มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3153

เงาร่างของจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า เขาก้าวเท้าเข้าสู่สมุทรสายฟ้าจิ่วเฟิง รอบกายรายล้อมไปด้วยคลื่นพลังมหาศาล

ก้าวออกไปหนึ่งก้าว เขาก็ได้มาถึงอาณาเขตที่สายฟ้าเซียนทรงเดชปกคลุม อยู่ในแดนประมุขเซียนเช่นเดียวกัน ผู้อาวุโสประมุขเซียนที่ถูกหลัวซิวสังหารไปเมื่อก่อนหน้านี้จักต้องขับเคลื่อนวิชาอาถรรพณ์ถึงสามารถยืนอยู่ในที่แห่งนี้ได้

แต่สำหรับจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์แล้ว กลับเหมือนว่าเขาได้มายังสวนหลังบ้านของตนเอง สายฟ้าเซียนทรงเดชอันน่ากลัวโหมซัดสาด กลับไม่สามารถทำอันตรายเขาได้เลยสักนิด ถูกแสงเซียนที่รายล้อมอยู่รอบกายของเขาขวางเอาไว้

เห็นเพียงจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์เดินก้าวออกไปด้านหน้า ทุกที่ที่เดินผ่าน สายฟ้าเซียนทรงเดชก็ได้พังทลายลง แม้ว่าเขาจะเป็นประมุขเซียน แต่ก็เป็นหนึ่งในประมุขเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดบนโลกใบนี้ พลังการต่อสู้ทัดเทียมได้กับเซียนสูงสุด กระทั่งที่ว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซียนสูงสุดธรรมดาอีกด้วยซ้ำ

“ครั้งนี้เจ้าหนีไปได้ แต่ไม่มีทางหนีรอดได้ตลอดชีวิตแน่!”

ไม่นานจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ก็ได้สืบเสาะไปทั่วบริเวณที่สายฟ้าเซียนทรงเดชปกคลุม แต่กลับไม่พบหลัวซิว เห็นเพียงร่องรอยการต่อสู้ระหว่างผู้อาวุโสประมุขเซียนกับหลัวซิวเท่านั้น

น้ำเสียงของเขาเย็นชาทั้งหนาวเหน็บ ไอสังหารแพร่กระจาย ทำให้สายฟ้าเซียนทรงเดชสลายไปอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง

กำลังพลกลุ่มใหญ่ล้อมสังหารเซียนดินคนหนึ่ง สุดท้ายเทพธิดากลับถูกฆ่า เทพบุตรถูกอัดจนเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย สูญเสียศิษย์หลายร้อยคนและราชาเซียนสิบกว่าคน!

กระทั่งที่ว่าในยามนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสระดับประมุขเซียนก็ยังสิ้นชีวิตลง เรื่องนี้สำหรับภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ที่อยากขึ้นเป็นผู้นำแห่งโลกเซียนมาโดยตลอด รับรองได้ว่าเป็นความอัปยศครั้งใหญ่

ก้าวไปข้างหน้า จ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ได้เข้าสู่สายฟ้าเซียนลิขิตห้าสี ตราประทับดวงหนึ่งได้ปรากฏขึ้นมาเหนือศีรษะของเขา ตราประทับเปล่งประกายสีทองแวววาว ขวางสายฟ้าเซียนลิขิตห้าสีเอาไว้ด้านนอก

เป็นที่ประจักษ์ แม้จะอาศัยผลการฝึกตนอันเลิศล้ำของจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่กล้าละเลยเมื่อต้องเข้าสู่สายฟ้าเซียนลิขิตห้าสี เขาอัญเชิญภัณฑ์เซียนที่แข็งแกร่งออกมา

เทพบุตรเทพธิดาในแต่ละรุ่นต่างมีภัณฑ์เซียนสูงสุดสืบทอด ในฐานะที่เป็นจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ในรุ่นนี้ ก็ย่อมต้องได้รับยุทธภัณฑ์เซียนที่ตกทอดมาสำหรับจ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์เป็นธรรมดา

ตราประทับดวงนี้ มีนามว่าตราภูตศักดิ์สิทธิ์ เล่าลือกันว่าเป็นภัณฑ์เซียนที่จักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ได้ฝึกเซ่นตอนอยู่ในแดนเซียนสูงสุด

แม้จะเป็นภัณฑ์เซียนสูงสุด แต่หากพูดถึงอานุภาพ ภัณฑ์เซียนสูงสุดที่จักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ได้หล่อหลอมขึ้นมาด้วยตัวเอง แทบจะเทียบเท่าได้กับภัณฑ์จักรพรรดิ อานุภาพไร้ขอบเขต

เมื่อสืบเสาะบริเวณนี้จนทั่ว จ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงไม่พบหลัวซิวเหมือนเดิม

“ที่นี่มีเพียงเซียนสูงสุดที่เข้ามาได้ ดูท่ามันจะมีสมบัติวิเศษที่ร้ายกาจอยู่ในมือ ทำให้มันสามารถผ่านเข้าไปในสมุทรสายฟ้าได้อย่างราบรื่น”

จ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ดวงตาเป็นประกาย แดนสายฟ้าเซียนลิขิตห้าสี สำหรับเขาก็ถือว่าเป็นขีดจำกัดแล้ว สายฟ้าเซียนวัฏสงสารเจ็ดสีที่อยู่ด้านหลัง นอกเสียจากว่าจะมีพลังการต่อสู้ของมกุฎเซียนถึงจะเหยียบเข้าไปได้ มิเช่นนั้นคงต้องตายเป็นแน่

......

