“พ่อจะต้องหาบทสรุปได้แน่นอน ให้ทั้งตระกูลมู่สงบสุข ให้ลูกนั่งตำแหน่งผู้นำตระกูลอย่างมั่นคงและปลอดภัย!”
มู่เฉินเทียนพูดอย่างฮึกเหิม “ไม่เช่นนั้นรอให้มู่จงหยุนแทรกซึมตระกูลมู่อย่างถึงที่สุด ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว แม้กระทั่งภายในตระกูลมู่อาจจะเกิดสงครามภายใน ตระกูลมู่ในตอนนี้ แบกรับผลที่ตามมาเช่นนั้นไม่ไหว หากเมื่อตระกูลมู่แตกแยก ตระกูลผู้ร่ำรวยมีอิทธิพลตระกูลอื่น ไม่มีทางที่จะเมินเฉย”
มู่เซิ่งเงียบไม่พูดจา
เขาอยากจะพูดออกมามากๆว่า ที่เขามาเมืองเยียนจิง เป้าหมายหลักคือเพื่อรักษาอาการป่วยของท่านพ่อ สำหรับตำแหน่งผู้นำตระกูลมู่ เขาไม่มีความคิดเห็นอะไร แต่ภายในตระกูลมู่ในตอนนี้ มู่เฉินเทียนประคับประคองอย่างยากลำบากอยู่คนเดียว มู่เซิ่งก็อดทนดูต่อไปไม่ได้
“ลูกเอ๋ย พ่อรู้ว่าลูกไม่อยากได้ตำแหน่ง แต่นอกจากลูก ไม่มีใครที่สามารถนั่งตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคง!” มู่เฉินเทียนเหมือนกับดูความคิดของมู่เซิ่งออก จึงเอ่ยปากพูด
“เวลาสามปี พ่อบริหารจัดการตระกูลมู่ไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป ความทะเยอทะยานของมู่จงหยุนมากขึ้นเลยๆ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาบรรลุการบำเพ็ญตน เข้าสู่การเป็นนักเสวียน”
“ระหว่างปรมาจารย์บู๊กับนักเสวียน นี่คือการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพ”
“เดิมที เขาอาจจะหวาดกลัวการมีอยู่ของพ่อ แต่ตอนนี้เขาบรรลุการบำเพ็ญตนแล้ว มู่จงหยุนไม่มีทางปล่อยโอกาสครั้งนี้ไปแน่นอน โดยเฉพาะตอนที่ลูกเพิ่งกลับมา เขาจะเผยเขี้ยวยาวที่แอบซ่อนไว้เป็นเวลานานออกมา อยากจะขย้ำอย่างบ้าคลั่ง”
“ดังนั้นตอนนี้ อยากจะจัดการปัญหาเรื่องตำแหน่งผู้นำตระกูลด้วยสันติวิธี นั่นเป็นไปไม่ได้แล้ว นอกจากพ่อยอมสละตำแหน่งผู้นำตระกูล”
“เมื่อยอมสละตำแหน่งผู้นำตระกูล มู่จงหยุนก็จะบีบบังคับทุกทาง ถึงเวลานั้นเกรงว่าจะไม่มีที่สำหรับพวกเราในเมืองเยียนจิงแล้ว”
มู่เซิ่งพยักหน้า
มู่จงหยุนคนผู้นี้ เขารู้จักเป็นอย่างดี
ละโมบปลิ้นปล้อน หน้าเนื้อใจเสือ!
