มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 326

ในความเป็นจริงที่นางติดตามหลัวซิว ลูกแก้วดำเป็นเพียงเหตุผลเล็ก ๆ เหตุผลหนึ่งเท่านั้น ที่สำคัญคือ นางกังวลว่าหลัวซิวจะพบเจอกับอันตรายที่นี่ หากมีนางที่เป็นถึงจักรพรรดิยุทธ์อยู่เคียงข้าง ก็จะมั่นใจในความปลอดภัยยิ่งขึ้น

หลัวซิวเข้าใจความกังวลของนางเป็นอย่างดี เขายิ้มและจับมือเรียวงามที่ซีดขาวของนางไว้ “เราแค่ต้องเดินไปในทิศทางที่ลูกแก้วดำสัมผัสได้ก็พอแล้ว”

เหยียนเยว่เอ๋อร์ยิ้มแหละพยักหน้า ทั้งสองจับมือกันและเดินไปข้างหน้า

เพราะคีตโลกาแห่งนี้ คือสถานที่ที่ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์สร้างขึ้นมา ดังนั้นจึงมีข้อห้ามพิเศษบางประการคงอยู่

หนึ่งในข้อห้าม คือไม่สามารถบินบนท้องฟ้าที่นี่ได้ อย่างที่สองคือท่ามกลางคีตโลกา ไม่มีพลังฟ้าดินจิตแม้สักเสี้ยวเดียว

นอกจากนี้ยังหมายถึง ถ้าพลังจิตแท้ถูกใช้ที่นี่ ไม่สามารถฟื้นฟูได้โดยการดูดซับพลังฟ้าดิน หินพลังจิตและยาวิเศษที่ใช้ฟื้นฟูพลังจิตแท้ ในที่แห่งนี้นั้นมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ทุ่งหญ้านี้ไม่มีที่สิ้นสุดและหญ้าก็สูงมาก ยาวเกือบสองเมตรเหมือนป่า เมื่อเจ้าไม่สามารถบินได้ มันง่ายที่จะหลงทางและไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน

โชคดีที่การที่มีลูกแก้วดำคอยชี้นำทาง หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น

พืชพรรณในหญ้านั้นเขียวชอุ่มและแข็งแกร่ง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฟันด้วยดาบเพื่อตัดมันออก

ในโลกนี้ที่ไม่มีพลังฟ้าดินจิตแม้แต่น้อย พืชพันธ์ที่ได้รับการกลายพันธ์เช่นนี้ มีความแตกต่างที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

“ปัง!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงกระทบกันจากกอหญ้าทางซ้ายมือ ตัวสำนึกของหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์กวาดไปทางนั้นในเวลาเดียวกัน สัมผัสได้ถึงเงาดำที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและพุ่งตรงไปที่เหยียนเยว่เอ๋อร์

เหยียนเยว่เอ๋อร์ส่งเสียงหึอย่างเย็นชา เปลวเพลิงหอกรบปรากฏขึ้นในมือ หอกแทงแหวกอากาศออกไป เกิดเสียงดังพับขึ้น จากนั้นก็เจาะเข้ากับหัวของอสูรเสือที่มีขนสีดำแข็งทั่วตัว

อสูรกายเสือดำตัวนี้ส่งเสียงครวญคราง ทันใดนั้นมันก็ล้มลงกับพื้นและตายในทันที

“ที่นี่ยังมีอสูรกายอยู่หรือ?”

หลัวซิวเดินขึ้นไปข้างหน้า พบว่ามีร่างของอสูรเสือตัวหนึ่งที่มีร่างกายแข็งแกร่ง ร่างยุทธ์สูงสุดที่งดงามมาก แต่ไม่มีการผันผวนของพลังจิตในการลอบโจมตี

อสูรกายเหมือนกับมนุษย์ อาศัยการหมุนเวียนของพลังฟ้าดินจิตเพื่อฝึกตน เมื่อบรรลุถึงขั้นสี่จะสามารถหลอมรวมให้เป็นพลังจิตแท้ได้

แต่สำหรับในคีตโลกาแห่งนี้ไม่เหมือนกัน มันไม่มีพลังฟ้าดินจิตอยู่แม้แต่น้อย อสูรกายที่อาศัยอยู่ที่นี่ไม่มีทางที่จะฝึกตนได้เลย

สำหรับสถานที่ที่มีปัจจัยสิ่งแวดล้อมแบบพิเศษเช่นนี้ อสูรกายที่มีชีวิตอยู่ในที่แห่งนี้ ทุกตัวต่างก็มีร่างเนื้อที่แข็งแกร่ง ไม่ต่างอะไรกับนักยุทธ์ที่ยังมีชีวิตอยู่

ไม่มีคลื่นพลังจิต อสูรกายที่ซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าก็ยากที่จะถูกพบได้ นอกเสียจากว่าจะแพร่ตัวสำนึกไว้ตลอดเวลา เพื่อจับตาดูการเคลทื่อนไหวของทั้งสี่ทิศ แต่หากเป็นเช่นนั้น ตัวสำนึกก็จะถูกลดทอนลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้าจะรู้สึกอ่อนล้าอย่างรุนแรง

เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็คิดได้เช่นนี้ เมื่อตัวสำนึกกำลังจะแพร่กระจายออกไปในนาทีนั้น เพื่อป้องกันการลอบโจมตี

“หากแพร่ตัวสำนึกอยู่ตลอดเช่นนี้มันสิ้นเปลืองเกินไป ให้ข้าจัดการเถอะ” หลัวซิวดึงมือของนางพลางเอ่ยปากบอก

“ผลการฝึกตนของข้าสูงกว่าเจ้าอยู่บ้าง ยังไงก็ให้ข้าจัดการแล้วกัน” เหยียนเยว่เอ๋อร์พูดพลางส่งยิ้มหวาน แม้ว่าจะเป็นเพียงการใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยก็ตาม แต่ในใจของนางกลับเต็มไปด้วยความอบอุ่น

สำหรับผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนนี้ นางยินยอมที่จะทำทุก ๆ อย่างเพื่อเขาอยู่แล้ว กับแค่การสิ้นเปลืองพลังเล็กน้อยมันเทียบอะไรไม่ได้เลย

หลัวซิวยิ้มและบีบแก้มของนางเบา ๆ “ในความจริงข้าไม่จำเป็นต้องแพร่ตัวสำนึกออกมา ก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของอสูรกายที่หลบซ่อนอยู่”

ได้ยินเช่นนั้น เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็มุ่ยปากทันที “คำพูดเช่นนี้ เจ้าไปหลอกเด็กสาวคนอื่นน่ะถึงจะได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