อาศัยเหล็กดำลึกลับ หลัวซิวเองก็ได้ผ่านเข้าไปยังอัสนีเซียนตรีภพที่อยู่บริเวณใจกลางอย่างอกสั่นขวัญแขวน

ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือ ระหว่างทางที่ผ่านมานั้น เหล็กดำลึกลับได้ดูดซับสายฟ้าเซียนเข้าไปจำนวนมาก ในนี้รวบรวมไปด้วยสายฟ้าเซียนลิขิตห้าสี สายฟ้าเซียนวัฏสงสารเจ็ดสี รวมทั้งที่น่ากลัวยิ่งกว่าอย่างอัสนีเซียนตรีภพเก้าสี

เขาได้มาถึงจุดใจกลางสถานเซ่นสายฟ้ามหิทธิ จากนั้นเขาก็ได้มองเห็นแท่นบูชาแห่งหนึ่งอยู่ในที่แห่งนี้

แท่นบูชาแห่งนี้ดูเก่าแก่มาก อบอวลไปด้วยกลิ่นอายความโบราณ แท่นบูชาเต็มไปด้วยความทรุดโทรม ดูซอมซ่อยิ่งนัก

บนฟ้ากว้าง แสงอัสนีไร้สิ้นสุดเอียงสาดโหมกระหน่ำลงมา เฉกเช่นมหาทัณฑ์ฟ้าดิน

ตามตำนานสมุทรสายฟ้าจิ่วเฟิง ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่า ในยุคโบราณกาลอันยาวนาน มหิทธิมกุฎเซียนที่แทบจะสามารถต่อต้านจักรพรรดิเซียนได้ผู้นั้น ได้นั่งอยู่บนแท่นบูชาแห่งนี้ ต้องการใช้อัสนีตรีภพบรรลุเป็นจักรพรรดิเซียน

แต่น่าเสียดาย จักรพรรดิเซียนมิได้บรรลุได้ง่าย ๆ มิเช่นนั้นในวันเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา ในแต่ละยุคสมัยก็คงไม่มีจักรพรรดิเซียนเพียงแค่คนเดียวแล้ว

“พรึบ!”

“ทันใดนั้น เหล็กดำลึกลับที่หลัวซิวถืออยู่ในมือก็ได้เปล่งแสงเจิดจรัสออกมา ก้อนเหล็กสีดำที่ดูไม่สะดุดตา ตอนนี้กลับเปล่งประกายแวววาวออกมา เฉกเช่นสิ่งล้ำค่าบนโลก

คลับคล้ายคลับคลา เหมือนว่ามีอะไรบางอย่าง กำลังดึงดูดเหล็กดำก้อนนี้ ให้หลัวซิวพามันเดินไปข้างหน้า ขยับเข้าใกล้แท่นบูชาเรื่อย ๆ

“ตูม”

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แท่นบูชาเก่าแก่ทรุดโทรมได้ระเบิดโดยไม่มีสัญญาณบ่งบอกล่วงหน้า แสงเจิดจรัสถึงขีดสุดลอยออกมาจากด้านใน กลายเป็นลำแสงดาวตก พุ่งจมเข้าไปในเหล็กดำลึกลับที่อยู่ในมือหลัวซิว

ในขณะเดียวกัน ทั่วทั้งสมุทรสายฟ้าสั่นสะท้าน บนท้องนภา สายฟ้าที่ไหลหลั่งลงมาราวกับน้ำตกเปลี่ยนเป็นคลุ้มคลั่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เหมือนดั่งว่าพายุสายฟ้าอันน่าสะพรึงกลัว จะม้วนกลืนกินทั่วทั้งสมุทรสายฟ้า

สีหน้าของหลัวซิวเปลี่ยนไปทันควัน เขาไม่มีเวลาไปครุ่นคิดว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ได้แต่ระเบิดความสูงสุดออกมาทันที หวังเพียงว่าจะหลบหนีออกไปจากสมุทรสายฟ้าที่กำลังจะคลั่งในไม่ช้านี้ได้โดยเร็วที่สุด

ในตอนนี้เอง จ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังสืบเสาะอยู่ในสมุทรสายฟ้า ก็สัมผัสได้ถึงคลุ้มคลั่งของสมุทรสายฟ้าแห่งนี้

“เกิดอะไรขึ้น?”

จ้าวแห่งภูตศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วขึ้นมา เขารู้สึกโดยสัญชาตญาณว่านิมิตที่แปลกประหลาดเช่นนี้ มีความเป็นไปได้มากว่าจะเกี่ยวข้องกับทายาทเผ่าไท่ซ่างผู้นั้น

มหิทธิมกุฎเซียนที่ได้หลงเหลือสมุทรสายฟ้าแห่งนี้เอาไว้ เคยได้ประมือกับจักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์มาก่อน แม้จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิเซียน แต่ก็สามารถมีชีวิตรอดไปได้ บ่งบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขา

ในคำเล่าลือ ส่วนลึกของสมุทรสายฟ้าแห่งนี้ มีแหล่งดั้งเดิมสายฟ้าที่ผนึกรวมสายฟ้าเซียนไม่สิ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