มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3183

“นายน้อย ท่านอยู่แดนเซียนชั้นฟ้าแล้วหรือ ?”

ด้วยแดนของหลงอ้าวจวิน มองแวบเดียวก็รู้ผลการฝึกตนของหลัวซิวแล้ว ดวงตาสีทองที่ดูน่าเกรงขาม แสดงความประหลาดใจออกมา

ตอนที่หลัวซิวเพิ่งมาถึงโลกเซียน ยังมีผลการฝึกตนเพียงแค่มกุฎเต๋า นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่ปี กลับบรรลุถึงแดนเซียนชั้นฟ้าเสียแล้ว

แน่นอนว่า ด้วยการฝึกตนเกือบหาพันปีของหลัวซิวในชาตินี้ การบรรลุถึงแดนชั้นฟ้า สำหรับโลกเซียนแล้วไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร

แต่ปัญหาก็คือ เขาใช้เวลาฝึกฝนในโลกามนุษย์นานกว่า หากเขาฝึกตนในโลกเซียนตั้งแต่แรก บางทีเขาอาจเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูง หรืออาจเหนือกว่านั้นไปแล้ว

“พึ่งโชคดีบรรลุได้ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก” หลัวซิวยิ้มอย่างถ่อมตน

“นายน้อยถ่อมตัวไปแล้ว ท่านคล้ายกับท่านพ่อของท่านมาก ไม่เหมือนผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดจากแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น ไม่เห็นใครในสายตา วิสัยทัศน์สูงเกินไป”

ผู้แข็งแกร่งนั้นถือดี แต่คนที่ถือดีแต่ยังแฝงไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นหาได้ยาก

เดินเคียงคู่กับหลงอ้าวจวิน หลัวซิวเดินมาถึงดินแดนอันบริสุทธิ์ราวกับสวรรค์แห่งนั้น

ทั่วทั้งสถานกระดูกฝัง ทุกที่ล้วนมีพลังแห่งความตายแพร่กระจายอยู่ มีเพียงดินแดนอันบริสุทธิ์แห่งนี้เท่านั้น ที่แพร่กระจายไปด้วยพลังชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง

ไม่ว่าจะเราจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใด ขอเพียงมาที่นี่ พลังชีวิตก็จะซ่อมแซมร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ

แม้จะอยู่ภายใต้ชั้นที่ตกตะกอนมาหลายปี พลังชีวิตอันเข้มข้นของที่นี่ก็ยังคงควบแน่น เกิดสมบัติอันล้ำค่าขึ้นมาไม่น้อย ถึงขั้นเป็นอสูรจิต

ยกตัวอย่างเช่น หลัวซิวเห็นกระต่ายขาวตัวหนึ่ง มันกำลังนอนหลับอยู่ในทุ่งหญ้า ถึงแม้หลัวซิวและหลงอ้าวจวินจะเดินผ่านข้าง ๆ กระต่ายตัวนั้นก็ทำเพียงหันมองพวกเขาด้วยความขี้เกียจ จากนั้นก็นอนหลับต่อ

กลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีทะเลสาบอยู่หนึ่งแห่ง ริมทะเลสาบมีเศษเสี้ยวศิลาอยู่หนึ่งก้อน ตอนนั้นหลัวซิวได้รับการสืบทอดเวทย์ต้องห้ามของหวูจี๋ไท่ซ่างจากศิลาก้อนนี้

แม้ว่าตอนนี้เขาจะสร้างเวทย์ต้องห้ามวิถีเซียนของตนเองขึ้นมาแล้ว แต่เวทย์ต้องห้ามทั้งแปดที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างสืบทอดลงมา สำหรับหลัวซิวแล้วนับว่าเป็นความช่วยเหลือที่ดีอย่างยิ่ง

เขาต้องเข้าใจในหลักการ จากนั้นก็เข้าใจในสิ่งที่อยู่ประเภทเดียวกัน บรรลุวรยุทธ์พลังอมตะชั้นยอดมากขึ้น ใช้แก่นแท้ของมัน ค่อย ๆ พัฒนาไร้ลักษณ์ของตนเองให้สมบูรณ์ และสร้างพลังอมตะที่เหมาะสมกับตนเองออกมา

“นายน้อย หยดเลือดของท่านหนึ่งหยดลงไปในทะเลสาบแห่งนี้” หลงอ้าวจวินพูดขึ้นข้าง ๆ

หลัวซิวพยักหน้า ทำตามที่เขาบอกโดยไม่สงสัย เดินขึ้นไปแล้วเค้นเลือดออกมาจากปลายนิ้วหนึ่งหยด หยดเลือดใสแวววาว หยดลงไปในทะเลสาบ

เลือดผสมเข้ากับน้ำ น้ำในทะเลสาบเดือดขึ้นมาทันที จากนั้นกึ่งกลางของทะเลสาบก็แยกออกจากกันอย่างต่อเนื่อง พระราชวังที่มีแสงระยิบระยับโผล่ขึ้นมาจากกลางทะเลสาบ และลอยอยู่เหนือทะเลสาบ

“นี่คือ......” แววตาของหลัวซิวแสดงความประหลาดใจออกมา

“คือคลังสมบัติท่านพ่อของท่านตั้งใจเก็บเอาไว้ให้ท่าน !” หลงอ้าวจวินพูดด้วยรอยยิ้ม

ขณะที่พูดอยู่นั้น หลงอ้าวจวินก็เดินขึ้นไปข้างหน้า เหยียบลงบนพื้นผิวทะเลสาบ แล้วเดินตรงเข้าไปหาพระราชวังที่มีแสงระยิบระยับนั้น

คำว่าคลังสมบัติ ทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว ไท่ซ่างอวี้ผู้เป็นบิดาเคยเป็นมกุฎเซียนคลุมโลกา มีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สามารถต้านทานจักรพรรดิเซียนได้ ในยุคนั้นที่ยังไม่มีจักรพรรดิเซียนมรรคผล เคยไร้คู่ต่อสู้ มีอำนาจกดดันที่ยิ่งใหญ่จนแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แทบจะหายใจไม่ออก

คลังสมบัติที่ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ทิ้งเอาไว้ เพียงพอจะผู้แข็งแกร่งทั่วโลกใจสั่นได้

หลัวซิวเองก็เดินตามขึ้นไปเช่นกัน พระราชวังตรงหน้าที่ลอยขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ ทำให้เขารู้สึกถึงความผูกพันทางสายเลือด

“ผู้อาวุโส พ่อของข้ายังมีชีวิตอยู่ ใช่ไหม ?” จู่ ๆ หลัวซิวก็พูดกับหลงอ้าวจวินขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย

หลงอ้าวจวินผงะไป หันไปสบตากับหลัวซิว “ทำไมถึงพูดเช่นนี้ ? ตอนนั้นท่านพ่อของท่านถูกผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเซียนนับสิบคนรุมโจมตี”

“มกุฎเซียนนับสิบคน ?”

หลัวซิวขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ออกว่ากองกำลังไหนในโลกเซียนที่จะสามารถนำมกุฎเซียนออกมาได้นับสิบคนในคราวเดียว

ต่อให้กว่าครึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกัน เกรงว่าก็คงไม่อาจหามกุฎเซียนออกมาได้จำนวนมากขนาดนั้น

“ต่อให้มกุฎเซียนนับสิบคนรุมโจมตี ข้าก็เชื่อว่าด้วยความสามารถของท่านพ่อต้องรับมือได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