“เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!”
สายฟ้าเซียนทรงเดชเหมือนดั่งมีแก่นสาร เหมือนดาบเหมือนกระบี่ และยังกลายร่างเป็นรูปต่าง ๆ ระฆัง หอคอย เตา เจดีย์ สารพัดรูปร่าง
พอหลัวซิวก้าวเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ ก็มีหอคอยสายฟ้าสีทองหล่นทับลงมา มีดาบสายฟ้าสีทองฟันเข้ามา อานุภาพร้ายกาจ แม้แต่ประมุขเซียนก็ยังต้องอกสั่นขวัญแขวน
ทว่าตอนที่การโจมตีเหล่านี้ได้ขยับใกล้เข้ามา กลับได้ถูกเหล็กลึกลับสีดำในมือของเขาดูดกลืนไปจนหมด ทำให้เขายืนอยู่ในสายฟ้าเซียนทรงเดชโดยที่ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเกรงกลัวใด ๆ เลย
บริเวณเขตแดนของสายฟ้าเซียนทรงเดช เฒ่าประมุขเซียนของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ได้หยุดฝีเท้าลง ก็เพราะเขาเป็นประมุขเซียน ดังนั้นเขาจึงรู้ดีถึงความน่ากลัวของสายฟ้าเซียนทรงเดช มันเป็นแสงสายฟ้าที่มีแต่ผู้แข็งแกร่งเซียนสูงสุดที่ฝึกเกณฑ์อัสนีเท่านั้นที่สามารถฝึกเซ่น
สายฟ้าเซียนทรงเดชในที่นี้ไม่มีเจ้าของ อานุภาพจึงอ่อนแอลงมาก แต่ความอ่อนแอที่ว่า ก็แค่สำหรับเซียนสูงสุดเท่านั้น สำหรับประมุขเซียนแล้ว มันยังคงเป็นที่น่าสะพรึงกลัวเหมือนเดิม
ก็เหมือนกับเมื่อสักครู่ เขาถูกจู่โจมสองครั้งโดยไม่ทันระวัง ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไร แต่ความจริงแล้วเขาได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร ยามนี้เขาแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้เพียงสี่ส่วนเท่านั้น
“ตาเฒ่า เมื่อครู่เจ้าอวดดีนักมิใช่หรือ? แน่จริงก็ตามเข้ามาเอาชีวิตข้าสิ”
หลัวซิวยืนอยู่ในสายฟ้าเซียนทรงเดช มองเฒ่าประมุขเซียนที่อยู่ด้านนอกอย่างยั่วยุ ความดูถูกเหยียดหยามเล็ดลอดออกมาจากดวงตา
“เดรัจฉานบัดซบ เจ้าอาศัยว่ามีของวิเศษอยู่ในมือจึงไม่กลัวอานุภาพของสายฟ้าเซียน เจ้ากล้าก้าวออกมาหรือไม่? ข้าจะสับเจ้าด้วยฝ่ามือเดียว!”
เฒ่าประมุขเซียนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ หลังจากที่เขาสำเร็จมหาเซียน ถูกเซียนชั้นฟ้าผู้หนึ่งเหยียดหยาม นี่เป็นครั้งแรก
“เดรัจฉานเฒ่า อาศัยผลการฝึกตนแดนประมุขเซียนมาอวดดีต่อหน้าข้า? หากเจ้าเป็นราชาเซียนข้าอัดจ้าให้แหลกได้ทุกเมื่อ หากในอนาคตข้ากลายเป็นประมุขเซียน ข้าสามารถขยี้เจ้าให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียว!”
“โมโหจะตายอยู่แล้ว!”
เฒ่าประมุขเซียนโมโหจนควบคุมไม่ได้หอคอยเซียนที่แฝงไปด้วยชี่อลวนในแสงเงินได้ถูกเขาอัญเชิญออกมาอีกครั้ง แล้วพุ่งจู่โจมเข้าไปหาหลัวซิวที่อยู่ในสายฟ้าเซียนทรงเดช
“ครืน! ครืน! ครืน!”
หอคอยเซียนลอยเข้ามา สายฟ้าเซียนทรงเดชจำนวนมากได้โหมกระหน่ำผ่าลงมา กระแทกจนหอคอยเซียนสั่นสะเทือน
ได้รับผลกระทบจากสายฟ้าเซียนทรงเดช อานุภาพของหอคอยเซียนอ่อนแอลงไปไม่น้อย มีแสงกะพริบอยู่ที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของหลัวซิว ภาชนะติ่งปีศาจมังกรกลายเป็นแสงดำสลัวลอยสวบออกมา
“ตึง!”
