มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3178

“ยินดีกับกษัตริย์เซียนหย่งหลินด้วย”

คนจำนวนไม่น้อยต่างเดินเข้ามายินดี ในเมืองโหวหรงยุคนี้ กษัตริย์เซียนคือผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่สุดแล้ว

รอยยิ้มบนใบหน้าของกษัตริย์เซียนหย่งหลินเหมือนลมฤดูใบไม้ผลิ สายตาเหลือบไปเห็นว่ามีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าภาพทะยานเซียนก้อนนั้น ก็อดตกตะลึงเล็กน้อยไม่ได้

“ฮ่า ๆ กษัตริย์เซียนหย่งหลิน ท่านเองก็เห็นแล้วหรือ ? เด็กเมื่อวานซืนที่ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนหนึ่ง คิดจะสัมผัสรู้ภาพทะยานเซียน”

ขณะที่คนข้าง ๆ พูดขึ้น กษัตริย์เซียนหย่งหลินเองก็ส่ายหัว “เด็กหนุ่มล้วนมีความทะเยอทะยานสูงทั้งนั้น”

คนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเล็กน้อย พอจะพูดจากับกษัตริย์เซียนหย่งหลินได้ ก็เดินเข้ามาขอคำชี้แนะเคล็ดลับในการสัมผัสรู้หินสลัก

เวลาค่อย ๆ ผ่านพ้นไป เวลาหนึ่งชั่วยามกำลังจะมาถึง

คนของหอเรือนทะยานเซียนคนหนึ่งเดินเข้ามา เตรียมที่จะเปิดตัวต้องห้ามเมื่อครบกำหนดเวลา เพื่อหยุดการสัมผัสรู้ต่อของหลัวซิว

แต่ในตอนนี้เอง จู่ ๆ มีแสงจ้าพุ่งออกมาจากหินสลักภาพทะยานเซียนโดยไม่ได้คาดคิด ออร่าอันเข้มข้นครอบคลุมไปทั่วสวนใหญ่ ทำให้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะปิดตา

“สวรรค์ เกิดเรื่องอะไรขึ้น ?”

“หินสลักภาพทะยานเซียนเปล่งแสงแล้ว ? หรือจะมีคนสัมผัสรู้ได้แล้ว ?”

“......”

จู่ ๆ ก็มีร่างหลายร่างปรากฏขึ้น มีออร่าขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วตัวของทุกคน ห่อหุ้มอยู่ในแสงเซียนที่รวมตัวขึ้นจากเกณฑ์ธรรมเวช ที่แท้ก็เป็นผู้แข็งแกร่งของรอเรือนทะยานเซียน

แสงสีขาวเจิดจ้าต่างส่องไปยังหินสลักภาพทะยานเซียน ร่างร่างหนึ่งที่สวมใส่ชุดสีขาวเดินออกมา ท้องฟ้าเต็มไปด้วยลำแสง ราวกับเหาะได้

“เช้ง !”

เสียงชักกระบี่ยุทธ์ออกจากฝังดังก้องไปทั่วท้องฟ้า ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นไม่มีใครที่ไม่ตกตะลึง คนที่ผลการฝึกตนค่อนข้างอ่อนแอ ก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูก รู้สึกเวียนหัว สติเลื่อนลอย

ทันใดนั้นเอง ปรากฏการณ์จางหาย ร่างของคนหายวับไป ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ

“เมื่อครู่คืออะไร ?”

“สวรรค์ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ !”

“ในหินสลักภาพทะยานเซียนก้อนนี้มีพลังอมตะอะไรอยู่กันแน่ ?”

“ปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เสียงกระบี่ยุทธ์ออกจากฝักทำให้ผู้ที่ได้ยินสติเลื่อนลอย อย่างน้อยต้องเป็นพลังอมตะระดับเซียนสูงสุดสินะ ?”

คนจำนวนนับไม่ถ้วนต่างตกตะลึงกับสิ่งนี้ มีเพียงหลัวซิวที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ด้านหน้าหินสลักภาพทะยานเซียนที่ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย

“น่าเสียดายจริง ๆ นี่คือพลังอมตะที่ไม่สมบูรณ์แบบหนึ่ง”

ตอนที่เขาสัมผัสรู้ปรากฏการณ์ออกมา ความลึกลับของพลังอมตะนี้ก็หมุนเวียนอยู่ในจิตใจ แต่หลังจากนั้นหลัวซิวก็พบว่า พลังอมตะนี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวเท่านั้น ไม่สมบูรณ์

ทะยานเซียน......

