"งานประลองยุทธ์ในทุกปีจะมีการจัดอันดับ ได้ยินว่ามีแค่คนที่ได้สามอันดับแรกเท่านั้น ถึงจะได้รางวัลมากมาย" ชายหนุ่มในชุดนักรบพูดขึ้น
"เวลานี้เฮียจ้าวเหลี้ยงบรรลุการกลั่นร่างขั้น7แล้ว ไม่รู้ว่าจะเข้าร่วมงานประลองยุทธ์หรือไม่?" มีคนยิ้มแล้วเอ่ยถาม
"แน่นอนว่าต้องเข้าร่วม ถึงแม้จะบอกว่าความหวังที่จะได้สามอันดับแรกมีไม่มาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องแสดงพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของตนออกมาบนเวทีประลองยุทธ์ ซึ่งสามารถได้รับการสนใจจากคนระดับสูงของสำนักยุทธ์ !” ชายหนุ่มพูดด้วยความทระนง
หลัวซิวมองไปตามเสียง เห็นชายหนุ่มในชุดนักรบ ซึ่งคือนักเรียนชั้นกลางที่ในตอนนั้นเดิมพันกับเขาที่เขตศิลดาดำ จ้าวเหลี้ยง
ตอนเดิมพัน ผลการฝึกตนของจ้าวเหลี้ยงคือการกลั่นร่างขั้น6ผลการฝึกตน เวลานี้บรรลุการกลั่นร่างขั้น7
"ยอดฝีมือชั้นกลางและชั้นสูงมีไม่น้อย ได้ยินว่าขอเพียงอยู่สิบอันดับแรก ก็จะได้รับหินพลังจิตและยาเป็นของรางวัล!”
"ได้ห้าอันดับแรก ก็จะได้เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสในสำนักยุทธ์!”
"ฮ่าๆ ถ้าหากได้สามอันดับแรก ได้ยินว่าจะได้รับคำชี้แนะจากเจ้าสำนักยุทธ์ มีสิทธิ์เลือกวิชายุทธ์ระดับ4หนึ่งวิชา!”
คนจำนวนไม่น้อยต่างพูดคุยกัน ถึงรางวัลต่างๆ ในเมืองชิงหยุนให้ความสำคัญกับตำแหน่งและอำนาจ ถ้าหากได้เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโส ถือเป็นสัญลักษณ์ทางตำแหน่งอย่างหนึ่ง
เจ้าสำนักยุทธ์ สำหรับนักเรียนมากมายในสำนักยุทธ์แล้ว ถือเป็นตำนาน คือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองชิงหยุน ว่ากันว่าเหนือกว่าจอมยุทธ์พรสวรรค์!
โดยเฉพาะของรางวัลวิชายุทธ์ระดับ4 ยิ่งทำให้คนตื่นเต้น
ทว่าทุกคนต่างรู้ดี อยากจะขึ้นเป็นสามอันดับแรกในงานประลองยุทธ์คือเรื่องที่ยากมาก เพราะว่างานประลองยุทธ์จัดขึ้นปีละหนึ่งครั้ง คนที่ในเคยเข้าร่วมงานประลองยุทธ์เมื่อปีก่อนๆซึ่งได้อันดับที่ดี อาศัยของรางวัลที่ได้ ทำให้ความแข็งแกร่งของผลการฝึกตนพุ่งทะยาน เหนือชั้นกว่าคนอื่นมาก
แต่ว่าถ้าหากผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนฝึกชี่ไห่ หรือว่าอายุเกิดสิบแปดปีแล้ว ก็จะไม่สามารถเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ได้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้น่าประลองแล้ว
คนในเมืองชิงหยุนมีนับแสนคน นักเรียนในสำนักยุทธ์มีจำนวนมากมาย แค่ผลการฝึกตนบรรลุการกลั่นร่างขั้น7ขึ้นไป ก็มีนับร้อยคนแล้ว
ข้างๆที่รับสมัคร มีศิลาตั้งตรงหนึ่งก้อน ด้านบนตั้งแต่ด้านล่างถึงด้านบน มีชื่อของนักเรียนในสำนักยุทธ์
ศิลาก้อนนี้ คือศิลาบอกอันดับสำนักยุทธ์แห่งเมืองชิงหยุน
ด้านบนศิลาบอกอันดับมีชื่อแค่ห้าสิบคน ต่ำสุดคือการกลั่นร่างขั้น8 คนมากมายรวมตัวกันที่ข้างๆศิลาบอกอันดับ
หลัวซิวเองก็มองไป เห็นชื่อบนศิลาบอกอันดับชื่อของอันดับแรกคือ คนชื่อแซ่สวี่วี่!
ได้ยินคนที่อยู่รอบๆพูดคุยกัน แซ่สวี่ปีนี้อายุสิบแปดปี เป็นลูกศิษย์ของผู้อาวุโสที่เฝ้าหอไตร ผลการฝึกตนบรรลุการกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูง กำลังภายใน ทักษะยุทธ์ วิชาท่าร่างล้วนเป็นวิชายุทธ์ระดับ3ของการฝึกตน
จากนั้นตั้งแต่อันดับสอง ถึงอันดับสิบ ล้วนอายุสิบแปด ผลการฝึกตนก็เป็นการกลั่นร่างขั้น9กันหมดทุกคน
ในสำนักยุทธ์ อายุสิบแปดคือเกณฑ์พื้นฐาน อายุมากเกินสิบแปดก็จะไม่ใช่นักเรียนในสำนักยุทธ์แล้ว สำนักยุทธ์ก็จะไม่อบรมเลี้ยงดูอีกแล้ว คนที่มีพรสวรรค์จำนวนน้อย ที่ผลการฝึกตนบรรลุแดนฝึกชี่ไห่ สามารถกลายเป็นลูกศิษย์นอกสำนักของสำนักเซียวเหยา ซึ่งคือลูกศิษย์นอกสำคัญเกณฑ์ที่ต่ำที่สุด
ส่วนหลัวซิว แทบไม่มีใครรู้เลยว่าผลการฝึกตนของเขาบรรลุการกลั่นร่างขั้น9ขั้นสูงแล้ว ดังนั้นบนศิลาบอกอันดับจึงไม่มีชื่อของเขา
"ยังมีเวลาอีกหนึ่งเดือน”
เวลาผ่านไปเหมือนกระแสน้ำ ในป่าที่อุดมสมบูรณื ร่างกายของหลัวซิวเคลื่อนไปมา เขาใช้วิชากระบี่ฟ้าแลบครบกระบวนท่าหนึ่งชุด ซึ่งก็คือเปลวไฟบริสุทธิ์ เคลื่อนไหวดุจน้ำ แสงกระบี่ทำลายอากาศ แทบจะไม่สามารถมองเห็นร่องรอยของกระบี่ด้วยตาเปล่า
"พึ่บ!”
ด้วยการสนับสนุนของปราณใน ต้นไม้ใหญ่ถูกเขาฟันจนล้ม ทำให้เกิดฝุ่นตลบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...
ตอนใหม่ยังไม่ลงเลยครับ...