มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3168

“จักรพรรดิน้อยโปรดตามข้ามาขอรับ”

ลักษณะท่าทีของผู้อาวุโสผมเผ้าขาวหงอกที่มีต่อหลัวซิวเคารพอ้อมน้อมมาก ด้วยอำนาจแห่งจักรพรรดิเซียน ไม่นึกเลยว่าเขาจะลดลักษณะท่าทีลงไปได้ต่ำเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้จริง ๆ

หากไม่ได้เห็นเองกับตา หลัวซิวคงคิดไปแล้วว่าตัวเองเห็นภาพมายาหรือเปล่า เขามีความรู้สึกเหมือนทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ค่อยเสมือนจริงยังไงอย่างนั้น

ท่ามกลางสายตาที่เคารพยำเกรงของมารพฤกษ์ที่นับไม่ถ้วน หลัวซิวและมารไม้หกระเหินเดินฟ้า แล้วหายเข้าไปในส่วนลึกของป่าไม้ขจีอย่างรวดเร็ว

ทะลุผ่านหมอกสีเขียวที่หนาทึบ จากนั้นหลัวซิวก็มองเห็นต้นไม้โบราณที่ใหญ่สูงระฟ้าต้นหนึ่ง

ต้นไม้โบราณต้นนี้ใหญ่จนอยู่เหนือจินตนาการ เนื่องจากทั้งป่าไม้ขจีตลบอบอวนไปด้วยหมอกที่หนาทึบ ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดค้นพบต้นไม้ต้นนี้ แท้จริงแล้วทั้งป่าไม้แห่งนี้ล้วนถูกปกคลุมอยู่ในต้นไม้โบราณต้นนี้

มารไม้เป็นผู้บุกเบิกของมารพฤกษ์ ส่วนความเป็นมาของมันกลับมีต้นกำเนิดมาจากรากเซียนตรีภพ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่เก่าแก่อย่างยิ่ง

“นี่คือร่างดั้งเดิมของข้า”

มารไม้ยิ้มพลางพูดกับหลัวซิว “เมื่อหลายล้านล้านปีก่อน ข้ายังเป็นเพียงรากเซียนที่กำเนิดขึ้นมาในตรีภพ สำหรับผู้แข็งแกร่งส่วนมากแล้ว สามารถใช้รากเซียนที่กำเนิดในตรีภพมายกระดับผลการฝึกตน ตระหนักวิถีตรีภพ ตลอดจนนำมาฝึกเซ่นภัณฑ์เซียนที่ทรงพลัง”

“แต่จักรพรรดิขจีกลับใช้วิถีลิขิตปลุกเสกข้า ทำให้ข้าผันร่างสำเร็จ และรู้จักการเพ็ญตน……”

ภายในคำพูดของมารไม้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพเลื่อมใสที่มีต่อจักรพรรดิขจี และเขาก็สาบานเช่นกันว่าจะคอยติดตามอยู่ข้างกายจักรพรรดิขจีไปตลอดชีวิต

“น่าเสียดายที่ต่อมาจักรพรรดิเซียนต้องการเดินทางไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง เดิมทีข้าก็คิดที่จะติดตามไปพร้อมกับจักรพรรดิเซียนเช่นกัน ทว่าจักรพรรดิเซียนกลับให้ข้าอยู่ที่นี่ เพื่อช่วยท่านเฝ้าดูแลสถานที่แห่งหนึ่ง แล้วรอคอยผู้มีวาสนามาเยือน”

“เพียงพริบตาเดียว กาลเวลาก็ล่วงเลยไปยาวนานอย่างไม่รู้จบ และจักรพรรดิเซียนก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ผู้มีวาสนาที่กล่าวถึงก็ไม่เคยปรากฏตลอดมาเช่นกัน……”

ภายในคำพูดของมารไม้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกเสียใจ แล้วพูดอย่างขมขื่น: “เนื่องจากกาลเวลาผ่านพ้นไปยาวนานเกินไป ยิ่งกว่านั้นคือหากไม่เห็นตราจักรพรรดิเซียนที่อยู่กลางหว่างคิ้วท่าน ข้าก็เกือบจะลืมไปแล้วว่าเหตุใดข้าจึงต้องเฝ้าดูแลรักษาอยู่ที่นี่”

สำหรับเรื่องนี้นั้น หลัวซิวก็เคยได้ยินมารไม้พูดถึงเช่นกัน เนื่องจากผู้บุกเบิกของพวกเขามีชีวิตคงอยู่มายาวนานเกินไป ส่งผลให้ลืมไปแล้วว่าเหตุใดตนจึงต้องเฝ้าดูแลรักษาอยู่ที่นี่

ตราจักรพรรดิเซียนได้ปลุกเตือนความทรงจำที่เขาลืมเลือนไป ฉะนั้นเขาจึงพูดคุยกับหลัวซิวไปเยอะมาก ๆ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

เรื่องส่วนใหญ่ที่มารไม้พูดคือเรื่องที่น่าหดหู่ แทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข่าวลับใด ๆ เลย อาทิเช่นจักรพรรดิเซียนไปที่ใดแล้ว เหตุใดจักรพรรดิเซียนจึงต้องให้เขาเฝ้าอยู่ที่นี่ แล้วเฝ้าดูแลรักษาของสิ่งใด?

