มหายุทธ์ สะท้านภพ นิยาย บท 427

โดยเฉพาะมู่จื่อซิว เขากำลังสงสัยว่าหลัวซิวคือคิงซิวหลัว เดิมทีเขาวางแผนว่าจะหาโอกาสลงมือจัดการเขา เพื่อแย่งชิ้นส่วนกฎที่อยู่ในตัวเขา

แต่แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คิงซิวหลัว แต่ด้วยอายุของเขาที่น้อยนิดแต่มีพลังอันแข็งแกร่ง แสดงว่าเขาจะต้องมีความลับเด็ดอยู่ในตัวแน่นอน

แต่เขาคิดไม่ถึงว่าความลับของเด็กหนุ่มคนนี้คือการที่มีปรมาจารย์นักกลั่นยาเป็นอาจารย์ของตนเอง

แม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์ขั้นต่ำที่สุดอย่างปรมาจารย์นักกลั่นยาระดับ 7 แต่ฐานะในโลกแสงดาวกลับเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหายุทธ์คนหนึ่ง หากเป็นระดับ 8 ถึงระดับ 9 นั่นจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก

การที่หลัวซิวแจ้งข้อมูลนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเขาต้องการให้มู่จื่อซิวลองทบทวนดูว่าจะยังลงมือกับเขาจริงๆ หรือไม่ เพราะหากลงมือทำอะไรขึ้นมา นั่นจะเท่ากับมีเรื่องกับปรมาจารย์นักกลั่นยาเพิ่มอีกคนหนึ่งด้วย

“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กหนุ่มอย่างเจ้าจะมีฐานะระดับเช่นนี้ วันข้างหน้าหากข้าต้องการยาขั้น 7 ข้าคงต้องขอให้หนุ่มน้อยอย่างเจ้าช่วยแนะนำบ้างแล้ว” หนิงเหอโจวกล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

“พูดได้ดี พูดได้ดี แม้ว่าท่านอาจารย์จะซ่อนตัวไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกมานานหลายปีแล้ว แต่สำหรับลูกศิษย์คนโปรดอย่างผม เพียงเอ่ยปาก ท่านอาจารย์จะต้องยอมช่วยเหลืออย่างแน่นอน” หลัวซิวยิ้ม

“สหายหลัวซิว วันข้างหน้าพวกเราคงมีโอกาสเจอกันอีก” หนิงเหอโจวอารมณ์สดชื่นมาก จากนั้นจึงมอบช่องทางการติดต่อตนเองให้กับเขาแล้วโบกมือ ก่อนจะลอยไปยังฟ้าและหายตัวไปในลำแสงอันไกลลิบ

“ข้าเองก็ต้องขอตัวลาเช่นกัน หากวันหน้าสหายมีเรื่องอยากให้ช่วยเหลือ ก็บอกข้าได้เลย”

มู่จื่อซิวก็ยิ้มออกมาเช่นกัน ตอนนี้เขาได้ล้มเลิกความคิดที่จะทำร้ายหลัวซิวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะผลที่จะเกิดขึ้นจากการเป็นศัตรูกับปรมาจารย์นักกลั่นยาเป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าที่จะแลก เพราะตัวเขาก็ได้แค่สงสัยว่าหลัวซิวจะเป็นคิงซิวหลัว แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด

อีกอย่างหากเขาสามารถคบหากับหลัวซิวเอาไว้ได้ ก็เท่ากับเขามีความสัมพันธ์อันดีกับปรมาจารย์นักกลั่นยาอีกคนหนึ่งด้วย วันข้างหน้าหากต้องการกลั่นยาขั้น 7 ก็สามารถที่จะมาพึ่งพาเขาได้

อันที่จริงแล้วการที่หลัวซิวกล่าวอ้างว่าเบื้องหลังตนเองมีอาจารย์ปริศนาอยู่นั้นก็เป็นเพราะว่าเขาต้องการที่จะปกป้องตัวเอง

การลงมือจัดการตำหนักจื่อกับสำนักเสวียนหยางคราวนี้ เขาต้องเปิดเผยความลับหลายอย่างของตัวเอง ขอแค่ไม่ใช่คนโง่ก็พอที่จะเดาได้ว่าในตัวเขามีความลับบางอย่างซ่อนอยู่

แม้ว่ามู่จื่อซิวกับหนิงเหอโจวจะเป็นผู้แข็งแกร่งขององค์กรนักล่ายุทธ์ โดยปกติแล้วจะมีความน่าเชื่อถือการันตีอยู่แล้ว แต่ใครก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจในความลับที่อยู่ในตัวของเขา ดังนั้นเมื่อภารกิจเสร็จสิ้นแล้วอาจจะลงมือทำร้ายและแย่งของมีค่าจากเขาไป

ปรมาจารย์นักกลั่นยาทั้งคนเพียงพอที่จะทำให้มกุฎยุทธ์ต้องคิดใคร่ครวญให้ดีถึงความสามารถของตัวเอง ผลลัพธ์ของแผนการนี้ถือว่าไม่เลว เพราะหนิงเหอโจวกับมู่จื่อซิวไม่มีท่าทางที่จะลงมือทำร้ายเขา

ส่วนหลัวซิวนั้นกลับไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้ว มู่จื่อซิววางแผนที่จะทำร้ายเขา แต่เป็นเพราะว่าเขากล่าวขึ้นมาว่าตนเองมีอาจารย์เป็นถึงปรมาจารย์นักกลั่นยา นั่นทำให้พวกเขาต้องหยุดคิด สุดท้ายจึงตัดสินใจล้มเลิกแผนการนั้นไป

เมื่อมกุฎยุทธ์ทั้งสองกลับไปแล้ว แม้ว่าในตอนเริ่มแรกของภารกิจมีเป้าหมายคือการฆ่าอาจารย์ตำหนักจื่อและอาจารย์เสวียนหยาง แต่ตอนนี้อาจารย์เสวียนหยางยังไม่ถูกฆ่า แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว การจะลงมือฆ่าอาจารย์เสวียนหยาง เป็นเรื่องที่เกินความสามารถของมู่จื่อซิวและหนิงเหอโจวเกินไป

หลัวซิวก็ไม่ได้คิดแค้นอะไรเรื่องนี้มากมายนัก เพราะเขาเพียงต้องการให้พ่อแม่และพี่สาวของเขาปลอดภัยเท่านั้น ส่วนอาจารย์เสวียนหยางคนนั้นปล่อยให้เขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไปก่อน รอให้ตนเลื่อนขั้นการฝึกตนของตัวเองขึ้นก่อน ค่อยหาโอกาสไปสังหารเขาทิ้ง

แต่การที่เขาไม่ได้รับการคุ้มกันจากมกุฎยุทธ์ทั้งสองแล้ว เขาจำเป็นต้องทบทวนแผนการใหม่ อีกอย่างตอนนี้เขาไม่สามารถกลับไปยังเมืองชิงหยุนได้อีกแล้ว และต้องหาที่ปลอดภัยให้กับพ่อแม่และพี่สาว

เรื่องสถานที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัว ตอนนี้หลัวซิวพอจะมีแผนการคร่าวๆ ในใจขึ้นมาแล้ว

หลัวซิวติดต่อสวีจิงเหนียนผ่านกล่องส่งเสียง

งานวันเกิดของอาจารย์เสวียนหยาง สุดท้ายกลายเป็นสถานที่สู้รบฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด ดังนั้นงานวันเกิดนี้จึงไม่สามารถที่จะดำเนินต่อไปได้อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