มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 3199

ถูกผนึกไส้เป็นเวลานานแสนนาน วินาทีนี้ในที่สุดก็เป็นอิสระอีกครั้ง ความรู้สึกเช่นนั้น หากไม่เคยได้ผ่านมันมาด้วยตัวเอง ก็ยากมากที่จะสัมผัสได้

วันเวลายาวนานที่ผ่านเลยไป ได้ทำให้ราชาเซียนนี่ล่วนเกือบสูญเสียพลังไปทั้งหมด ร่างของเขาผอมแห้งดั่งโครงกระดูก เหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกเท่านั้น มองไม่เห็นเลือดเนื้อ

เบ้าตาของเขาหุบลึกลงไป มีหยดน้ำตาหลั่งไหลออกมา นั่นคือความโหยหาที่เขามีต่ออิสรภาพ

“คิดถึง คิดไม่ถึงจริง ๆ ......”

ราชาเซียนนี่ล่วนรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาถือโอสถเซียนที่หลัวซิวให้เอาไว้ จากนั้นก็อ้าริมฝีปากแห้ง ๆ ออก แล้วใส่เข้าไปในปาก

โอสถเซียนละลายทันทีที่เข้าปาก ฤทธิ์ยาอันเข้มข้นสลายอยู่ในร่างกาย ร่างกายที่แทบจะหมดเรี่ยวแรง สามารถสัมผัสได้ว่าพลังดั้งเดิมกำลังฟื้นฟูเมื่อได้รับการหล่อเลี้ยงจากโอสถเซียนระดับราชา

หลัวซิวยืนอยู่ด้านหน้าราชาเซียนนี่ล่วน แม้ว่าเขาจะไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่เขาก็ได้ผ่านเหตุการณ์อื่น ๆ มามากมาย

ความทุกข์ทรมานจากการข้ามผ่านวันเวลาอันเนิ่นนานเช่นนั้น เขารู้สึกเข้าอกเข้าใจดี

“ขอบคุณเจ้ามาก......”

ฤทธิ์ของโอสถเซียนได้ถูกร่างกายที่แห้งเหือดดูดซับอย่างรวดเร็ว โอสถเซียนที่สามารถทำให้พลังการฝึกตนที่ราชาเซียนได้สูญเสียไปฟื้นฟู แต่ก็ไม่อาจทำให้ราชาเซียนนี่ล่วนฟื้นตัวได้อย่างสมบูรณ์ เพราะที่เขาได้สูญเสียไปในหลายปีมานี้ มันมากมายเกินไป

ผลการฝึกตนที่สูญเสียไปเป็นสิ่งรองลงมา ที่สำคัญคือพลังดั้งเดิมที่สูญเสียไป จำเป็นต้องใช้สมุนไพรเพิ่มพลังถึงจะค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมาได้

“ผู้อาวุโสเกรงใจเกินไปแล้ว”

หลัวซิวมิได้รับความดีความชอบ พลิกมือเอาโอสถเซียนออกมาหนึ่งขวด แล้วยื่นไปยังด้านหน้าราชาเซียนนี่ล่วน

ราชาเซียนนี่ล่วนก็มิได้เกรงใจ ยื่นมือรับเอาโอสถเซียนขวดนั้น เพราะเขาต้องการโอสถเซียนขวดนั้นมาก

เงยหน้ามองไป ปริภูมิโลกคุกเซียนทลายลงไม่หยุด ราชาเซียนนี่ล่วนล้วงเอาโอสถเซียนออกมาอีกหนึ่งเม็ดแล้วทานลงไป ผลการฝึกตนของเขาฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง

“พรึบ!”

เข็มทิศวัฏสงสารปรากฏขึ้นใต้เท้าของหลัวซิว เขาเชิญราชาเซียนนี่ล่วนขึ้นมา จากนั้นก็กลายเป็นแสงกลสายหนึ่ง ไปจากปริภูมิที่พังทลายแห่งนี้อย่างรวดเร็ว

ส่วนชาวเซียนคนอื่น ๆ ที่เคยถูกกักขังไว้ที่นี่ด้วยความผิดต่าง ๆ นานานั้น หลัวซิวมิได้ไปสนใจ เขาได้ใช้ดาบหักเซียนตัดฐานยุทธ์ของคนพวกนั้น ต่อให้คนพวกนี้หลบหนีออกไปได้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับจักรวาลฟ้าดินแห่งนี้

อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง เพียงแดนศักดิ์สิทธิ์ซิวหลัวภายในหนึ่งร้อยปี ก็จะมีชาวเซียนปรากฏขึ้นหลายคน

ในห้วงดาราสามารถเห็นดาวร้างเกลื่อนกลาดอยู่ทุกที่ เกณฑ์ฟ้าดินบนดวงดาวพวกนี้ถูกทำลาย ไม่มีกลิ่นอายของอสูรจิตอยู่เลย

ลำแสงเจิดจรัสพาดผ่านท้องฟ้า มองดูธารแสงดาวสว่างรุ่งโรจน์แต่ไกล คลื่นโหมซัดสาดเป็นวงกว้าง

“นี่น่ะหรือคือโลกภายนอก?”