ภาชนะติ่งปีศาจมังกรกับหอคอยเซียนกระทบกัน แม้ว่าอานุภาพจะด้อยกว่าหอคอยเซียน แต่ด้านระดับนั้นกลับเหนือกว่าหอคอยเซียน บวกกับที่มีสายฟ้าเซียนทรงเดชคอยบั่นทอนอานุภาพหอคอยเซียน จึงด้านรับเอาไว้ได้
นี่ทำให้หลัวซิววางใจลง อยู่ในเขตของสายฟ้าเซียนทรงเดช ต่อให้ประมุขเซียนเขาก็สามารถต้านทานได้
หอคอยเซียนถูกกระแทกลอยออกไป เฒ่าประมุขเซียนที่อยู่ด้านนอกสายฟ้าเซียนทรงเดชมีสีหน้าปวดใจ หอคอยเซียนถูกเขาเรียกกลับคืนมา มีรอยแตกร้าวเล็ก ๆ กระจายอยู่ด้านบน
ในขณะเดียวกัน เหล็กลึกลับสีดำที่อยู่ในมือของหลัวซิวก็ยังคงดูดกลืนพลังงานของสายฟ้าเซียนทรงเดชอยู่ไม่หยุด
“เดรัจฉานเฒ่าเจ้าไม่กล้าเข้ามาหรือ? ดูแล้วประมุขเต๋าก็แค่งั้น ๆ ฝึกตนมาเป็นเวลายาวนาน ผลจากการฝึกตนไปอยู่บนตัวสุนัขแล้วหรือ สู้ข้าที่เพิ่งบรรลุแดนเซียนชั้นฟ้าก็ไม่ได้” หลัวซิวกล่าวเย้ยหยันอยู่ไม่หยุด เหมือนเกรงว่าจะสร้างความเกลียดชังให้อีกฝ่ายไม่พอ
“ฮ่า ๆ เจ้าไม่เข้ามา งั้นข้าจะออกไปเอง เดรัจฉานเฒ่ารับกระบวนท่า!”
เขาเรียกเดรัจฉานเฒ่าไม่ขาดปาก ด่าจนเฒ่าประมุขเซียนโมโหตัวสั่น ในกาลเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา เขาเคยได้รับความอัปยศเช่นนี้มาก่อนเสียเมื่อไหร่กัน?
ทว่าที่ทำให้เฒ่าประมุขเซียนคิดไม่ถึงก็คือ หลัวซิวได้กระโดดออกมาจากสายฟ้าเซียนทรงเดช เขาชูเหล็กลึกลับสีดำในมือขึ้นมา สายฟ้าเซียนทรงเดชได้ลอยออกมาจากเล็กดำ กลายรูปเป็นตราประทับสีทอง แล้วพลันกระแทกเข้ามา
สายฟ้าเซียนจู่โจมเร็วจนเกินไป เร็วจนเฒ่าประมุขเซียนชะงักไม่ทันได้ตอบโต้ ตราประทับสีทองกระแทกลงบนร่างของเขาเสียงดังปัง
ต่อให้เขาเป็นถึงประมุขเซียน ถูกสายฟ้าเซียนทรงเดชโจมตีโดยตรง ก็ยังยากที่จะต้านรับได้ ไหล่ข้างหนึ่งเต็มไปด้วยเลือดทันที เลือดสด ๆ ไหลอาบ
“เดรัจฉานสมควรตาย!”
เฒ่าประมุขเซียนโมโหถึงขีดสุด จนกระอักเลือดออกมาจากปาก ร่างถูกตราประทับที่เกิดจากสายฟ้าเซียนทรงเดชกระแทกลอยออกไป ทุลักทุเลอย่างสุดขีด
หากมิใช่เพราะได้ใช้จิตเซียนคุ้มกันร่างเอาไว้ในช่วงเวลาคับขัน เกรงว่าสายฟ้าเซียนทรงเดชในเมื่อสักครู่ คงทำให้เขาบาดเจ็บหนักยิ่งกว่านี้
“เดรัจฉานเฒ่ารับกระบวนท่า!”
หลัวซิวตวัดเหล็กดำที่อยู่ในมืออีกครั้ง สายฟ้าเซียนทรงเดชก็ลอยออกมา กลายเป็นดาบชั้นฟ้าสีทองเล่มหนึ่ง ทำลายสายฟ้าเซียนสีดำที่อยู่ข้างหน้าไปจนหมด ฟันจนเกิดเป็นเขตสุญญากาศแห่งหนึ่ง น่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุด
“เดรัจฉานน้อย ข้าสาบานว่าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้น ๆ!”
เฒ่าประมุขเซียนทั้งตะลึงทั้งโมโห ครั้งนี้เขาได้มีการเตรียมตัว เมื่อดาบชั้นฟ้าสายฟ้าเซียนฟันเข้ามา ร่างของเขาก็ได้กลายเป็นสายรุ้ง หลบไปภายในพริบตา
“ครืน!”
สายฟ้าเซียนทรงเดชคว้าน้ำเหลว พื้นดินถูกฟันจนกลายเป็นหุบเหวที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นอันน่ากลัว
“ตาเฒ่าหลบเร็วดีนี่ ไม่สิ เจ้าเป็นเดรัจฉานเฒ่า ท่าทางที่เคลื่อนหลบเหมือนเดรัจฉานไม่มีผิด”
เฒ่าประมุขเซียนตะลึงงัน ถึงกับปากอ้าตาค้าง แม้ว่าเขาจะได้ใช้วิชาอาถรรพณ์ปลุกเสกเบิกเนตร แต่อย่างมากแค่เพ่นพ่านไปมาอยู่ในสายฟ้าเซียนทรงเดชมันก็อันตรายมากแล้ว สายฟ้าเซียนลิขิตห้าสีที่อยู่ข้างหน้า ต่อให้เขากล้าหาญเพียงใดก็ไม่กล้าเข้าไปอย่างแน่นอน
ในสายตาของเขา ต่อให้มีของขลังป้องกันฟ้าผ่า อยากมากแค่สามารถมีชีวิตรอดในสายฟ้าเซียนทรงเดชได้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว คิดไม่ถึงว่าแม้แต่สายฟ้าเซียนลิขิตก็ยังไม่กลัว?
