มู่เซิ่งไม่ได้กลับมาที่ตระกูลมู่เป็นเวลานาน ดังนั้นพนักงานของบริษัทตระกูลมู่เหล่านั้น ไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับมู่เซิ่งชื่อนี้ และหลังจากที่มู่เฟิงถูกมู่เซิ่งตัดมือขวา จึงแอบกระจายข่าวที่มู่เซิ่งเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าครอบครัวฝ่ายหญิง ทำให้ทุกคนบริษัทตระกูลมู่ เกลียดชังมู่เซิ่งเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาได้ตัดสินใจลับๆ ไม่มีทางที่จะให้มู่เซิ่งมาบริหารบริษัท ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังรอให้มู่เซิ่งมาถึงแล้วจะแสดงอำนาจให้เขาดู
“เฮ้อ ถ้าหากการบริหารบริษัทล้มเหลว ขาดทุน ถึงเวลามู่เซิ่งไม่เป็นไร กลับกันพวกเราจะประสบหายนะนี่สิ”
“ใช่ บริษัทนี้ทุกคนบริหารขึ้นมาอย่างยากลำบาก”
“แต่ได้ยินมาว่ามู่เซิ่งเป็นคนไร้น้ำยา หรือว่าพวกเราข่มขู่ให้เขาไสหัวไปเป็นอย่างไร?”
“นี่...เกรงว่าจะไม่ค่อยดีหรอกนะ” มีคนโต้แย้งด้วยสัญชาตญาณ ต่อให้มู่เซิ่งจะเป็นอย่างไร ก็คือคนของตระกูลมู่ พวกเขาที่เป็นลูกน้องเหล่านี้ จะขู่มู่เซิ่งโดยตรงได้อย่างไร
“ฉันว่าได้ ยังไงเขาก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง เป็นแมงดา ไม่แน่ถูกข่มขู่สองประโยค ก็หวาดกลัวแล้ว”
“แต่ถ้าเป็นแบบนี้...”
“ชู่! มู่เซิ่งมาแล้ว”
จู่ๆ มีชายหนุ่มที่สวมชุดสูทวิ่งเข้ามาด้านในแล้วตะโกนขึ้นเบาๆ
ทันใดนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ในห้องประชุมก็สิ้นสุดลงทันที
สายตาของทุกคนมองไป เห็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาทางห้องโถง เสื้อผ้าบนตัวที่แสนธรรมดา ดูไม่สะดุดตา ไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาสักนิด
“มู่เซิ่ง ลูกเขยที่แต่งเข้าครอบครัวฝ่ายหญิงคนนั้น!”
“เสียงเบาหน่อย ไม่กลัวจะถูกเขาได้ยินหรือไง?”
ผลักประตูเข้ามา มู่เซิ่งเดินมาตรงกลางห้องประชุม สายตาของเขากวาดมองไปโดยรอบช้าๆ จากนั้นเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย “พวกคุณคือพนักงานทั้งหมดของจิวเวลรี่มู่เหม่ยใช่ไหม? ตอนนี้ฉันคือประธานของจิวเวลรี่มู่เหม่ย พวกคุณนำเอกสารผลกำไรของจิวเวลรี่มู่เหม่ยภายในสามปีนี้ มาให้ผมที่ห้องทำงาน”
ถึงตอนนี้ เวลาหนึ่งเดิน เวลากระชั้นชิด
ถึงแม้มู่เซิ่งมีความมั่นใจที่จะคว้าอันดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มีทางเสียเวลากับขั้นตอนที่ซับซ้อนมากเกินไป
เพียงแต่ ตอนที่มู่เซิ่งหันหลังกลับ ด้านหลังเกิดเสียงที่ไม่เหมาะสมดังขึ้นจากด้านหลัง “คุณมู่ คุณเพิ่งกลับมาที่ตระกูลมู่ พวกเราไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถที่จะบริหารบริษัทจิวเวลรี่มู่เหม่ยได้อย่างดีหรือไม่ ตอนนี้ให้พวกเราทุกคนฟังคุณ เกรงว่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ?”
“อีกอย่าง ถ้าจิวเวลรี่มู่เหม่ยขาดทุน คุณรับผิดชอบไหวไหม?”
จู่ๆ ชายหนุ่มชุดสูทเอ่ยปากขึ้น ในคำพูดมีคำขู่ที่เผยออกมาอย่างชัดเจน
“คุณชื่ออะไร?” มู่เซิ่งหันกลับมาถาม
“ผมชื่อหวางเหลียง” ชายหนุ่มพูดอย่างทะนงตัว
แต่ทว่า สำหรับน้ำเสียงยั่วยุเช่นนี้ มู่เซิ่งเหมือนกับไม่ใส่ใจสักนิด เขายื่นมือออกมาเคาะโต๊ะเบาๆ พูดออกมาอย่างเรียบเฉย “ได้ หวางเหลียง ช่วงบ่ายคุณไปที่ฝ่ายการเงินรับเงินเดือนของเดือนนี้ซะ คุณถูกไล่ออกแล้ว”
ไล่ออก?
ทุกคนหดคอในทันที
“คุณ คุณกล้าไล่ผมออก คุณไม่รู้หรือว่าผมเป็นบุคคลสำคัญมีฝีมือ คือนักอัญมณีศาสตร์มืออาชีพของบริษัทเหรอ! คุณกล้าไล่ผมออก ทั้งบริษัทไม่มีใครที่สามารถวินิจฉัยอัญมณีได้แล้ว!” หวางเหลียงโมโหจนตัวสั่น ชี้หน้าด่ามู่เซิ่งอย่างสาดเสียเทเสีย
มู่เซิ่งเจ้าหนุ่มคนนี้ ทำไมถึงได้กล้าไล่ตัวเองออก?
เขาเป็นถึงหวางเหลียงตาเทพที่มีชื่อเสียงภายในบริษัท!
“คุณมู่ ถ้าหากคุณจะไล่คุณหวางเหลียงออก เช่นนั้นก็ไล่ผมออกด้วยเถอะ”
“ยังมีผม”
นักอัญมณีศาสตร์มืออาชีพอีกสองสามคนของบริษัทพากันยืนขึ้น ตบโต๊ะหาเรื่องมู่เซิ่ง
หวางเหลียงเผยสีหน้าลำพองใจออกมา เหมือนกับกำลังพูดว่า ถ้าหากนายกล้าไล่ฉันออก เช่นนั้นบริษัทจิวเวลรี่มู่เหม่ย ก็จะเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ขาดแคลนพนักงาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...