หลัวซิวสอบถาม แต่มารไม้กลับบอกว่าเรื่องเหล่านี้คือเรื่องต้องห้าม มีเพียงบรรลุถึงแดนที่แน่นอนแล้วถึงจะมีสิทธิ์รับรู้

ทว่าหลัวซิวก็ทราบมาจากปากมารไม้เช่นกันว่า มิติปริภูมิของสถานเบญจธาตุเป็นฟ้าดินที่จักรพรรดิเซียนทั้งห้าแห่งยุคโบราณกัลปาวสานร่วมมือกันบุกเบิกขึ้นมา ที่นี่มีโชคโอกาสต่าง ๆ คงอยู่เยอะมาก ซึ่งทิ้งไว้ให้ผู้ฝึกตนในยุคหลัง

ในส่วนของสถานศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุนั้น เมื่อมองจากมุมมองความหมายบางอย่าง มันถือเป็นการถ่ายทอดสืบสานในแต่ละยุคของจักรพรรดิเซียนทั้งห้า สาเหตุที่บอกว่ามันเป็นการถ่ายทอดสืบสานในแต่ละยุคนั้น เป็นเพราะอาจารย์ปู่ทั้งห้าแห่งสาขาสำนักพรรคที่บุกเบิกสถานศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุล้วนได้รับโชคโอกาสในสถานเบญจธาตุ ต่อมาพวกเขาถึงบรรลุถึงแดนมหิทธิมกุฎเซียน

และสาเหตุที่สถานศักดิ์สิทธิ์เบญจธาตุเปิดให้คนภายนอกเข้ามาในสถานเบญจธาตุแต่ไม่ได้ยึดครองมันนั้น เป็นเพราะพวกเขาไม่กล้าทำเช่นนั้น มิเช่นนั้นผู้แข็งแกร่งอย่างมารไม้คงดับสลายสูญสิ้นไปตั้งนานแล้ว

อ้างอิงจากคำพูดของมารไม้ ในเมื่อหลัวซิวได้รับตราห้าจักรพรรดิ ก็เท่ากับได้รับการยอมรับจากจักรพรรดิเซียนทั้งห้าท่าน เขาจึงสามารถเดินทางไปยังทุกสถานที่ในสถานเบญจธาตุได้อย่างราบรื่น

“ที่ใดหาพบต้นโอสถเซียนได้ค่อนข้างง่ายหรือ?”หลัวซิวถาม

“เหอะ ๆ หากพูดถึงโอสถเซียน ในสถานเบญจธาตุ จักมีที่ใดสามารถเทียบเคียงกับป่าไม้ขจีของข้าได้หรือ?”

มารไม้หัวเราะ แล้วหยิบแหวนเก็บของวงหนึ่งที่ดูโบราณและเรียบง่ายออกมายื่นให้หลัวซิว “ต้นโอสถเซียนที่อยู่ภายในเพียงพอที่จะสามารถทำให้ท่านฝึกตนได้ยาวนานระยะหนึ่งแล้วขอรับ”

“ขอบพระคุณผู้อาวุโสอย่างยิ่ง”หลัวซิวรีบกล่าวขอบคุณ ผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตคงอยู่มายาวนานอย่างมารไม้ ต้นโอสถเซียนที่สามารถทำให้เขากักเก็บไว้ในแหวนเก็บของได้นั้น ย่อมไม่ใช่ของธรรมดาอยู่แล้ว

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น ระดับของแหวนเก็บของวงนี้ก็สูงกว่าแหวนที่เทพธิดาจิ่วโยวเคยให้เขาด้วย ภายในมีโลกาเล็ก ๆ ใบหนึ่งแฝงซ่อนอยู่ อีกทั้งชี่แห่งภูตเซียนยังเข้มข้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ด้วย

สิ่งที่ทำให้หลัวซิวรู้สึกตะลึงมากกว่านั้นคือ ในโลกาเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในแหวนเก็บของวงนี้คือนายาแห่งหนึ่ง ทั้งระดับของนายาดังกล่าวยังสูงมากด้วย และยิ่งมีราชาสมุนไพรงอกเงยอยู่ภายใน

นอกเหนือจากนี้แล้ว ต้นโอสถเซียนขั้นฟ้ามีมากจนนับไม่ถ้วน โลกาที่อยู่ภายในแหวนเก็บของขึ้นเต็มไปด้วยต้นโอสถเซียนจำนวนมาก มีตั้งแต่ระดับปุถุชนถึงต้นโอสถเซียนขั้นฟ้า ตลอดจนราชาสมุนไพร กษัตริย์สมุนไพรและประมุขสมุนไพร!