วินาทีนี้ เฒ่าประมุขเซียนก็ได้เข้าใจ เหล็กดำลึกลับที่อยู่ในมือกากเดนเผ่าไท่ซ่างผู้นี้ เกรงว่าคงไม่ใช่ของขลังป้องกันฟ้าผ่าธรรมดาทั่วไป
“เดรัจฉานเฒ่า ทำไมไม่ตามมาแล้วล่ะ? ข้ายังรอเจ้ามาจับตัวข้าอยู่นะ” หลัวซิวยืนอยู่ในสายฟ้าเซียนลิขิตที่แผ่ซ่านไปด้วยแสงอาทิตย์หลากสีสัน กล่าวด้วยท่าทางเยาะเย้ย
“เจ้าอวดดีไปเถอะ ข้าทำอะไรเจ้าไม่ได้ก็จริง แต่ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ของเรายังมีเซียนสูงสุดที่ร้ายกาจกว่าข้าอยู่อีก สุดท้ายเจ้าก็ต้องตกอยู่ในมือของข้าอยู่ดี!”
เฒ่าประมุขเซียนได้สงบสติอารมณ์ลงโดยสิ้นเชิง สถานการณ์ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้ เขาเข้าใจชัดเจนแล้วว่าตนเองไม่อาจจับตัวทายาทเผ่าไท่ซ่างที่เจ้าเล่ห์ผู้นี้ได้อย่างแน่นอน ทำได้เพียงกลับไปและรายงานเรื่องนี้กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์
“แกร็ก!”
รอยร้าวสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนร่างของเฒ่าประมุขเซียน ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เห็นได้ว่าต่อให้มีวิชาอาถรรพณ์ปลุกเสกเบิกเนตร เขาก็ยืนหยัดอยู่ในเขตสายฟ้าเซียนทรงเดชได้ไม่นาน
คิดมาถึงตรงนี้ เฒ่าประมุขเซียนก็เตรียมจากไป
“นี่ อย่าเพิ่งรีบไปสิ อยู่เล่นด้วยกันก่อน”
เมื่อหลัวซิวเห็นว่าเฒ่าประมุขเซียนเตรียมจะจากไป เขาก็เหาะออกมาจากแสงอาทิตย์หลากสีทันที อัญเชิญภาชนะติ่งปีศาจมังกรแล้วซัดเข้าไป
“มอบสายฟ้าเซียนให้เจ้าได้เล่น”
หลัวซิวชูเหล็กดำในมือขึ้นมา ทว่าคราวนี้แสงดำสลัวของเหล็กดำกลับไม่เคลื่อนไหว มิได้มีสายฟ้าเซียนทรงเดชหรือสายฟ้าเซียนลิขิตห้าสีลอยออกมาโจมตีศัตรูของเขา
สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ หลัวซิวได้คุ้นเคยกับมันแล้ว ธาตุทิพย์ของเหล็กดำมีบ้างไม่มีบ้าง การโจมตีอีกฝ่ายก็มีอัตราความเป็นไปได้เช่นเดียวกัน มิใช่ว่าจะได้ผลทุกครั้ง
แต่ไม่ว่าอย่างไร ตราบใดที่หลัวซิวถือมันไว้ในมือก็จะได้รับอันตรายจากการโจมตีของสายฟ้าเซียน อยู่ที่นี่เขาเป็นเหมือนดั่งปลาได้น้ำ ความสามารถมิได้ถูกจำกัดใด ๆ
ในทางกลับกันเฒ่าประมุขเซียนนั้นแตกต่างออกไป เขาบุกเข้ามาในสายฟ้าเซียนทรงเดชโดยอาศัยวิชาอาถรรพณ์
หลัวซิวเองก็มองเห็นจุดนี้เหมือนกัน ดังนั้นเขาถึงได้ลงมือขัดขวางอีกฝ่าย หากทำให้ประมุขเซียนคนหนึ่งของภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์สิ้นชีพอยู่ที่นี่ได้ เช่นนั้นมันต้องเป็นความสูญเสียอย่างหนักสำหรับภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์แน่
บุญคุณความแค้นระหว่างตนกับภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ได้เข่นฆ่าล้มล้างชนเผ่าไท่ซ่างเมื่อในอดีต หรือที่ตงฟางหยุนอีทำให้เมิ่งเหยาต้องตาย ภูมิภาคสิบลี้แห่งโลกเซียนกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต แต่ระหว่างเขากับภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์นั้น มีข้าไม่มีเจ้า มีเจ้าไม่มีข้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...