สิ่งที่ทำให้เขายิ่งอดไม่ได้ที่จะตั้งตารอก็คือ หากนำภูตอัคคีกลืนกินและภูตอัคคีเปลวเยือกทั้งหมด มารวมเข้ากับพลังไสยอัคคี จะเกิดเป็นพลังที่น่ากลัวขนาดไหน ?
หลัวซิวไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะภารกิจที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือ เอาชนะซิงหลิง !
“คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าจะเป็นปรมาจารย์ค่ายกลขั้นเจ็ด” ซิงหลิงแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
เส้นทางของค่ายกลนั้นกว้างใหญ่และลึกซึ้ง นอกจากผู้มีพรสวรรค์ขั้นสูงในด้านค่ายกลที่มีอยู่จำนวนน้อยแล้ว คนอีกเป็นจำนวนมากที่ศึกษาค่ายกล หลังจากฝึกตนถึงระดับที่ยากจะพัฒนาต่อไปได้แล้ว ถึงจะเลือกทำความเข้าใจกับค่ายกล และแสวงหาโอกาสที่จะบรรลุการฝึกตนจากสิ่งนี้
ปรมาจารย์ค่ายกลขั้นเจ็ดหนึ่งคน หากอยู่ในโลกแสงดาว ย่อมมีฐานะที่สูงกว่า และได้รับความสำคัญยิ่งกว่ามกุฎยุทธ์อย่างแน่นอน
“เรื่องที่เจ้าคิดไม่ถึงยังมีอีกมาก”
หลัวซิวหัวเราะเยาะ สำหรับคนที่คิดจะสังหารตนเองนั้น เขาย่อมไม่คิดจะแสดงความเป็นมิตรอย่างแน่นอน
“เหอะๆ เอาล่ะ ครั้งนี้ถือว่าเจ้าชนะ”
และสิ่งที่ทำให้หลัวซิวคาดไม่ถึงก็คือ ซิงหลิงไม่ได้ลงมือต่อ แต่กลับเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า และเลือกที่จะยอมแพ้
“นี่หมายความว่าอย่างไร ?” หลัวซิวขมวดคิ้ว
ก่อนหน้านี้ เมื่อต้าวหวูซินเผชิญหน้ากับเขาก็ยอมแพ้ทันที ภายหลังยังมีกุ่ยโยว รวมไปถึงซิงหลิงในตอนนี้อีก อันที่จริงแล้วยังไม่ได้ต่อสู้กันอย่างสุดความสามารถบนเวทีการประลองเสียด้วยซ้ำ คนเหล่านี้มีแผนการอะไรอยู่ในใจกันแน่ ?
“เจ้าหนู เจ้ามีปัญหาแล้ว !” เสียงของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำดังขึ้นมาในตัวหยั่งรู้ น้ำเสียงจริงจังอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มหายุทธ์ สะท้านภพ
มึงๆ กูๆ เชี้ยไรเยอะแยะวะ นิยายจีนนะโว้ย อ่านเจอแล้วสดุดเสียรมตลอด...
แปลต่อทีค่า รออ่านอยู่นะคะ🥺🥺...
มีต่อไหมครับ...
รออยู่นะครับ...
เรื่องเก่าอัพเดตบ้าง ไม่ใช่ลงแต่เรื่องใหม่...
เมื่อไรจะลงซักที...
เค้ายังแปลอยู่ไหมครับ...
ไม่ลงให้อ่านซักที...
รออานยุ...
รอต่อไปครับ...