปลอดภัยแล้ว คิดไม่ถึงว่าวังปี้โหยวจะปรากฏ ทำให้ภูมิภาคสามยอดวุ่นวายยิ่งกว่าภูมิภาคขีดจัตุในก่อนหน้านี้เสียอีก

แถมตอนนี้ยังได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการไล่สังหารเทพธิดาดึกดำบรรพ์ สำหรับหลัวซิวภูมิภาคสามยอดแห่งนี้อันตรายเกินไป ทำได้เพียงหนีไปให้ไกล

“ตอนนี้ทั่วทั้งภูมิภาคสามยอดได้ถูกบรรดาแดนศักดิ์สิทธิ์ปิดผนึก ข้าหลบหนีออกไปไม่ได้ คงทำได้เพียงซ่อนตัวแล้ว”

ใช้ไร้ลักษณ์แปรผัน หลัวซิวกลายร่างเป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนมีผลการฝึกตนเพียงในแดนกึ่งเซียน แล้วเข้าไปในเมืองเซียนแห่งหนึ่ง

ดังคำกล่าวที่ว่ามีชีวิตสันโดษในป่าขาไม่เที่ยงแท้ มีชีวิตสันโดษในเมืองได้คือแท้จริง ก่อนหน้านี้เขาต้องการซ่อนตัวปิดขังฝึกตนอยู่ในสถานที่ที่ขาดแคลนปราณทิพย์เซียน ด้านความปลอดภัย อาจไม่สู้ซ่อนตัวอยู่ในเมืองเซียนเสียด้วยซ้ำ

เพียงแต่สำหรับการฝึกตนเพิ่มระดับ อย่างหลังสู้อย่างแรกไม่ได้ เพราะหากฝึกตนอยู่ในเมืองเซียน หากความเคลื่อนไหวใหญ่เกินไป อาจทำให้เกิดปัญหาได้ง่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