“พี่เจียง ไอ้เศษสวะนั่นไปที่สนามมวยใต้ดินของท่านเซียวมา”
ลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วพูดกับเจียงหง
มุมปากของเจียงหงมีความเย้ยหยันเล็กน้อย
หลังจากการสืบมาหลายวัน เขาพบว่า ถึงแม้ว่ามู่เซิ่งจะเป็นคนไม่เอาถ่าน วันๆซักผ้าทำกับข้าว แต่ไม่เหมือนกับข่าวลือด้านนอกเลย อย่างน้อย เขาก็ค่อนข้างมีเงิน ช่วงนี้เขามักจะไปที่สนามมวยใต้ดินของท่านเซียวบ่อยๆ
ในสายตาของเจียงหง เขามองมู่เซิ่งจ่ายเงินเพื่อเข้าไปรับชมการชกมวย เนื่องจากมู่เซิ่งวันๆถูกคนอื่นก่นด่าสารพัดว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน การไปที่สนามมวยเพื่อระบายอารมณ์เป็นเรื่องปกติมาก แต่บัตรผ่านเข้าประตูของสนามมวยสูงถึงคนละห้าพัน ดูท่าไอ้เศษสวะนี่จะมีเงินเยอะมากจริงๆนั่นแหละ
ครั้งก่อนตอนที่พวกเขาตามไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไร สนามมวยบอกว่ามีเรื่องต้องจัดการ จึงไล่ผู้ชมออกมา มู่เซิ่งน่าจะถูกไล่ออกมาด้วย
มีประสบการณ์ครั้งแรกแล้ว เจียงหงได้ส่งลูกน้องไปนั่งเฝ้าที่สนามมวยทุกวัน มาวันนี้ พอเห็นมู่เซิ่งอีกครั้ง
“นำทาง!”เจียงหงพูดอย่างเย็นชา“ครั้งนี้ จะปล่อยให้ไอ้หมอนี่หลุดรอดออกไปไม่ได้!”
กลุ่มคนเดินออกมาจาก ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เซี่ยลี่
ระหว่างทาง เจียงหงได้โทรหาถงเสว่เหมย ให้เธอรออยู่ที่บ้านเพื่อรอดูเรื่องสนุกๆก็พอ
ณ สนามมวยใต้ดิน
เมื่อไป๋เมี่ยนเซียวส่งโปรเจ็กที่อยู่ในมือออกมา สนามมวยไป๋เซียว ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสนามมวยเสวียนหลง และช่วงนี้เตาจั๋วก็กำลังพักฟื้นฟู ร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว แต่ยังคงต้องพันผ้าพันแผล และเคลื่อนไหวด้วยการใช้รถเข็น
“จางเสวียนหลง จัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว?”มู่เซิ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองนักมวยด้านล่างจากกระจกทางเดียว
ผู้ชมบนที่นั่งมองดูด้วยความดุเดือด ร้องตะโกนสุดเสียง
“คุณชายมู่ ผมได้รับไม้ต่อถิ่นของไป๋เมี่ยนเซียว มาทั้งหมดแล้วครับ”จางเสวียนหลงพูดอย่างนอบน้อม
หลังจากที่ได้รับคำสั่งของมู่เซิ่ง เขาก็ส่งคน จัดการเก็บกวาดสถานที่ของไป๋เมี่ยนเซียว ตลอดทั้งคืนทันทีโดยไม่รีรอ เพื่อกวาดล้างกองกำลังทั้งหมดของไป๋เมี่ยนเซียวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พลังของเขายางใหญ่ จนสามารถทำให้ทั่วทั้งเจียงหนานตกตะลึง
แต่ทว่า ไม่มีคนรู้ว่า คนที่อยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ คือมู่เซิ่ง
พวกเขารู้แต่เพียงว่า การปรากฏตัวขึ้นของท่านหลง ได้ยึดครองที่ดินของไป๋เมี่ยนเซียวทั้งหมด และไป๋เมี่ยนเซียวกลับไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย ตระกูลพวกนั้นรวมถึงตระกูลชั้นหนึ่ง ต่างก็พากันเงียบสงัด เมื่อได้ยินคำว่าท่านหลงสองคำนี้
มาวันนี้ ทั่วทั้งเจียงหนาน คนที่ไม่อาจล่วงเกินได้ ก็คือท่านหลงนั่นเอง
“จริงสิคุณชายมู่ ยังมีอีกเรื่องครับ……”จางเสวียนหลงอ้าปากจะพูด แต่ก็ต้องเงียบ
มู่เซิ่งหันกลับมาพูด“พูดมาเถอะ”
“ตระกูลล่ายแห่งเยียนจิง เคยส่งคนมาเจรจากับผมครับ บอกแค่ว่าขอแค่ผมยอมจำนนให้กับพวกเขา ก็จะสามารถเป็นใหญ่ในเจียงหนานได้ต่อไป ผมจึงปฏิเสธไป ตระกูลล่ายรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก อีกไม่นานอาจจะมาหาเรื่องคุณที่เจียงหนานได้”จางเสวียนหลงกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น มุมปากของมู่เซิ่ง ก็แสยะยิ้มขึ้นจะยิ้มก็เหมือนไม่ยิ้ม
ตระกูลล่าย?ในบรรดาตระกูลทั่วไปในเจียงหนาน พูดได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต แต่ในสายตาของเขา มันไม่มีค่าอะไรเลย ขอแค่เขาพูดประโยคเดียว ก็จะสามารถทำให้ทั้งตระกูลล่าย คุกเข่าต่อหน้าของเขาได้
แต่ว่า เขาไม่ใช่ชายหนุ่มผู้อ่อนต่อโลกในตอนนั้นอีกต่อไปแล้ว เขาจะพิสูจน์กับพ่อของเขา ถึงจะต้องพึ่งพาตัวเอง เขาก็ไม่มีทางเกรงกลัวตระกูลและตระกูลแนวหน้าในเยียนจิง
“คุณอยากไปดูที่เยียนจิงไม่ไช่เหรอ ตระกูลล่ายนั่นน่ะ อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่งของคุณก็ได้”มู่เซิ่งพูดอย่างเรียบเฉย
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จางเสวียนหลงก็ตกใจจนเกือบกัดลิ้นของตัวเอง!
เยียนจิง!
นั่นเป็นสถานที่ที่เขาได้แต่วาดฝัน คิดไม่ถึงว่า ในชีวิตของเขา จะมีโอกาสได้ไปเยือนเยียนจิง?
ปึ้ง!
จางเสวียนหลงสองเข่ากระแทกลงกับพื้น ใช้หัวโขกคำนับให้กับมู่เซิ่ง อย่างนอบน้อม“ขอบคุณครับคุณชายมู่ ที่ให้โอกาสผม!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...