หลัวซิวนึกถึงทะยานเซียนของจี้หวูชวง เศษเสี้ยวตราทะยานเซียนของแดนเซียนนอกนภา รวมไปถึงพลังอมตะทะยานเซียนระดับราชาเซียนที่หมุนเวียนอยู่ในโลกเซียน

เมื่อเทียบกับสิ่งนี้ สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดยังจะมีสิทธิ์ถูกเรียกว่า “เซียน” ได้อย่างไร ?

แม้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยว หลัวซิวก็ยังคงรับรู้ได้ว่า เศษเสี้ยวของพลังอมตะทะยานเซียนวิชานี้ ต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าพลังอมตะระดับเซียนสูงสุดจำนวนมากอย่างแน่นอน

ผู้แข็งแกร่งหลายคนที่ปรากฏตัวขึ้นในหอเรือนทะยานเซียนเองก็รู้สึกประหลาดใจ หินสลักภาพทะยานเซียนวางอยู่ที่นี่มานานกว่าแสนปีแล้ว บุคคลสำคัญจำนวนมากต่างเคยมาสังเกตและศึกษาสัมผัสรู้ แต่ก็ไม่มีใครสัมผัสรู้อะไรออกมาได้

ชายหนุ่มผู้นี้มาจากไหนกันแน่ ? ถึงได้สัมผัสรู้ความลึกลับของพลังอมตะที่น่าตกใจเช่นนี้ออกมาได้ ศักยภาพของเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?

“พลังอมตะระดับเซียนสูงสุด นั่นไม่เท่ากับว่าต้องแลกเปลี่ยนด้วยสมบัติระดับเซียนสูงสุดอย่างนั้นหรือ ?”

สีหน้าของคนในหอเรือนทะยานเซียนต่างไม่น่ามอง พูดอย่างไม่เกรงใจได้ว่า หินสลักภาพทะยานเซียนถูกคนสัมผัสรู้พลังอมตะออกมาได้ เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจจริง ๆ

โดยเฉพาะชื่อเสียงของพลังอมตะระดับเซียนสูงสุดนั้น ต่างก็รู้ว่ามีเพียงสิ่งสืบทอดระดับแดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ที่จะมีพลังอมตะระดับนี้ สำนักเซียนราชวงศ์เซียนโดยทั่วไป อย่างมากก็มีผู้แข็งแกร่งระดับกษัตริย์เซียนคอยปกครอง หากมีพลังอมตะระดับประมุขเซียนเป็นสิ่งสืบทอดได้ นับว่าสุดยอดแล้ว

“ผู้เพื่อนยุทธ์น้อยผู้นี้......”

บุคคลสำคัญคนหนึ่งของหอเรือนทะยานเซียนเดินเข้ามา แสงเซียนที่แผ่ซ่านออกจากตัว แสดงภาพของชายชราผู้สงบสุข

“ไม่ขาย”

หลัวซิวยังไม่รอให้อีกฝ่ายได้เอ่ยปาก ก็พูดปฏิเสธออกมาเสียแล้ว ทะยานเซียนมีบุพเพสันนิวาสกับเขา ย่อมไม่ขายทิ้งเหมือนอย่างพลังอมตะกษัตริย์เซียนก่อนหน้านี้

ทั่วทั้งเมืองโหวหรงราวกับถูกพลิกแผ่นดินในทันที

หินสลักภาพทะยานเซียนมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาครั้งหนึ่งเมื่อแสนปีก่อน มีบุคคลสำคัญ เจ้าศักดิ์สิทธิ์ เทพบุตรจำนวนมากล้วนเคยไปทดลอง ด้วยสติปัญญาของพวกเขาต่างไม่ได้อะไรกลับมาเลย

เช่นนั้น คนที่สามารถสัมผัสรู้ภาพทะยานเซียนได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลได้ ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

