มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3175

“มั่งคั่งเช่นนี้เลยรึ?”

ผู้ติดตามที่อยู่ด้านหลังท่านชายเฉินก็ผงะเป็นแล้วเหมือนกัน นั่นเป็นกรองแก้วเซียนชั้นสูงและกรองแก้วเซียนชั้นยอดนับล้านก้อนเชียวนะ ซึ่งไม่ใช่ชั้นล่างและชั้นกลาง

ท่านชายเฉินแห่งสำนักชิงเยว่นั่นย่อมต้องมองเห็นอยู่แล้ว อย่างไรเสียเมื่อครู่มีกรองแก้วเซียนที่มากมายขนาดนั้นปรากฏในคราวเดียว ชี่แห่งภูตเซียนที่แพร่กระจายออกมาน่าทึ่งอย่างยิ่ง

“บางทีอาจเป็นคนในตระกูลใดตระกูลหนึ่งที่เสื่อมโทรมไปแล้วก็เป็นได้”ท่านชายเฉินพูดอย่างเย็นชา การที่คนที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรมีทรัพย์สินที่มั่งคั่งขนาดนี้ได้นั้น หากไม่ได้รับโชคโอกาสที่ไม่ธรรมดา ก็ต้องเป็นทายาทตระกูลสำนักเซียนที่เสื่อมโทรมไปแล้วแน่นอน ถึงได้มีทรัพย์สินที่น่าทึ่งเช่นนี้

แต่ทว่าคนประเภทนี้จะเปิดเผยความมั่งคั่งของตัวเองไม่ได้เด็ด มิเช่นนั้นก็จะนำพาหายนะมาสู่ตนได้

อย่างน้อยเมื่อเห็นจำนวนกรองแก้วเซียนชั้นสูงที่มากมายเช่นนั้น สีหน้าของท่านชายเฉินแห่งสำนักชิงเยว่นั่นก็เปลี่ยนไป ท่าทางเหมือนจะรู้สึกหวั่นไหวเล็กน้อย

หลัวซิวไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นแต่อย่างใด น้อยมากที่เขาจะเป็นฝ่ายไปหาเรื่องผู้อื่น ทว่าหากมีคนมารุกรานเขา เขาก็ไม่ใช่คนที่มีอุปนิสัยดีเลิศอะไรเช่นกัน

สุดท้ายแล้วสาเหตุที่เขาเข้าไปในหอเรือนแห่งนี้นั้น ก็ไม่ได้เป็นเพราะรู้สึกโกรธโดยสิ้นเชิงหรอก เป็นเพราะคำว่าทะยานเซียนทำให้เขาซาบซึ้งใจจริง ๆ หากไม่ใช่เพราะมีปัญหากับขยะพวกนี้ ไม่แน่เขาคงพลาดโอกาสได้เข้าไปด้านในแล้ว

ด้วยเหตุนี้สุดท้ายเขาก็เข้าไปอยู่ดี เรื่องบุพเพสันนิวาสเป็นอะไรที่อธิบายได้ยากมาก ไม่แน่ในนี้อาจมีของที่มีวาสนาต่อเขาก็เป็นได้มิใช่หรือ?

ในหอเรือนก็มีการแบ่งระดับเช่นกัน แยกแยะชัดเจน ด้านหลังประตูบานแรกมีสนามหญ้าหนึ่งสนาม ก้อนหินแต่ละก้อนถูกจัดวางไว้ในเขตพื้นที่ที่แตกต่างกัน ลวดลายที่อยู่บนก้อนหินเหมือนลวดลายที่เด็กวาดขึ้นมาอย่างเรื่อยเปื่อย

หลัวซิวกวาดตามองอย่างเรื่อยเปื่อยรอบหนึ่ง สัมผัสออร่าธรรมเวชจากหินสลักเหล่านี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ทว่าในหินสลักบางก้อนมีท่วงเซียนธรรมเวชธรรมชาติแฝงซ่อนอยู่ แต่ออร่าก็ซ่อนเร้นได้ลึกมาก การที่ตัวสำนึกจะสัมผัสไม่ได้นั้นก็ถือเป็นเรื่องปกติมาก

ในภูมิภาคเบญจธาตุมีหอเรือนไม่น้อย ซึ่งหินสลักของหอเรือนส่วนมากล้วนมาจากสถานเบญจธาตุ

กาลเวลาผ่านพ้นไปอย่างยาวนาน มี​​หินสลักไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่ถูกนำออกมาจากสถานเบญจธาตุ

“พวกบ้านนอกนี่มันเป็นพวกบ้านนอกจริง ๆ หินสลักที่อยู่ในนี้ล้วนเป็นหินสลักที่ไม่มีท่วงเซียน มันแสร้งทำเป็นให้ความสนใจได้แนบเนียนมากเลยนะ”

ทาสรับใช้อยู่ข้างกายท่านชายเฉินควบคุมสันดานปากดีไม่ได้อีกแล้ว

“เสียงดังชิบหาย!”

