“นายน้อย ท่านอยู่แดนเซียนชั้นฟ้าแล้วหรือ ?”
ด้วยแดนของหลงอ้าวจวิน มองแวบเดียวก็รู้ผลการฝึกตนของหลัวซิวแล้ว ดวงตาสีทองที่ดูน่าเกรงขาม แสดงความประหลาดใจออกมา
ตอนที่หลัวซิวเพิ่งมาถึงโลกเซียน ยังมีผลการฝึกตนเพียงแค่มกุฎเต๋า นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่ปี กลับบรรลุถึงแดนเซียนชั้นฟ้าเสียแล้ว
แน่นอนว่า ด้วยการฝึกตนเกือบหาพันปีของหลัวซิวในชาตินี้ การบรรลุถึงแดนชั้นฟ้า สำหรับโลกเซียนแล้วไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจอะไร
แต่ปัญหาก็คือ เขาใช้เวลาฝึกฝนในโลกามนุษย์นานกว่า หากเขาฝึกตนในโลกเซียนตั้งแต่แรก บางทีเขาอาจเป็นเซียนชั้นฟ้าขั้นสูง หรืออาจเหนือกว่านั้นไปแล้ว
“พึ่งโชคดีบรรลุได้ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก” หลัวซิวยิ้มอย่างถ่อมตน
“นายน้อยถ่อมตัวไปแล้ว ท่านคล้ายกับท่านพ่อของท่านมาก ไม่เหมือนผู้มีพรสวรรค์ที่เกิดจากแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น ไม่เห็นใครในสายตา วิสัยทัศน์สูงเกินไป”
ผู้แข็งแกร่งนั้นถือดี แต่คนที่ถือดีแต่ยังแฝงไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นหาได้ยาก
เดินเคียงคู่กับหลงอ้าวจวิน หลัวซิวเดินมาถึงดินแดนอันบริสุทธิ์ราวกับสวรรค์แห่งนั้น
ทั่วทั้งสถานกระดูกฝัง ทุกที่ล้วนมีพลังแห่งความตายแพร่กระจายอยู่ มีเพียงดินแดนอันบริสุทธิ์แห่งนี้เท่านั้น ที่แพร่กระจายไปด้วยพลังชีวิตที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง
ไม่ว่าจะเราจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเพียงใด ขอเพียงมาที่นี่ พลังชีวิตก็จะซ่อมแซมร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ
แม้จะอยู่ภายใต้ชั้นที่ตกตะกอนมาหลายปี พลังชีวิตอันเข้มข้นของที่นี่ก็ยังคงควบแน่น เกิดสมบัติอันล้ำค่าขึ้นมาไม่น้อย ถึงขั้นเป็นอสูรจิต
ยกตัวอย่างเช่น หลัวซิวเห็นกระต่ายขาวตัวหนึ่ง มันกำลังนอนหลับอยู่ในทุ่งหญ้า ถึงแม้หลัวซิวและหลงอ้าวจวินจะเดินผ่านข้าง ๆ กระต่ายตัวนั้นก็ทำเพียงหันมองพวกเขาด้วยความขี้เกียจ จากนั้นก็นอนหลับต่อ
กลางดินแดนศักดิ์สิทธิ์มีทะเลสาบอยู่หนึ่งแห่ง ริมทะเลสาบมีเศษเสี้ยวศิลาอยู่หนึ่งก้อน ตอนนั้นหลัวซิวได้รับการสืบทอดเวทย์ต้องห้ามของหวูจี๋ไท่ซ่างจากศิลาก้อนนี้
แม้ว่าตอนนี้เขาจะสร้างเวทย์ต้องห้ามวิถีเซียนของตนเองขึ้นมาแล้ว แต่เวทย์ต้องห้ามทั้งแปดที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างสืบทอดลงมา สำหรับหลัวซิวแล้วนับว่าเป็นความช่วยเหลือที่ดีอย่างยิ่ง
เขาต้องเข้าใจในหลักการ จากนั้นก็เข้าใจในสิ่งที่อยู่ประเภทเดียวกัน บรรลุวรยุทธ์พลังอมตะชั้นยอดมากขึ้น ใช้แก่นแท้ของมัน ค่อย ๆ พัฒนาไร้ลักษณ์ของตนเองให้สมบูรณ์ และสร้างพลังอมตะที่เหมาะสมกับตนเองออกมา
“นายน้อย หยดเลือดของท่านหนึ่งหยดลงไปในทะเลสาบแห่งนี้” หลงอ้าวจวินพูดขึ้นข้าง ๆ