ในส่วนของต้นโอสถเซียนที่มีระดับขั้นสูงกว่านี้นั้น คือต้นโอสถเซียนที่สามารถผันร่างเพ็ญตนได้แล้ว ดังนั้นภายในนายาแห่งนี้จึงไม่มีโอสถเซียนระดับดังกล่าว

เขาได้รับดอกผลจากเส้นทางแห่งห้าจักรพรรดิหลังสำนักเซียนใต้ทะเลสาบมาเยอะมาก แต่ทว่าข้อสงสัยในใจก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เขารู้สึกว่าเหมือนมีความลับที่ยิ่งใหญ่แฝงซ่อนอยู่ในจักรวาลของยุคสมัยอันไกลโพ้นที่เก่าแก่กว่าโลกเซียนจะอุบัติขึ้นมา

รู้สึกสงสัยในใจ แต่หลัวซิวกลับเข้าใจดีมากว่าตัวเองยังไม่มีศักยภาพไปสืบเสาะ และเป็นเพราะศักยภาพของเขายังอ่อนแอมากเกินไปนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นห้าจักรพรรดิหรือมารไม้ ต่างไม่ได้เปิดเผยเบาะแสหรือข่าวลับใด ๆ ให้แก่เขาเลย

สถานเบญจธาตุกว้างใหญ่มาก อ้างอิงจากคำพูดของมารไม้ นี่เป็นฟ้าดินที่ห้าจักรพรรดิร่วมมือกันบุกเบิกขึ้นมา มีโชคโอกาสคงอยู่เยอะมาก ซึ่งเป็นการช่วยเหลือและส่งเสริมหลัวซิวที่มีผลการฝึกตนระดับเซียนชั้นฟ้าได้เยอะมาก

เขามีตราห้าจักรพรรดิ จึงสามารถเคลื่อนไหวอยู่ในสถานเบญจธาตุได้อย่างราบรื่น สามารถเดินทางไปยังสถานที่อันตรายต่าง ๆ ได้อย่างไร้ความพะวง ซึ่งมีโอกาสได้รับโชคสมบัติต่าง ๆ มากกว่าคนอื่น

ณ สถานซ่อนเร้นแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลจากป่าไม้ขจีมาก ๆ หลัวซิวสลักลายค่ายเพื่อจัดวางค่ายกลต้องห้าม นั่งท่าขัดสมาธิอยู่บนพื้นที่ที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง แล้วหยิบกล่องหยกที่ผู้นำแห่งห้าจักรพรรดิมอบให้เขาออกมา

มีแสงเซียนเป็นประกายระยิบระยับอยู่บนกล่องหยกใบนี้ มันมีขนาดเท่ากับหนึ่งฝ่ามือ ดูแล้วไม่มีจุดที่น่ามหัศจรรย์อะไร

แต่ดูเหมือนสิ่งของที่ซ่อนอยู่ภายในจะมีความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่มาก จนส่งผลให้แม้แต่จักรพรรดิทั้งห้าที่แข็งแกร่งยังต้องหลบเลี่ยง

“สมบัติที่สามารถทำให้จักรพรรดิเซียนทั้งห้าทุ่มเทกลอุบายจำนวนมากเพื่อเฝ้าดูแลรักษาได้นั้น ตกลงมันเป็นโอกาสไร้เทียมทานอย่างไรกันแน่?”

หลัวซิวตื่นเต้นดีใจมากจนไม่อาจสงบอารมณ์ไว้ได้ สาเหตุที่เขาเข่นฆ่าอยู่บนเส้นทางแห่งห้าจักรพรรดิอย่างสุดชีวิต เป้าหมายก็เพื่อได้ครอบครองโอกาสนี้มิใช่หรือ?

บนกล่องหยกไม่มีตัวต้องห้ามใด ๆ ดังนั้นหลัวซิวจึงทำการเปิดมันออกมาได้อย่างสบายมือ

“เวิง!”

มีรัศมีที่งดงามตระการตาแย้มบานออกมาจากกล่องหยก มีพลังออร่าที่ลึกซึ้งพิเศษแฝงซ่อนอยู่ในรัศมีดังกล่าว จึงทำให้หลัวซิวหรี่ตาลงอย่างควบคุมไม่ได้

เพียงพริบตาเดียว ก็มีออร่าธรรมเวชที่มากมายมหาศาลและไม่อาจคาดเดาได้ตลบฟุ้งออกมา ออร่าดังกล่าวยิ่งใหญ่มาก ส่งผลให้ค่ายกลที่หลัวซิวสลักจารึกด้วยตัวเองยังยากที่จะปิดผนึกมันไว้ได้

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลัวซิวจึงรีบเรียกภาชนะติ่งปีศาจมังกรออกมา ใช้อานุภาพแห่งภัณฑ์เซียนปลุกเสกค่ายกลต้องห้าม ถึงจะประคองสถานการณ์เอาไว้ได้

มิเช่นนั้นทันทีที่ปล่อยให้ออร่าธรรมเวชที่มากมายมหาศาลนี้แพร่กระจายออกไป เกรงว่าคงจะดึงดูดให้ผู้แข็งแกร่งที่นับไม่ถ้วนมาแก่งแย่งช่วงชิงแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