มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3144

สรุปบท บทที่ 3144 ข้ารักเจ้าจริง ๆ: มหายุทธ์ สะท้านภพ

อ่านสรุป บทที่ 3144 ข้ารักเจ้าจริง ๆ จาก มหายุทธ์ สะท้านภพ โดย หลงเซียว-มังกรคำราม

บทที่ บทที่ 3144 ข้ารักเจ้าจริง ๆ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ มหายุทธ์ สะท้านภพ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย หลงเซียว-มังกรคำราม อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“กากเดนไท่ซ่าง ตาย!”

ประมุขเซียนเหมือนดังผู้ชี้ขาดของวิถีเซียน เพียงคำพูดเดียวก็สามารถลิขิตความเป็นความตายของมนุษย์ได้

พลานุภาพธรรมเวชที่น่ากลัวกดอัดลงมา ประหนึ่งเขาเซียนนับแสนกดอัดลงมา ทำให้หลัวซิวต้านทานไม่ได้ด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามในเวลานี้เอง มีเงาดำร่างหนึ่งปรากฏโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ร่างดังกล่าวโบกมือครั้งหนึ่ง ทำให้พลังออร่าที่พันธนาการสยบหลัวซิวไว้สลายหายไปทันที

เงาร่างดังกล่าวก็เป็นร่างที่ถูกปกคลุมอยู่ในแสงเซียนเช่นกัน มองไม่เห็นใบหน้า พลังออร่าที่ตลบฟุ้งออกมาก็เป็นประมุขเซียนตนหนึ่งเช่นกัน

“มึงคือผู้ใด บังอาจมายุ่งเรื่องของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์? มึงไม่กลัวนำหายนะมาสู่ตนรึ?”

ประมุขเซียนจากภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ซักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน ดูเหมือนเขาก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะมีคนออกมาขัดขวางเวลานี้

ตัวหลัวซิวเองก็ผงะไปเช่นกัน เขาสามารถสัมผัสได้อยู่ว่าประมุขเซียนที่ปรากฏในภายหลังกำลังช่วยเขาอยู่

“ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์มากเลยหรือ? แม้นจักเจริญรุ่งเรืองอย่างยุคโบราณกาล แต่ก็แข็งแกร่งมีอำนาจขึ้นมาได้หลังจากจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างหายตัวไป หากจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างยังคงอยู่ ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกมึงจะนับเป็นขี้ตีนกระไร?”

“มิหนำซ้ำโลกเซียนภูมิภาคสิบลี้ในปัจจุบันมีแดนศักดิ์สิทธิ์ที่นับไม่ถ้วน ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกมึงก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเช่นกัน”ประมุขเซียนที่ปรากฏทีหลังหัวเราะอย่างเยือกเย็น เสียงราวกับสะท้อนมาจากทั่วทุกสารทิศ

“จาบจ้วงชนชั้นตระกูลภูตศักดิ์สิทธิ์ของกู มึงสมควรตาย!”

“อย่างมึงน่ะหรือ จักสังหารกู?”

“ดูท่าคงต้องสู้กันสักตั้งแล้วล่ะ กูก็อยากรู้เช่นกันว่ามึงคือผู้ใดกันแน่ ถึงบังอาจเป็นศัตรูกับภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ของกู!”

“ฮ่าฮ่า ในสายตากู เผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ของพวกมึงก็เป็นเพียงโสเภณีราคาต่ำเท่านั้นแหละ!”

ตู้ม! ตู้ม!

เพียงพริบตาเดียว ประมุขเซียนทั้งสองก็ก้าวมาข้างหน้าพร้อมกัน แล้วมีคลื่นพลังที่น่าสยดสยองอย่างยิ่งสะท้อนออกไป ม้วนซัดนภา แผ่นดินใหญ่แหลกสลาย

ทุกอย่างแทบจะเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตาเดียว หลัวซิวซ่อนเร้นอยู่ในป่าไม้แห่งนี้ ต้นไม้ใบหญ้า ยอดเขา หินรูปร่างมหัศจรรย์ต่าง ๆ ที่นับไม่ถ้วนล้วนกลายเป็นฝุ่นผง กลายเป็นความว่างเปล่า ไม่คงอยู่อีกต่อไป

“หนี!”