หลัวซิวพยักหน้า ทำตามที่เขาบอกโดยไม่สงสัย เดินขึ้นไปแล้วเค้นเลือดออกมาจากปลายนิ้วหนึ่งหยด หยดเลือดใสแวววาว หยดลงไปในทะเลสาบ
เลือดผสมเข้ากับน้ำ น้ำในทะเลสาบเดือดขึ้นมาทันที จากนั้นกึ่งกลางของทะเลสาบก็แยกออกจากกันอย่างต่อเนื่อง พระราชวังที่มีแสงระยิบระยับโผล่ขึ้นมาจากกลางทะเลสาบ และลอยอยู่เหนือทะเลสาบ
“นี่คือ......” แววตาของหลัวซิวแสดงความประหลาดใจออกมา
“คือคลังสมบัติท่านพ่อของท่านตั้งใจเก็บเอาไว้ให้ท่าน !” หลงอ้าวจวินพูดด้วยรอยยิ้ม
ขณะที่พูดอยู่นั้น หลงอ้าวจวินก็เดินขึ้นไปข้างหน้า เหยียบลงบนพื้นผิวทะเลสาบ แล้วเดินตรงเข้าไปหาพระราชวังที่มีแสงระยิบระยับนั้น
คำว่าคลังสมบัติ ทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว ไท่ซ่างอวี้ผู้เป็นบิดาเคยเป็นมกุฎเซียนคลุมโลกา มีพลังในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง สามารถต้านทานจักรพรรดิเซียนได้ ในยุคนั้นที่ยังไม่มีจักรพรรดิเซียนมรรคผล เคยไร้คู่ต่อสู้ มีอำนาจกดดันที่ยิ่งใหญ่จนแดนศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แทบจะหายใจไม่ออก
คลังสมบัติที่ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ทิ้งเอาไว้ เพียงพอจะผู้แข็งแกร่งทั่วโลกใจสั่นได้
หลัวซิวเองก็เดินตามขึ้นไปเช่นกัน พระราชวังตรงหน้าที่ลอยขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ ทำให้เขารู้สึกถึงความผูกพันทางสายเลือด
“ผู้อาวุโส พ่อของข้ายังมีชีวิตอยู่ ใช่ไหม ?” จู่ ๆ หลัวซิวก็พูดกับหลงอ้าวจวินขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
หลงอ้าวจวินผงะไป หันไปสบตากับหลัวซิว “ทำไมถึงพูดเช่นนี้ ? ตอนนั้นท่านพ่อของท่านถูกผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎเซียนนับสิบคนรุมโจมตี”
“มกุฎเซียนนับสิบคน ?”
หลัวซิวขมวดคิ้ว เขาคิดไม่ออกว่ากองกำลังไหนในโลกเซียนที่จะสามารถนำมกุฎเซียนออกมาได้นับสิบคนในคราวเดียว
ต่อให้กว่าครึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์ร่วมมือกัน เกรงว่าก็คงไม่อาจหามกุฎเซียนออกมาได้จำนวนมากขนาดนั้น
“ต่อให้มกุฎเซียนนับสิบคนรุมโจมตี ข้าก็เชื่อว่าด้วยความสามารถของท่านพ่อต้องรับมือได้”
“นายท่านใช้ความเป็นความตายบรรลุลัทธิ ตอนที่สำเร็จเป็นประมุขเซียนได้ครอบครองกฎวัฏสงสาร ในแดนมกุฎเซียน ฝึกฝนกฎวัฏสงสารจนสมบูรณ์”
“หากสามารถก้าวหน้าไปอีกขั้นใช้วัฏสงสารเปลี่ยนแปลงสรรค์ดับได้ นายท่านคงมีหวังที่จะมรรคผลจักรพรรดิเซียนแน่นอน”
หลงอ้าวจวินทอดถอนใจอีกครั้ง เกี่ยวกับทิศทางชีวิตและความตายของไท่ซ่างอวี้ แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ เขารู้เพียงว่าตอนที่เขาใช้รูปร่างของวิญญาณฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ไท่ซ่างอวี้ก็หายสาบสูญไปแล้ว
เขาทำตามคำสั่ง เฝ้าอยู่ที่นี่มาเป็นเวลานานแสนนานก็เพื่อต้อนรับการมาถึงของเจ้านายใหม่ของดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ และคลังสมบัติหลังนี้
