มู่จื่อซิวมาโดยบังคับเรือรบ หนิงเหอโจวยืนตระหง่านอยู่บนดาดฟ้าเรืออย่างภาคภูมิใจ ในมือถือศีรษะที่เต็มไปด้วยคราบเลือด มันคือศีรษะของอาจารย์ตำหนักจื่อ ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง ราวกับคนตายตาไม่หลับ
อีกด้านหนึ่ง เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็เหาะเหินอยู่บนท้องฟ้าเช่นกัน บนร่างกายมีคราบเลือดติดอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องคิดก็รู้ ศัตรูอาฆาตแค้นถาวหยุนเชียนที่เป็นคนสังหารพ่อแม่และญาติของนาง ต้องตายด้วยมือของนางแล้วแน่นอน
ความคับแค้นที่ถูกอัดอั้นไว้ในส่วนลึกของหัวใจมานานสามร้อยปี ในที่สุดก็มีโอกาสสังหารศัตรูด้วยมือของตนเอง แต่จิตใจของนางกลับยังคงไม่รู้สึกสงบ
“ไอ้หนุ่ม ภารกิจเสร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง”
หนิงเหอโจวยกแขนขึ้นเหวี่ยงออกไป โยนศีรษะของอาจารย์ตำหนักจื่อลงบนพื้น ศีรษะกลิ้งออกไปไกลหลายสิบเมตร
ภารกิจจ้างวานที่หลัวซิวประกาศคือสังหารอาจารย์ตำหนักจื่อและอาจารย์เสวียนหยาง ปัจจุบันอาจารย์ตำหนักจื่อถึงฆาตแล้ว เหลือเพียงอาจารย์เสวียนหยาง
ส่วนแหวนเก็บของและสมบัติที่อยู่บนตัวของอาจารย์ตำหนักจื่อ ย่อมถูกมู่จื่อซิวและหนิงเหอโจวที่เป็นมกุฏยุทธ์ทั้งสองคนแบ่งกันเรียบร้อยแล้ว
นอกเหนือจากนี้ยังมีคลังสมบัติของตำหนักจื่อ ตำหนักจื่อมีรากฐานยาวนานมากกว่าสองพันปี ก็ถือว่าเป็นโชคลาภก้อนโตเช่นกัน
ผ่านไปสักพัก หลัวซิวสามารถคลายวิชาห้ามค่ายกลที่อยู่ใกล้กับหอคอยฝึกตนแห่งหนึ่ง ด้านล่างของหอคอยฝึกตนแห่งนี้มีทั้งหมดเจ็ดชั้น มีทรัพยากรสำหรับการฝึกตนจำนวนมาก หินพลังจิตถูกกองเป็นภูเขา จำนวนมีมากกว่าล้านหรือสิบล้าน
ยาวิเศษก็มีมากมายเช่นกัน ระดับต่ำสุดก็เป็นถึงยาทิพย์ระดับห้า ยิ่งไปกว่านั้นยังมียาทิพย์ระดับเจ็ดไม่น้อย
และยังมีนักยุทธ์ ชุดเกราะ ยาเม็ดและอย่างอื่นอีกมากมาย
สามชั้นบนสุดเก็บม้วนหยกวรยุทธ์ไว้จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีวิชายุทธ์ระดับเก้า และเคล็ดวิชาของดาวจักรพรรดิจรัสม่วง
และยังมีเคล็ดวิชาปราณสีม่วงระดับเก้าหนึ่งเล่ม
ทรัพยากรสมบัติในคลังสมบัติของตำหนักจื่อถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน มูจื่อซิวและหนิงเหอโจวแบ่งกันคนละส่วน ส่วนหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์ได้รับหนึ่งส่วน
เคล็ดวิชาปราณสีม่วงและดาวจักรพรรดิจรัสม่วงก็ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนเช่นกัน
“คิดไม่ถึง เป็นแค่สำนักที่มีมกุฏยุทธ์ขั้นสามเพียงคนเดียวเป็นผู้ดูแล แต่ภายในคลังสมบัติกลับมีของล้ำค่ามากมายเช่นนี้”
หลังจากที่คนทั้งสี่แบ่งสมบัติที่อยู่ภายในคลังเรียบร้อย แต่ละคนรู้สึกอารมณ์ดีมาก มูจื่อซิวและเหอหนิงวโจวได้รับผลเก็บเกี่ยวมากมาย
รวมไปถึงเรือรบสามลำของตำหนักจื่อ สามในสองลำเป็นเรือรบธรรมดา มีเพียงเรือรบของอาจารย์ตำหนักจื่อ ในบรรดาเรือรบระดับล่างถือเป็นของชั้นสูง
มู่จื่อซิวมีเรือรบที่ดีกว่านี้ ดังนั้นเรือรบของอาจารย์ตำหนักจื่อจึงถูกหนิงเหอโจวรับไป ส่วนเรือรบอีกสองลำที่เหลือตกอยู่ในมือของหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์
หลังออกจากแดนตำหนักจื่อ หลัวซิวใช้พลังตราประทับปิดผนึกทางเข้าแดนตำหนักจื่อ
หากไม่ใช่ของที่เขาสร้างเองกับมือ ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งมกุฏยุทธ์ก็ไม่สามารถเปิดทางเข้าของแดนตำหนักจื่อ
โดยทั่วไป สำนักที่สามารถสืบทอดต่อกันมายาวนานนับพันปี ล้วนแต่มีค่ายกลพิทักษ์เขา ค่ายกลแบบนี้ มีอานุภาพที่แข็งแกร่งกว่าค่ายกลทั่วไปในระดับเดียวกันมาก
แต่ตำหนักจื่อกลับไม่มีค่ายกลประเภทนี้ เหตุผลหลักคือแกนกลางของตำหนักจื่อตั้งอยู่ในแดนปริศนา เมื่อไหร่ที่ทางเข้าแดนถูกปิดผนึก ศัตรูภายนอกไม่สามารถจู่โจม จึงไม่จำเป็นต้องมีค่ายกลพิทักษ์เขา
ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างค่ายกลพิทักษ์เขาจำเป็นต้องเผาผลาญทรัพยากรจำนวนมาก ต้องเชิญปรมาจารย์ค่ายกลขั้นสูงลงมือ ค่าตอบแทนไม่ได้แค่สูงธรรมดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มาต่อๆ...
มีต่อไหมครับรออยู่นะครับ...
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...