แม้กระทั่งว่าจ้างทหารมาฆ่าตัวเองที่เมืองเจียงหนานเพื่อข่มขู่ท่านพ่อ! เพียงแค่เรื่องนี้ มู่เซิ่งก็คิดว่าไม่มีทางให้เขาได้ใช้ชีวิตอย่างดี
งานเลี้ยงตระกูลในครั้งนี้ มู่จงหยุนไม่ไว้หน้ามู่เฉินเทียนเป็นอย่างมากแล้ว มู่เซิ่งดูออกว่ามู่จงหยุนกำลังลองเชิงพละกำลังของมู่เฉินเทียน ในใจของเขาได้เตรียมพร้อมที่จะลงมือตั้งนานแล้ว
แต่ว่า มู่เซิ่งกลับเอ่ยปากราวกับว่ามีแผนในใจอยู่แล้ว “การแข่งขันชิงตำแหน่งทายาทตระกูลครั้งนี้ เป็นจุดพลิกสถานการณ์ที่ดีครั้งหนึ่ง เมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนด ฉันจะเอาชนะโดยไม่ต้องสงสัย”
“และถึงตอนนั้น ร่างกายของท่านพ่อได้หายดีเป็นปกติตั้งนานแล้ว จะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า”
“ถึงเวรานั้นท่านพ่อเพียงแค่เอาชนะมู่จงหยุนในการประชุม ต่อหน้าทุกคนตระกูลมู่ เช่นนั้นการวางหมากของมู่จงหยุนหลายปีมานี้ ก็จะหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย ไม่ว่าลูกน้องใต้บัญชาหรือศัตรูของท่าน จะเคารพยำเกรงท่านพ่อใหม่อีกครั้ง”
“ชื่อของท่าน ถึงจะเจริญรุ่งเรืองเสมือนดวงตะวันกลางท้องฟ้า!”
“วิธีแบบนี้มีประสิทธิภาพมากกว่า เทียบกับที่ท่านประกาศว่าร่างกายฟื้นฟูหายดี แล้วค่อยๆ ควบคุมตระกูลมู่”
“รอให้ถึงขั้นนี้ ท่านค่อยให้ฉันสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูล หรือทำอย่างอื่น ฉันเชื่อว่าในตระกูลมู่ ไม่มีคนกล้าโต้แย้งอีกแล้ว” มู่เซิ่งเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย เขามีแผนในใจอยู่แล้ว
มู่เฉินเทียนพยักหน้า ในใจรู้สึกตะลึงงัน
ที่แท้ครั้งที่แล้วตอนที่กลืนโอสถเข้าไป มู่เซิ่งบอกให้ตัวเองแกล้งป่วย เขาได้เริ่มวางแผนเรื่องราวทั้งหมดไว้แล้ว!
เดินหนึ่งก้าว มองสามก้าว
นี่ถึงจะเป็นการวางแผนกลยุทธ์เผด็จศึก!
มู่เฉินเทียนพูด “งั้นบริษัทจิวเวลรี่ของตระกูลมู่ พ่อให้เพื่อนพ้องซื้ออัญมณีเพชรพลอยหลายพันล้านจากลูกได้นะ รับประกันว่าลูกได้ผลกำไรเป็นอันดับหนึ่ง”
“อย่านะครับ ห้ามเด็ดขาด” มู่เซิ่งส่ายหน้าพูดขึ้น “ท่านพ่อ ถ้าหากท่านทำแบบนี้ จะต้องถูกมู่จงหยุนจับจุดอ่อนได้แน่นอน ท่านเพียงแค่แสร้งป่วยในช่วงนี้ต่อไป นอนอยู่บนเตียงก็พอแล้ว”
มู่เฉินเทียนพูด “แต่ถ้าหากลูกพ่ายแพ้ ชิงตำแหน่งทายาทผู้นำตระกูลไว้ไม่ได้ล่ะ?”
มู่เซิ่งพูด “ทุกคนคิดว่าผมต้องพ่ายแพ้ แต่ผมรับรอง ไม่มีทางแพ้แน่นอน ถ้าหากผมแพ้ งั้นก็ฟังการจัดการของท่านพ่อ ให้เพื่อนของท่านช่วยเหลือ”
เวลาหนึ่งเดือน บริหารบริษัทจิวเวลรี่ ได้กำไรเป็นอันดับหนึ่ง นี่เป้ฯเรื่องที่กากมาก เพราะว่ามู่เฟิงกับมู่ปู้ทั้งสองคน มีบริษัทอยู่ที่เมืองเยียนจิง
มู่เฉินเทียนคิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
การแข่งขันชิงตำแหน่งทายาทตระกูล พวกเขาจะต้องพยายามอย่างถึงที่สุด แม้กระทั่งไม่เสียดายที่จะใช้เงินในเรื่องเส้นสาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...