“คลังสมบัติแห่งนี้ มีของสะสมของนายท่าน ถึงแม้ท่านจะเป็นนายน้อย แต่เป็นเพราะผลการึกตนของท่านยังอ่อนแอ ดังนั้นสิ่งของที่นี่ ท่านต้องมีความสามารถที่มากพอถึงจะครอบครองได้”
หลงอ้าวจวินค่อย ๆ พูดออกมา ยกมือขึ้นชี้ประตูหินที่อยู่ทางด้านซ้าย “ห้องที่อยู่ด้านหลังประตูหินบานนี้ เป็นสถานที่ที่นายท่านใช้ปิดขังฝึกตนตอนยังมีชีวิต มีท่วงเซียนที่เขาสัมผัสรู้วัฏสงสารเป็นตาย ในท่วงเซียนนั้นมีเวทย์ต้องห้ามที่นายท่านสร้างขึ้นมา”
“ตอนที่นายท่านยังมีชีวิตอยู่ มีความสามารถที่น่าทึ่ง เขาเดินบนเส้นทางเดียวกับจักรพรรดิเซียนไท่ซ่างยุคโบราณ ใช้ไร้ลักษณ์ของตนเองสร้างเวทย์ต้องห้าม ตอนที่เขากลายเป็นมกุฎเซียน ได้สร้างเวทย์ต้องห้ามสำเร็จเจ็ดวิชาแล้ว เหลือเพียงเวทย์ต้องห้ามวิชาสุดท้ายเท่านั้น ก็มีความสำเร็จที่เทียบเท่าได้กับจักรพรรดิเซียนไท่ซ่าง ต้องห้ามทั้งแปดรวมเป็นหนึ่ง กลายเป็นต้องห้ามที่เก้า !”
จากนั้น หลงอ้าวจวินก็ชี้ไปยังประตูหินทางด้านขวา “ด้านหลังของประตูหินบานนี้ก็มีห้องห้องหนึ่ง ด้านในมีเวทย์ต้องห้ามที่จักรพรรดิเซียนไท่ซ่างสร้างขึ้นมา
“นายท่านปลุกวิญญาณและร่างกายของไท่ซ่างขึ้นมา จึงได้เวทย์ต้องห้ามแปดวิชาที่สมบูรณ์ ท่านได้เวทย์ต้องห้ามมาสองวิชาแล้ว ตอนนี้บรรลุถึงแดนเซียนชั้นฟ้า สามารถเข้าไปด้านในเพื่อเลือกเวทย์ต้องห้ามวิชาที่สามได้”
ตามที่หลงอ้าวจวินกล่าวมา หลังจากก้าวเข้าสู่แดนวิถีเซียนแล้ว มนุษย์อมตะสามารถเลือกเวทย์ต้องห้ามได้หนึ่งประเภท เซียนดินสามารถเลือกเวทย์ต้องห้ามได้หนึ่งประเภท หากอ้างอิงตามนี้ มีเพียงบรรลุถึงแดนมกุฎเซียนเท่านั้น ที่จะได้เวทย์ต้องห้ามทั้งแปดวิชาที่สมบูรณ์มาครอบครองได้
หลักการเดียวกัน เวทย์ต้องห้ามที่ไท่ซ่างอวี้ทิ้งไว้ ก็ต้องบรรลุแดนของผลการฝึกตนในระดับหนึ่ง จึงจะสัมผัสรู้จากท่วงเซียนออกมาได้
หลังจากนั้น หลงอ้าวจวินก็ชี้นิ้วไปยังประตูบานที่อยู่ด้านหน้า แล้วพูดว่า : “ในนี่ถึงจะเป็นคลังสมบัติที่แท้จริง มีแหล่งเซียน ภัณฑ์เซียนชั้นยอดนานาชนิด และยังมียาเซียนสูงสุดอีกจำนวนมาก มีแม้กระทั่งมกุฎยาด้วย !”
“แน่นอนว่า ของที่อยู่ด้านในคลังสมบัติแห่งนี้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านจะนำออกมาได้ตามอำเภอใจ แดนเซียนชั้นฟ้าอย่างท่านในตอนนี้ สามารถเลือกภัณฑ์เซียนผู้ชนะออกมาจากด้านในได้สี่ชิ้น ราชาสมุนไพรสี่ต้น และแหล่งเซียนระดับสี่สิบสองประเภท”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลัวซิวก็ไม่ได้รู้สึกสนใจนัก เพราะของในระดับราชาเซียน สำหรับเขานั้นไร้ประโยชน์ไปนานแล้ว
“จริงสิ ตอนที่นายท่านยังมีชีวิตยังเป็นปรมาจารย์ด้วย !” จู่ ๆ หลงอ้าวจวินก็เปลี่ยนเรื่องขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
นี้ก็หายไปเป็นปีเลย แอแ...
รออ่านยุ...
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...