คำเตือนภัยที่อยู่ในใจหลัวซิวดังก้อง ก่อนจะระเบิดความเร็วออกมาจนถึงขีดสุดท้ายในพริบตา หลบหนีไปยังตำแหน่งที่อยู่ห่างไกลออกไป

ด้านหลังของเขา ประมุขเซียนทั้งสองได้ลงมือโจมตีกันอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่แล้ว การพุ่งชนของพลังโจมตีและภัณฑ์เซียนทำให้ทุกสรรพสิ่งถูกฉีกกระชาก

ครั้นอยู่ในสถานแห่งกระดูกฝัง หลัวซิวเคยเห็นศึกการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับประมุขเซียนด้วยสายตาตัวเอง เขาจึงรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของเหล่าประมุขเซียน ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องหลบหนีออกมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วที่สุด มิเช่นนั้นทันทีที่โดนลูกหลงไปด้วย แม้จะมีภัณฑ์จักรพรรดิอยู่ในมือ ทว่าช่วงระยะความต่างที่มากล้นของผลการฝึกตนก็สามารถทำให้เขาแหลกสลายเป็นฝุ่นผงได้อยู่ดี

ไร้ลักษณ์วิวัฒนาการพลังแห่งชีวิต อวัยวะภายในที่ได้รับความเสียหาย และกระดูกที่แตกร้าวต่างกำลังสมานกันอย่างรวดเร็ว

“ฆ่า!”

ทันใดนั้นเอง เสียงตะโกนคำว่าฆ่าก็ดังสะเทือนไปทั่วฟ้า เหมือนอย่างที่ตงฟางหยุนเซิงกล่าวมาจริง ๆ ด้วย ครั้งนี้เพื่อเป็นการจับกุมและสังหารเขา เผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการวางกับดักไว้ทุกแห่งหนแล้ว

“ดูท่าวันนี้ข้าคงต้องเปิดศึกกวาดล้างอย่างยิ่งใหญ่แล้วล่ะ”หลัวซิวหรี่ตาลง จิตสังหารที่น่ากลัวกำลังผนึกรวมกันในใจเขา ดั่งกระบี่ชี้ฟ้า

“ฆ่า ฆ่าแม่งให้เลือดนองเป็นแม่น้ำเลย!”สิ่งเดียวที่ภูตติ่งปีศาจมังกรกลัวก็คือความวุ่นวายจะไม่บานปลาย

“โครม!”

หลัวซิวโบกมือครั้งหนึ่ง ภาชนะติ่งปีศาจมังกรถูกเขาเรียกออกมา เหมือนดั่งดาราสีดำพุ่งชนปฐพี

เสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น มีคนจำนวนมากตายไปอย่างน่าเวทนา ปริภูมิแตกสลายจนกลายเป็นความมืดมิด ปราณปีศาจที่น่ากลัวซัดสาด อานุภาพแห่งภัณฑ์จักรพรรดิไร้เทียมทาน

นอกเสียจากมีผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนที่อาศัยข้อได้เปรียบเรื่องแดนผลการฝึกตน ถึงจะสามารถฝืนต้านทานพลังโจมตีเอาไว้ได้ เหล่าจอมยุทธ์สามแดนเซียนที่อยู่ต่ำกว่ามหาแดนเซียนต้านทานไม่ไหวด้วยซ้ำ ถูกแรงโจมตีครั้งเดียว ร่างกายก็จะแหลกสลายเป็นฝุ่นผง

“เวิง!”

พระราชวังสีทองหลังหนึ่งปรากฏการณ์ท้องฟ้าที่อยู่ห่างไกลออกไป ใบหน้าของตงฟางหยุนอีที่อยู่ในชุดสีสันสดใสเยือกเย็น ดวงตาทั้งสองข้างกำลังจ้องเขม็งมาทางหลัวซิว

ผู้มาเยือนไม่ได้มีเพียงเทพบุตรภูตเซียนอย่างตงฟางหยุนเซิง เพื่อเป็นการจับกุมและสังหารหลัวซิว พี่สาวของเขาตงฟางหยุนอีก็นำพาศิษย์จำนวนมากรายล้อมเขตพื้นที่แห่งนี้เอาไว้เช่นกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนี

“เข้าล็อกเดิม!”

