มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 325

ไม่นานนัก หุ่นเชิดตัวนี้บินออกจากช่องสีเทาอีกครั้งโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ที่ทางเข้าแห่งนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร การบีบอัดของช่องว่างนั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมากนัก ผลการฝึกตนอยู่ในระดับฝึกตนขึ้นเจ็ดขึ้นไป น่าจะสามารถต้านทานไว้ได้” อาจารย์เหว้ยห้าวหรานเอ่ยกับจักรพรรดิยุทธ์คนอื่น ๆ

จักรพรรดิยุทธ์ไม่น้อยมองไปที่หุ่นเชิดสีทองที่ยืนอยู่ข้างกายอาจารย์เหว้ยห้าวหราน ต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะนี่คือหุ่นเชิดระดับจักรพรรดิยุทธ์ รวมเข้ากับปรมาจารย์ที่แต่เดิมก็มีผลการฝึกตนจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสาม อีกทั้งวิธีที่นักค่ายกลใช้สร้างค่ายกลนั้น คือพลังการต่อสู้ที่แท้จริง ต่อให้เทียบกับจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย

แม้จะปล่อยให้เขาจัดการสร้างค่ายกลล่วงหน้า ต่อให้เป็นจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ก็อาจจะพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือเขาได้เช่นกัน

พื้นที่แห่งนี้ได้ชื่อว่าโลกแสงดาว

ว่ากันว่า ณ ใจกลางโลกนี้ มีทะเลดาวลอยอยู่บนท้องฟ้าสูง จึงได้ชื่อว่าโลกแสงดาว

โลกแสงดาวนั้นใหญ่มาก กว้างใหญ่เพียงไร แต่น้อยคนนักที่จะรู้ สิ่วเดียวที่หลัวซิวรู้ ก็คือสถานที่ที่ประเทศเทียนหวูตั้งอยู่นั้น มันเป็นเพียงแค่ส่วนที่เล็กมาก ๆ ของโลกแสงดาวเท่านั้น

สี่องค์กรใหญ่ที่นำโดยองค์กรนักล่ายุทธ์ มีอิทธิพลสำคัญทั่วทั้งโลกแสงดาวดังนั้น ทุกคนที่สามารถครอบครองสถานที่ในสี่องค์กรใหญ่ ได้นั้นไม่ใช่บุคคลธรรมดา

เช่นจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง เหว้ยห้าวหรานบุคคลประเภทนี้ที่ดูแลสิทธิการพูดขององค์กรในบางพื้นที่ ต่อให้มีมกุฏยุทธ์อาจารย์คอยคุมบังเหียนอย่างมหาอำนาจหลักทั้งสาม ก็จะไม่สามารถจะไปล้ำเส้นพวกเขาสุ่มสี่สุ่มห้าได้

ดังนั้น ในบรรดาจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่ง ไม่ใช่เจ้าตำหนักจื่อ เจ้าสำนักเสวียนหยางและเจ้าสำนักฉางเหอเป็นผู้นำ แต่เป็นจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง เหว้ยห้าวหราน ฝานไท่เต๋อและหงหมิง หัวหน้าแก๊งทั้งสี่คนเป็นผู้นำ

ในบรรดาสี่คนนี้ บารมีและพลังของจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงถือเป็นที่สุด

จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนรวมมือกันเปิดทางเข้า ต่างก็สิ้นเปลืองผลการฝึกตนไปไม่น้อย ไม่มีใครรีบเข้าไปในช่องว่างนั้นเพื่อสำรวจก่อน แต่พวกเขาทั้งหมดกลับเลือกพื้นที่ที่จะนั่งขัดสมาธิเพื่อฟื้นฟูผลการฝึกตน

เพราะว่าเป็นถ้ำโบราณที่ถูกทิ้งไว้มาแต่นานกาล ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอันตรายอะไรอยู่ในนั้น จำเป็นต้องระมัดระวังและรักษาความแข็งแกร่งเอาไว้ที่จุดสูงสุด

จักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งหลายคนยาวิเศษระดับหกออกมาจากแหวนเก็บของเพื่อที่จะฟื้นฟูพลังจิตแท้ด้วยสีหน้าเบ้เบี้ยว ในเวลาปกติ พวกเขาไม่เต็มใจที่จะใช้ยาวิเศษระดับหกอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่นอน

แต่ ณ เวลานี้ เมื่อเทียบกับการสูญเสียยาวิเศษหนึ่งเม็ด สิ่งสำคัญคือต้องฟื้นฟูผลการฝึกตนให้อยู่ในสถานะสูงสุดโดยเร็วที่สุด จากนั้นเข้าไปในซากปรักหักพังโบราณเพื่อสำรวจ

ท่ามกลางบรรดาจักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทุกคน ก็มีหัวหน้าองค์กรเพียงทั้งสี่คนและยังมีเหยียนเยว่เอ๋อร์เท่านั้นที่กินยาวิเศษระดับหกได้ โดยไม่มีการลังเล

หัวหน้าแห่งสี่องค์กรใหญ่ เป็นเพราะพื้นฐานครอบครัวที่มั่งคั่ง สำหรับการใช้ยาระดับหกแน่นอนว่าไม่ได้เดือดร้อนอะไร โดยเฉพาะเสด็จอาฝานไท่เต๋อแห่งตระกูลฝาน ด้วยตนเองนั้นเป็นปรมาจารย์กลั่นยาขั้นหกอยู่แล้ว ยิ่งไม่สนใจที่จะต้องเสียยาระดับหกไปเพียงหนึ่งเม็ด

แต่เหยียนเยว่เอ๋อร์ เหตุที่นางไม่ได้สนใจการใช้ยาระดับหก นั่นก็เป็นเพราะว่าหลัวซิวก่อนที่จะมาสำรวจซากปรักหักพังโบราณนี้ เขาได้กลั่นยามากมายไว้ให้นางล่วงหน้าแล้ว

ในเวลาเดียวกันที่กำลังฟื้นฟูผลการฝึกตน จักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทุกคนก็เริ่มที่จะหาลือเรื่องที่จะเข้าไปในถ้ำโบราณ

เนื่องจากทางเข้านั้นถูกบังคับให้เปิด ทุกคนมีส่วนร่วม ดังนั้นผู้คนจากทุกฝ่ายจึงสามารถเข้าไปสำรวจได้

ตามที่ก่อนหน้านี้อาจารย์เหว้ยห้าวหราน ใช้หุ่นเชิดเข้าไปสำรวจสถานการณ์ ทางเข้าที่เต็มไปด้วยพลังบีบอัดแห่งอวกาศ จำเป็นต้องใช้ผลการฝึกตนบรรลุถึงฝึกจิตขั้นเจ็ดขึ้นไป เพื่อให้ผ่านได้อย่างปลอดภัย ถ้าแรงไม่พอ จะถูกบดขยี้ด้วยพลังแห่งอวกาศที่บิดเบี้ยว

สำหรับให้คนที่ต่ำกว่าระดับจักรพรรดิยุทธ์เข้าไปนั้น จักรพรรดิยุทธ์ทุกคนไม่ได้มีความเห็นอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร สมบัติล้ำค่าที่แท้จริงจะตกไปอยู่ในมือของผู้แข็งแกร่งอย่างดี

ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา จักรพรรดิยุทธ์ผู้แข็งแกร่งทุกคนทั้งหมดกลับสู่สภาพที่แข็งแกร่งที่สุด และค่อย ๆ ยืนขึ้นทีละคน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