แววตาของหลัวซิวเยือกเย็นลง และไม่เห็นเขาได้ลงมือทำอะไรเช่นกัน มีแค่เสียงที่เหมือนดังเสียงฟ้าร้องสะท้อนเข้าไปในหูทาสรับใช้คนนั้น

“อั่กก!”

ทาสรับใช้ตกตะลึงหนักมาก อ้าปากกระอักเลือดแล้วล้มนอนลงไปกับพื้น

สีหน้าของท่านชายเฉินที่เป็นเจ้านายของทาสรับใช้คนนั้นหม่นหมองลงไปกะทันหัน ทำร้ายผู้ติดตามของตัวเองต่อหน้าตน นี่เป็นพฤติกรรมที่เหมือนตบหน้าเขาชัดขข ๆ

ในขณะที่ท่านชายเฉินกำลังจะซักถามอยู่นั้น กลับเห็นหลัวซิวขยำมือครั้งหนึ่ง หินสลักธรรมดาก้อนหนึ่งที่วางอยู่ในสนามหญ้าก็ลอยขึ้นมากะทันหัน แล้วมีรัศมีที่งดงามตระการตาแย้มบานออกมาจากลวดลายที่เหมือนดั่งยันต์ผี

“นะ……นี่คือ……”

ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุล้วนเบิกตากว้าง มีแสงเซียนแย้มบานออกมาจากลวดลายบนหินสลัก ซึ่งนี่ก็หมายความว่ามีคนตระหนักความล้ำลึกของพลังอมตะที่แฝงซ่อนอยู่ภายในได้แล้ว

เห็นเพียงลวดลายที่เหมือนการคลานของไส้เดือนบนหินสลักบิดเบี้ยวแล้วประกอบกันอย่างต่อเนื่อง จนวิวัฒนาการท่วงเซียนที่ลึกลับและมหัศจรรย์ออกมา ทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ต่างอะไรจากก้อนหินธรรมดาทั่วไปก้อนหนึ่งเลย

“ดูจากออร่าท่วงเซียนแล้ว อย่างน้อยก็เป็นวรยุทธ์พลังอมตะที่ไม่ต่ำกว่าระดับราชาเซียน!”

เหล่าองครักษ์มองดูจนเบิกตากว้าง รู้สึกเหลือเชื่อมาก ต่างมองไปทางหลัวซิวด้วยความเหลือเชื่อ

“หึ!”

ท่านชายเฉินนั่นทำเสียงหึเบา ๆ ไม่ไปหาเรื่องหลัวซิวอีก แค่ทาสรับใช้คนหนึ่ง ยังไม่ถึงขั้นให้เขาต้องเป็นศัตรูกับผู้ที่สามารถตระหนักพลังอมตะได้จากหินสลักก้อนหนึ่ง

กำเนิดจากสำนักชิงเยว่ ท่านชายเฉินตนนี้ให้ความสำคัญกับผลได้ผลเสียมาก ๆ ผลประโยชน์ต้องมาก่อนทุกอย่างเสมอ

ปรากฏการณ์ประหลาดดำเนินการอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีลายเส้นที่ผันมาจากแสงเซียนหลอมรวมเข้าไปในร่างกายหลัวซิว แล้วมีข้อมูลของวรยุทธ์วิชาหนึ่งปรากฏในหัวเขา

และในเวลานี้เอง ก็มีผู้รับผิดชอบของหอเรือนเดินตรงมา อมยิ้มพลางถาม “ไม่ทราบว่าท่านชายยินดีที่จะนำวรยุทธ์ที่ตระหนักได้ขายให้หอเรือนของเราหรือไม่?”

“โอ๊ะ? หอเรือนของพวกเจ้าจะเสนอกรองแก้วเซียนเท่าไหร่หรือ?”หลัวซิวเอ่ยปากถามอย่างเรื่อยเปื่อย วรยุทธ์ระดับราชาเซียนไม่มีประโยชน์ต่อเขา การที่สามารถขายได้นั้น ย่อมต้องเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

“ดูจากออร่าท่วงเซียนในเมื่อครู่นี้ วรยุทธ์ที่ท่านชายตระหนักได้น่าจะเป็นระดับราชาเซียน หอเรือนของเราสามารถเสนอกรองแก้วเซียนชั้นสูงสองล้านก้อนให้ท่านชาย ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการตระหนักหินสลักนั้น ทางเราว่าจะยกเว้นให้ท่านชายเช่นกันขอรับ”