หลัวซิวนั่งอยู่บนที่นั่งของตัวเองอย่างเงียบ ๆ หลังจากได้ยินฝ่ายตรงข้ามเสนอราคาสามล้าน ก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า
พูดตามตรงเลยว่าเขากังวลจริง ๆ ว่าฝ่ายตรงข้ามจะไม่เสนอราคาต่อ บนตัวเขาไม่มีกรองแก้วเซียนที่เยอะถึงขั้นจะซื้อราชาสมุนไพรของตัวเองกลับคืนมา มิหนำซ้ำเซียนอัคคีต่างพันธุ์ที่เขาประมูลมายังต้องใช้กรองแก้วเซียนที่ได้จากการขายราชาสมุนไพรมาจ่ายอีก
ดังนั้นหลัวซิวจึงเงียบไม่พูดอะไร และเขาก็ค่อนข้างพึงพอใจกับราคาสามล้านด้วย
“ยังมัวนั่งบื้ออยู่กระไร? ไม่ได้ยินรึว่ามีคนเสนอราคาที่สูงกว่าแล้ว?”จี้เฉินมองนักประมูลที่ใบหน้าเหม่อลอยรอบหนึ่ง
“ห๊ะ?”
นักประมูลดึงสติกลับมาได้ รู้สึกแค่ว่าเหงื่อแตกท่วมตัว ก่อนจะรีบตะโกนเสียงดังว่า “ยังมีคนใดจักเสนอราคาที่สูงกว่านี้อีกหรือไม่?”
คำถามแบบเดียวกันถูกถามต่อเนื่องกันสามครั้ง ทั้งห้องโถงใหญ่เงียบสงัดถึงขั้นที่สามารถได้ยินเสียงเข็มที่ร่วงหล่นลงพื้น
“ขอแสดงความยินดีกับห้องที่นั่งพิเศษหมายเลข 1003 ด้วยที่ประมูลกิเลนเขียวราชาสมุนไพรเม็ดนี้สำเร็จ!”
เมื่อนักประมูลเคาะค้อนในมือลงมา ประตูของห้องที่นั่งพิเศษหมายเลข 1003 ก็ถูกเปิดออก ก่อนจะมีชายผู้มีผลการฝึกตนเซียนชั้นฟ้าขั้นสูงคนหนึ่งเดินออกมาด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง
เห็นเพียงทันทีที่คนดังกล่าวปรากฏ สายตาและตัวสำนึกก็ผนึกไปทางหลัวซิวที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องโถงใหญ่ภายในพริบตา เงาร่างกระพริบครั้งหนึ่ง ปรากฏตรงหน้าเขาโดยตรง
มีความดูถูกเหยียดหยามปนอยู่ในแววตาเขา “แค่เซียนดินกระจอก ๆ ก็บังอาจล่วงเกินราชาเซียน ไอ้โง่เง่าที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นประโยคหนึ่ง ชายผู้มีผลการฝึกตนเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูงคนนี้ก็ลงมือโจมตีภายในเสี้ยววินาทีแล้ว มีจิตเซียนผนึกรวมอยู่กลางฝ่ามือ
“ไสหัวไป!”
หลัวซิวยกเท้าขึ้นมาถีบครั้งหนึ่ง ภายใต้ผลกระทบจากเกณฑ์การลดเวลา ฝ่ามือของฝ่ายตรงข้ามยังไม่ทันร่วงลงมา เท้าเขาก็ถีบใส่ท้องของฝ่ายตรงข้ามก่อนแล้ว
เสียงปั้งดังขึ้น ชายผู้มีผลการฝึกตนเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูงก็ถูกถีบจนกระเด็นออกไป ร่างกายที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศระเบิดแตกเป็นหมอกเลือด
ร่างเนื้อของหลัวซิวเทียบทัดภัณฑ์เซียนชั้นยอด ซึ่งหมายความว่าการถีบในครั้งนี้ของเขาเทียบเท่าพลังโจมตีครั้งหนึ่งของภัณฑ์เซียนชั้นยอด
เมื่อชายเซียนชั้นฟ้าขั้นสูงนั่นกระแทกลงพื้น เนื้อหนังทั้งร่างกายก็เละจนน่าอนาถมาก ก่อนจะเป็นลมหมดสติคาที่
ภายในเสี้ยววินาทีเดียว ทุกคนที่มองเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวล้วนผงะไปหมดแล้ว ชายหนุ่มที่คลื่นผลการฝึกตนเป็นเพียงเซียนดินตนหนึ่ง ถึงกับถีบผู้แข็งแกร่งระดับเซียนชั้นฟ้าขั้นสูงเป็นลมภายในครั้งเดียวอย่างนั้นหรือ ตกลงเจ้าหมอนั่นคือผู้ใดกันแน่?
