มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 41

“ตระกูลจางจะขาดผู้นำไม่ได้แม้แต่วันเดียว ก่อนที่ลูกพี่จะกลับมา ผมก็จะขอรับตำแหน่งรักษาการเจ้าสำนักแทนไปก่อนแล้วกัน!” พอนั่งลงไปบนเก้าอี้เจ้าสำนัก มุมปากของจางช่าวไห่ก็เผยรอยยิ้มเย็นๆ ออกมา เขารอวันนี้มานานแล้ว!

“ถ้านายท่านออกไปช่วยลูกพี่ ตำแหน่งเจ้าสำนักนี้ก็คงไม่ใช่ของผม ขอเพียงเขาตาย ตำแหน่งเจ้าสำนักนี้ถึงจะเป็นของผมอย่างแท้จริง!”

เขาเรียกลูกน้องคนสนิทของตนเองมา แล้วสั่งการไปว่า “เอ็งพาพวกไปที่หมู่บ้านผานฉือ ไปจับตัวคนบ้านหลัวซิวมา”

……

ในที่สุด งานประลองยุทธ์ประจำปีในสำนักหวูแห่งเมืองชิงหยุนที่ทุกคนรอคอย ก็กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ในสนามแข่งขัน ที่นั่งบริเวณรอบๆ เวทีประลอง มีนักเรียนเกือบทั้งสำนักยุทธ์มารวมตัวกันที่นี่ ห่างจากเวทีประลองไม่ไกลนัก สร้างเป็นห้องใต้หลังคาชมการแข่งขัน ด้านบนมีที่นั่ง เป็นที่นั่งของผู้นำระดับสูงของสำนักยุทธ์ เพื่อนั่งชมงานประลองยุทธ์

พอเวลาผ่านไป คนก็เริ่มเข้ามามากขึ้น ในตำแหน่งที่นั่งบนห้องใต้หลังคา นอกจากผู้อาวุโสที่คอยดูแลหอเก็บหนังสือคนนั้นแล้ว ก็มีผู้อาวุโสทั้ง4 รวมทั้งผู้อาวุโสจวงนั่งอยู่กันหมด

“เจ้าสำนักมาแล้ว!”

พอมีคนส่งเสียงเฮ ทุกคนก็หันหน้าไปมอง เห็นเป็นคนใส่ชุดสีม่วง เดินบนอากาศ กระโดดขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตำแหน่งกลาง

“เหาะเหินเดินอาการ นี่มันเป็นกระบวนท่าในตำนาน!”

“ได้ยนิมาว่าพลังฝีมือของเจ้าสำนักยุทธ์เก่งกว่ากว่ารุ่นก่อนมาก สมกับเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองชิงหยุน”

หลัวซิวก็อยู่ในกลุ่มผู้ชมด้านล่าง พลังฝีมือที่เจ้าสำนักยุทธ์เผยออกมา ก็ทำให้เขาตกไม่น้อยเหมือนกัน

เหาะเหินเดินอากาศ ตัวเราเองจะมีพลังแบบนั้นตอนไหนกันนะ?

“เงียบหน่อย!”

ทันใดนั้น ผู้อาวุโสจวงหนานเทียนที่อยู่บนห้องใต้หลังคาก็ลุกขึ้น แล้วพูดอย่างเสียงดังว่า “ได้เวลาแล้ว!”

“ตามกฏกติกาของงานประลองยุทธ์ จะจับสลากขึ้นมาเพื่อต่อสู้ตัวต่อตัวแล้วคัดเลือกผู้ชนะ คนที่จับสลากได้หมายเลขเดียว ให้ขึ้นมาบนเวทีประลอง ระหว่างการประลอง ไม่จำกัดอะไรทั้งสิ้น จนกว่าฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะยอมแพ้ หรือตกจากเวทีประลอง”

“ระหว่างการประลอง อาวุธนั้นไร้ตา แต่จะฆ่ากันไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะถูกตัดสินการแข่งขัน แล้วไล่ออกจากสำนักยุทธ์ พร้อมกับจับขังคุก10ปี!”

พอผู้อาวุโสจวงกล่าวกฎกติกาการแข่งขัน ก็มีกล่องไม้ขึ้นมาวางไว้บนเวทีประลอง เพื่อให้นักเรียนที่เข้าการแข่งขันทุกคน ขึ้นมาจับสลาก

หลัวซิวเอามือล้วงเข้าไปในกล่องไม้ แล้วได้กระดาษกลมขึ้นมาหนึ่งลูก พอคลี่ออก ด้านในนั้นเขียนไว้ว่าเลข98

เวทีประลองยุทธ์มีทั้งหมด10 เวที คนที่จับได้หมายเลข1-10 ก็จะขึ้นไปบนเวทีก่อน

คนที่ชนะก็จะได้เข้าไปในรอบที่สอง

คนที่ลงสมัครแข่งขัน มีทั้งหมด300กว่าคน หมายความว่า ในรอบแรก จะต้องคัดทิ้งผู้แข่งขันไป100กว่าคน!

และในระหว่างนั้น ทุกคนก็ไม่รู้ว่าคู่ต่อสู้ของตนเองคือใคร

“เริ่มประลองยุทธ์ได้!”

พอผู้อาวุโสประกาศ ก็มีเงาคนกระโดดขึ้นมาตามกัน แล้วหยุดลงบนเวทีประลองยุทธ์

การประลองยุทธ์ของสำนักยุทธ์นั้น ใช้วิธีจับสลากเลือกคู่ต่อสู้ ก็ต้องอาศัยดวงกันบ้าง

บางคู่ฝีมือไม่ต่างกันมาก สู้กันไปมาบนเวทีประลอง หอกดาบแทงกันไปมา เสียงเฮลั่นสนาม

บางคู่ฝีมือต่างกันมาก กระบวนท่าเดียวก็ตัดสินแพ้ชนะแล้ว มีหนุ่มคนหนึ่งชื่อฮู๋กัง ดาบในมือยังไม่ทันได้ออกจากฝัก แค่ฝ่ามือเดียวก็ซัดคู่ต่อสู้ร่วงเวทีไป

คนที่กล้ามาสมัครการประลองยุทธ์ อย่างน้อยก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกการกลั่นร่างขั้น7กันทั้งนั้น พรสวรรค์เป็นเลิศ ฝึกวิชายุทธ์ระดับ3 พลังฝีมือก็จะเก่งกาจกว่านักเรียนในสำนักยุทธ์มากนัก

ด้านล่างเวทีส่งเสียงดัง นักเรียนในสำนักยุทธ์ไม่น้อยตะโกนกันยกใหญ่ เพื่อส่งกำลังใจให้กับคนที่ตนเองชื่นชอบ

รอบคัดเลือกในรอบแรกผ่านไปเร็วมาก ไม่นาน ก็ถึงคิวของหลัวซิวที่ต้องขึ้นเวทีแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