คนประเภทนี้ ย่อมเป็นเป้าหมายที่กองกำลังใหญ่ต่าง ๆ อยากโน้มน้าว

เพียงแต่ ไม่ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ จะตามหาอย่างไร หลังจากอีกฝ่ายออกจากหอเรือนทะยานเซียนแล้ว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย

ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว หลัวซิวไม่ได้ไปจากเมืองโหวหรง เพราะเขาได้ยินข่าวเหล่านี้ ดูเหมือนว่าคนของชนเผ่าดึกดำบรรพ์ที่มายังเมืองโหวหรง จะมีเมี่ยวหลิงในนั้นด้วย

กับเมี่ยวหลิง อันที่จริงหลัวซิวเองก็ไม่อยากมีความผูกพันอะไรมากนัก มิเช่นนั้น ในตอนนั้นเขาคงไม่ทิ้งเมี่ยวหลิงเอาไว้ที่โรงเตี๊ยมในเมืองเซียนคนเดียว จากนั้นก็จากมาตามลำพัง

แต่เขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ที่โยงใยอยู่กับชนเผ่าดึกดำบรรพ์ได้ เพราะมารดาของเขาเมี่ยวฮว๋า เคยเป็นเทพธิดาของชนเผ่าดึกดำบรรพ์

ใช้ไร้ลักษณ์ไร้รูปเปลี่ยนแปลงหน้าตาและออร่า หลัวซิวมาถึงหอเรือนไท่ฉือ ซึ่งก็คือกิจการของชนเผ่าดึกดำบรรพ์

ด้วยแดนของผลการฝึกตนและสัมผัสรู้ธรรมเวชที่ซับซ้อนขึ้น การที่หลัวซิวใช้ไร้ลักษณ์ไร้รูปในการเปลี่ยนแปลงหน้าตาและออร่า ทำให้จับติดได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ

หากพูดอย่างไม่เกรงใจก็คือ ด้วยแดนของเขาในตอนนี้ นอกเสียจากผู้แข็งแกร่งระดับเซียนสูงสุดจะมาด้วยตนเอง มิเช่นนั้นก็ไม่มีใครมองออกว่าเขาเปลี่ยนหน้าตาและออร่า

ต่อให้เขายืนอยู่ต่อหน้าประมุขเซียนผู้หนึ่ง อีกฝ่ายก็ไม่มีทางรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา

ทว่า สิ่งที่ทำให้หลัวซิวคาดไม่ถึงก็คือ เขาเพิ่งมาถึงหอเรือนไท่ฉือ ก็มีเสียงของความโกลาหลดังขึ้นมาจากประตูใหญ่ของหอเรือน

ระหว่างที่กำลังงุนงงอยู่นั้น ก็มีคนสองคนเดินตรงเข้ามา คนหนึ่งเป็นคนหนุ่มใบหน้ายิ้มแย้มหล่อเหลาไม่ธรรมดา ซึ่งหลัวซิวไม่ได้รู้สึกแปลกหน้า นั่นก็คือเทพบุตรนิกายฟ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สามยอด ฉือเฟยหลง

ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นผู้หญิง ดวงตางดงาม ฟันขาวเป็นประกาย ท่าทางสง่างามน่าหลงใหลราวกับเทพธิดา แม้กระทั่งไข่มุกก็ดูหม่นหมอง

หลัวซิวไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน แต่ก็ได้ยินจากบรรดาฝูงชนพูดว่า คนผู้นี้ก็คือเทพธิดาของนิกายฟ้า

เทพธิดาของนิกายฟ้ามีชื่อเสียงโด่งดังยิ่งกว่านิกายมนุษย์และนิกายดิน ในตอนนั้นที่ฉือหลงเฟยรวบรวมคนหนุ่มสาวกลุ่มเล็ก ๆ เทพธิดาของนิกายฟ้ากำลังปิดขังฝึกตน จึงไม่ได้มาเข้าร่วม

ตอนนี้ นิกายฟ้าสามยอดแดนศักดิ์สิทธิ์เป็นผู้นำ เทพบุตรและเทพธิดาของนิกายฟ้าต่างเป็นคนรุ่นใหม่ที่ยอดเยี่ยม บดบังรัศมีของเทพบุตรและเทพธิดาของนิกายดินและนิกายมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