บัดนี้ไม่มีผู้ใดมองหลัวซิวเป็นเซียนดินตนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเซียนดินไม่มีทางทำเช่นนี้ได้ด้วยซ้ำ คนดังกล่าวบังอาจยั่วยุราชาเซียน เช่นนั้นเขาก็มีโอกาสเป็นราชาเซียนตนหนึ่งสูงมาก
“ช่างกล้าหาญยิ่งนัก!”
ชายหนุ่มที่อยู่ในห้องที่นั่งพิเศษหมายเลข 1003 ลุกพรวดขึ้นมา จิตสังหารตลบฟุ้งออกมาจากร่างกาย ตั้งแต่เขาฝึกตนจนบรรลุเป็นราชาเซียนเป็นต้นมา เขาก็เป็นฝ่ายที่กดขี่ข่มเหงผู้อื่นมาโดยตลอด ซึ่งเคยถูกผู้อื่นกดขี่เช่นนี้เมื่อไหร่?
“เหอะ ๆ วันนี้กูก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตาแล้ว เป็นเพียงงานประมูลเล็ก ๆ ในเมืองเซียนธรรมดา ๆ ไม่นึกเลยว่าจะมีคนบังอาจไม่นำสำนักเซียนเจ็ดดาวของเราไปไว้ในสายตา”
มีเงาดำอีกร่างหนึ่งเดินออกมาจากห้องที่นั่งพิเศษที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งบนตัวคนดังกล่าวก็มีพลังออร่าของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนเช่นกัน
“ราชาเซียนสองตน!”
งานประมูลวุ่นวายอลหม่าน คนจำนวนไม่น้อยเริ่มปลีกตัวออก เพราะทันทีที่ผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนก่อสงครามที่นี่อย่างอุกอาจ ทั้งงานประมูลต้องถูกทำลายล้างแน่นอน
สำนักเซียนเจ็ดดาวคือกองกำลังระดับราชาเซียนในภูมิภาคสามยอด โดยที่มีราชาเซียนทั้งหมดสองตน ซึ่งได้แก่เจ้าสำนักสำนักเซียน รวมไปถึงรองเจ้าสำนักสำนักเซียน
“จักลงมือหรือ?”
หลัวซิวค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน แสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางพูด: “พวกมึงทั้งสองจะเข้ามาพร้อมกัน หรือเข้ามาทีละคน?”
เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หลัวซิวเข้าใจดีมาก ๆ ว่าพูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ สิ่งเดียวที่สามารถตัดสินได้ก็คือศักยภาพ
หากเป็นอดีต เมื่อเผชิญหน้ากับราชาเซียน หลัวซิวยังต้องคอยพะวงหน้าพะวงหลังอยู่ ทว่าตั้งแต่เคยสู้กับผู้แข็งแกร่งราชาเซียนเมื่อครั้งก่อน สภาพจิตใจของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ต่อให้ไม่ใช้ยุทธภัณฑ์เซียนระดับภัณฑ์จักรพรรดิทั้งสาม แค่อาศัยร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่เทียบทัดภัณฑ์เซียนชั้นยอด ควบคู่กับพลังอมตะสองวิชาที่เขาริเริ่ม เขาก็ไม่เกรงกลัวราชาเซียนธรรมดาแล้ว
สำนักเซียนเจ็ดดาวเป็นเพียงกองกำลังธรรมดาทั่วไป ต่อให้มีราชาเซียนคงอยู่ แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก
“กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงมีปัญญาความสามารถอย่างไร!”
เสียงตะคอกที่โกรธเกรี้ยวดังขึ้น ผู้ที่ลงมือคือ ต้วนหย่งรองเจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาว เห็นเพียงทันทีที่เขาง้างมือขึ้นมา ก็มีเงากระบี่ที่นับไม่ถ้วนปรากฏ ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่แล้วแผ่คลุมไปทางหลัวซิว
พลังโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนนั้นเกะกะระรานมากเพียงใด จิตสังหารที่รวดเร็วและดุดันตลบฟุ้งออกไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงใหญ่งานประมูลต่างพากันหลบหนี ไม่กล้าอยู่ต่อ เกรงว่าจะโดนลูกหลงไปด้วย
เจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวกัดฟันแน่น มาตรแม้นว่าเป็นราชาเซียน แต่ถ้าเกิดได้ปะทะกับพวกกองกำลังใหญ่ที่แท้จริง สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียงมดตัวจ้อยเท่านั้นแหละ
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเลือกที่จะยอมแพ้อย่างจนปัญญา อยากเปลี่ยนเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก แล้วจบเรื่องราวทุกอย่าง
ทว่านี่กลับทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เดิมทีเขาก็คิดว่าวันนี้คงหลีกเลี่ยงศึกสงครามที่โหดร้ายไม่พ้นแน่นอน แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าราชาเซียนขั้นปฐมภูมิตนหนึ่งของฝ่ายตรงข้ามจะเปราะบางเช่นนี้ ต่อมาเจ้าสำนักที่เป็นราชาเซียนช่วงกลางตนนี้ก็ยอมอ่อนข้ออีก?
หากไม่ต้องลงมือ มันย่อมต้องเป็นเรื่องดีสำหรับหลัวซิวอยู่แล้ว อย่างไรเสียหากปัญหายิ่งใหญ่โต ก็ยิ่งเป็นผลเสียต่อเขา
“ในเมื่อเจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวรู้สถานการณ์เช่นนี้ เรื่องนี้ก็ช่างมันเถิด”
หลัวซิวรับแหวนเก็บของวงนั้นมาอย่างไม่เกรงใจ ก่อนจะใช้ตัวสำนึกแผ่สำรวจภายใน แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
เจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวคนนี้ก็ถือว่าใจกล้าอยู่ เพราะด้านในมีกรองแก้วเซียนชั้นสูงห้าล้านก้อนเลยทีเดียว
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของหลัวซิว เจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวจึงรู้สึกโล่งอก ก่อนจะรีบพูดว่า “เดิมทีข้าวางแผนที่จะซื้อราชาสมุนไพร เพื่อเป็นการขอขมาสหาย กิเลนเขียวราชาสมุนไพรนั่นก็ยกให้เจ้าด้วยเลย”
เจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวประสานมือทำท่าคารวะ จากนั้นก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว พาต้วนหย่งรองเจ้าสำนักที่บาดเจ็บสาหัสผันเป็นแสงกลดวงหนึ่งบินจากไป
หลัวซิวก็นึกไม่ถึงเช่นกันว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างนี้ เขานำราชาสมุนไพรมาประมูล สรุปสุดท้ายราชาสมุนไพรเม็ดนี้ก็ยังตกอยู่ในมือตัวเองอีกหรือ?
ท่ามกลางสายตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเคารพยำเกรง หลัวซิวหยิบป้ายบัญชาการชิ้นนั้นมาถึงจุดชำระเงินของงานประมูล
หากไม่มีอะไรผิดพลาด จากธุรกรรมกรองแก้วเซียนชั้นสูงสามล้านก้อน ทางผู้จัดงานประมูลจะเก็บค่าธรรมเนียมสามแสน
อย่างไรก็ตามเจ้าสำนักสำนักเซียนเจ็ดดาวผู้ซื้อราชาสมุนไพรกลับจากไปแล้ว ดังนั้นกิเลนเขียวราชาสมุนไพรเม็ดนี้จึงถือว่าขายไม่ออก ในส่วนของตัวหลัวซิว เขาไม่มีทางนำกรองแก้วเซียนชั้นสูงสามล้านก้อนไปแลกกับราชาสมุนไพรอยู่แล้ว เพราะนั่นเท่ากับมอบกรองแก้วเซียนชั้นสูงสามแสนก้อนให้ทางผู้จัดการประมูลโดยเสียเปล่า
ฉะนั้นกิเลนเขียวราชาสมุนไพรเม็ดนั้นจึงเท่ากับประมูลล้มเหลว และกลับมาในมือหลัวซิวอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็ชำระกรองแก้วเซียนชั้นสูงหนึ่งแสนก้อน ได้รับลูกแก้วที่มีเซียนอัคคีต่างพันธุ์ขั้นสองปิดผนึกอยู่มาครอบครอง
“ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว ขาดเพียงปัจจัยสำคัญสุดท้าย”
หลัวซิวเดินออกมาจากงานประมูลด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยรอยยิ้ม เขาเตรียมพร้อมที่จะหาสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อใช้อัคคีชาตะไร้ลักษณ์ดูดกลืนกลั่นแปรเซียนอัคคีต่างพันธุ์ดวงนี้ ทันทีที่อัคคีชาตะไร้ลักษณ์เลื่อนระดับกลายเป็นเซียนอัคคีระดับดิน เช่นนั้นเขาก็จะสามารถรับซื้อต้นโอสถเซียนระดับดินจำนวนมาก แล้วกลั่นโอสถเซียนระดับดินออกมายกระดับผลการฝึกตน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...