ราชาเซียนนี่ล่วนยื่นอยู่ข้างกายหลัวซิว สัมผัสกระแสพลังของจักรวาลฟ้าดิน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกทอดถอนใจ

เมื่อเทียบกับจักรกาลฟ้าดินที่เขาเคยอยู่เมื่อในอดีต รัศมีพลังกฎเกณฑ์ของที่นี่อ่อนแอมาก กระทั่งที่อาจกล่าวได้ว่าไม่สมบูรณ์

หลัวซิวอยู่ด้านข้าง บรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ที่เขารู้ให้ราชาเซียนนี่ล่วนฟัง

นับตั้งแต่จักรพรรดิเซียนภูตศักดิ์สิทธิ์ได้หายตัวไปในยุคโบราณกาล มหาทัณฑ์ได้ปะทุขึ้นในยุคโบราณกาล จักรวาลฟ้าดินเกือบแตกสลาย มีเพียงแผ่นดินอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งหลงเหลืออยู่ ชาวเซียนที่แข็งแกร่งร่วมมือกันบุกเบิกห้วงเวลา แยกโลกเซียนกับจักรวาลที่แตกสลายออกจากกัน มือชื่อว่าโลกเซียน

สำหรับราชาเซียนชางหลานที่เคยได้สยบราชาเซียนนี่ล่วนไว้ในโลกคุกเซียน หลัวซิวไม่เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้อยู่ในโลกเซียนมากก่อน

ในโลกเซียน มีประเทศเซียนอยู่มากมาย เขาไม่ทราบแน่ชัดว่าประเทศเซียนชางหลานหลังหลงเหลืออยู่หรือเปล่า

อย่างไรก็ตามสำหรับโลกเซียนแล้ว ประเทศเซียนเป็นเพียงกองกำลังชั้นล่างสุดเท่านั้นเอง เหนือประเทศเซียน ยังมีราชวงศ์เซียน แดนศักดิ์สิทธิ์!

ทั้งยังมีสำนักเซียนที่มีผู้แข็งแกร่งมากมายประจำการ รากฐานกับการถ่ายทอดต่างก็เหนือกว่าประเทศเซียนส่วนใหญ่อีกมากมาย

ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมราชาเซียนนี่ล่วนถึงได้ถูกสยบอยู่ที่นี่ ราชาเซียนนี่ล่วนไม่กล่าวถึง หลัวซิวก็มิได้เอ่ยถาม

จากร่างของราชาเซียนนี่ล่วน หลัวซิวสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่พิเศษบางอย่าง แม้ว่าตอนนี้ผลการฝึกตนทั้งหมดของเขาจะยังไม่ฟื้นฟูก็ตาม

แต่หลัวซิวกลับรู้สึกได้ว่า หากราชาเซียนนี่ล่วนฟื้นฟูทั้งหมด เช่นนั้นในสถานการณ์ที่อยู่แดนราชาเซียนเช่นเดียวกัน ต่อให้เป็นราชาเซียนที่มาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ด้านการฝึกตน ระหว่างหลัวซิวกลับราชาเซียนนี่ล้วนไม่ได้สนทนากันอะไรมากมายนัก แม้ราชาเซียนนี่ล้วนจะเป็นบุคคลในยุคโบราณกาล แต่ไม่ว่าอย่างไรเสีย เขาก็เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกตนเป็นเวลาห้าร้อยปีเพียงเท่านั้น

“เฮ้อ......”

ราชาเซียนนี่ล้วนถอนหายใจยาว ๆ “เล่าเรื่องโลกเซียนให้ข้าฟังหน่อยสิ”

จากคำพูดนี้ หลัวซิวสามารถฟังออกว่า ราชาเซียนนี่ล่วนจักต้องไปโลกเซียนกับเขาอย่างแน่นอน

หลัวซิวไม่ได้ถามอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาบรรยายเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้พบเจอในโลกเซียน สำหรับเรื่องที่ค่อนข้างเป็นความลับ เขาไม่กล่าวถึงเลยแม้แต่คำเดียว

“หกเผ่าพันธุ์บรรพกาล บางทีเจ้าอาจเป็นทายาทคนสุดท้ายของเผ่าไท่ซ่างแล้ว”

ราชาเซียนนี่ล่วนถอนหายใจอย่างช้า ๆ “เจ้ารู้หรือไม่ว่า ประวัติความเป็นมาของจักรวาลฟ้าดินแห่งนี่เก่าแก่มาก ยุคบรรพกาลไม่ใช่ยุคที่เก่าแก่ที่สุด ยังมียุคสมัยที่เก่าแก่กว่ายุคบรรพกาลอยู่อีก?”

ทันทีทันใด ราชาเซียนนี่ล่วนก็ได้กล่าวเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมา

“ยุคสมัยที่เก่าแก่กว่ายุคบรรพกาล?”

หลัวซิวชะงักเล็กน้อย แอบกว่าอยู่ในใจ เหมือนว่าราชาเซียนนี่ล้วนผู้นี้จะรู้อะไรหลายอย่าง

“ผู้อาวุโสหมายถึงยุคโบราณกัลปาวสานหรือไม่?” หลัวซิวถามหยั่งเชิง

“เจ้ารู้ยุคโบราณกัลปาวสานด้วยหรือ?”

ราชาเซียนนี่ล่วนชะงักเล็กน้อย มองหลัวซิวด้วยความประหลาดใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“ข้าได้ยินผู้อาวุโสท่านหนึ่งในโลกเซียนกล่าวมา” หลัวซิวกล่าว

“สามารถรู้ถึงการดำรงอยู่ของยุคโบราณกัลปาวสาน เห็นได้ว่าผู้อาวุโสที่เจ้ากล่าวถึงก็ไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งธรรมดาทั่วไป”

ราชาเซียนนี่ล่วนถอนหายใจเบา ๆ ส่ายศีรษะกล่าว: “แต่ว่าก่อนยุคบรรพกาล ความจริงแล้วไม่ใช่ยุคโบราณกัลปาวสาน ยุคโบราณกัลปาวสานมีความเก่าแก่ยิ่งกว่านั้นอีก......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