ดาบเซียนบังเกิด ดวงแสงดาบสีโลหิตที่นับไม่ถ้วนแผ่ขยายออกไปทั่วทุกสารทิศ บดบังท้องฟ้าของเขตพื้นที่นับหมื่นลี้ ประหนึ่งมีฝนดาบสีโลหิตตกลงมาจากฟ้า

ศิษย์จำนวนมากของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ตายอย่างน่าเวทนา ต่อให้เป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูง ก็ต้านทานพลานุภาพอันดุดันของดาบหักเซียนไม่ได้

การตัดสินใจเมื่อปีนั้นได้หล่อหลอมความเสียดายทั้งชีวิต ลู่เมิ่งเหยาให้คำปฏิญาณกับตัวเองตั้งนานแล้วว่า นางจะไม่ตัดสินใจผิดพลาดอย่างในอดีตอีกแล้ว

วินาทีนี้ตงฟางหยุนอีให้นางเลือก นางไม่ได้ตอบกลับอะไร ทว่าแท้จริงแล้วในใจกลับตัดสินใจได้อย่างแน่วแน่แล้ว

ถ้าเกิดเลือกได้จริง ๆ เมื่อปีนั้นนางจะไม่ยอมมาโลกเซียนกับตงฟางหยุนอีแน่นอน แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่สนใจด้วยซ้ำว่านางจะยินยอมหรือไม่ ใช้อำนาจนำตัวนางมา ทำให้นางพลาดโอกาสที่จะได้อยู่เคียงข้างหลัวซิว

ผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า พลาดโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า อยู่ต่อหน้าแต่กลับพูดคุยกันไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ลู่เมิ่งเหยารู้สึกทรมานหัวใจมาก

“เมิ่งเหยา เจ้าจักทรยศอาจารย์หรือไม่? จักทรยศภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์หรือไม่?”

ตงฟางหยุนอียกมือโบกครั้งหนึ่ง ทลายตัวต้องห้ามที่อยู่บนตัวลู่เมิ่งเหยา แล้วซักถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธ

“ไม่เจ้าค่ะ ศิษย์จะไม่ทรยศอาจารย์ และจะไม่ทรยศภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน”บนใบหน้าลู่เมิ่งเหยาไม่มีความรู้สึกใด ๆ ประหนึ่งหุ่นเชิดที่สูญเสียวิญญาณ

“ดี! ดีมาก การที่เจ้าคิดได้นั้นทำให้ข้ารู้สึกชื่นใจมาก”

มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าตงฟางหยุนอี หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น นางเบื่อที่จะมาทุ่มเทแรงกายและแรงใจเช่นนี้ด้วยซ้ำ นางยอมทำเช่นนี้ก็เพราะนางให้ความสำคัญกับพรสวรรค์วิถีดาบของศิษย์คนนี้มาก ๆ

ถึงนางจะไม่ใช่คนในเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่ออาศัยพรสวรรค์ที่แข็งแกร่ง ควบคู่กับการฝึกวรยุทธ์ชั้นยอดของเผ่าพันธุ์ภูตศักดิ์สิทธิ์ อนาคตนางมีโอกาสก้าวเข้าสู่แดนเซียนสูงสุดสูงมาก

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สักพักหากจับกุมกากเดนเผ่าไท่ซ่างนั่นได้ เจ้าต้องกำจัดมันด้วยตนเอง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ”ตงฟางหยุนอีพูด

ลู่เมิ่งเหยาพยักหน้า ไม่พูดอะไรสักคำ หัวใจนางกำลังร่ำไห้ มีความทรงจำต่าง ๆ ครั้นนางเพิ่งรู้จักกับหลัวซิวผุดขึ้นมาในหัว

นางรู้อยู่ว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ น่าจะเป็นความทรงจำที่ลืมยากที่สุดในชั่วชีวิตนี้ของนางแล้ว และเป็นความทรงจำที่ทำให้นางรู้สึกผิดและรู้สึกเสียดายมากที่สุดเช่นกัน

“ข้าไม่ขอให้เจ้าให้อภัยความผิดพลาดในอดีตของข้า ข้าก็ไม่ขอให้ได้อยู่เคียงข้างเจ้าเช่นกัน ข้าเพียงแต่อยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่ดี ๆ……”

“หลัวซิว ข้ารักเจ้า”

“ข้ารักเจ้ามากจริง ๆ รักมาก ๆ……”

วินาทีนี้ไม่มีผู้ใดสามารถได้ยินเสียงในใจนาง มีแค่นางที่กำลังร้องไห้อย่างโดดเดี่ยวในใจ พลางรำลึกถึงความทรงจำในอดีต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