มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 233

“เรื่องอะไร? คุณใจเย็น ค่อยๆ พูด” สีหน้าของมู่เซิ่งไม่ได้เผยความตื่นตระหนกมากนัก นี่ทำให้บนใบหน้าเลขาคนนั้นเกิดความประหลาดใจแวบผ่านเล็กน้อย

สภาพจิตใจสงบนิ่งกับการจัดการปัญหาแบบนี้ ไม่เหมือนกับไอ้ขยะที่ได้ยินมาจากคนอื่น

“คุณมู่ คือแบบนี้ค่ะ” เลขาสงบจิตใจ เอ่ยปากพูดขึ้น “อย่างที่คุณพูดก่อนหน้านี้ ตอนนี้หินหยกอัญมณีมูลค่าค่อนข้างต่ำ ให้นักประเมินของพวกเราที่เหลืออยู่กำหนดราคา ราคาค่อนข้างสูง ก็ละทิ้งไว้ชั่วคราว บอกกับผู้ขายว่านักประเมินของพวกเรากำลังพักผ่อน อีกสองสามวันค่อยมาใหม่”

“อืม” มู่เซิ่งพยักหน้า

นี่เป็นเรื่องที่เขามอบหมายจริงๆ เพราะว่าคนของตระกูลกู่มาที่เมืองเยียนจิง จะต้องมีการจัดระเบียบและเวลา

“แต่ว่าคุณมู่คะ วันนี้มีคนมาที่ร้าน จะมาขายอัญมณีชิ้นหนึ่ง อัญมณีชิ้นนี้มูลค่าสูงมาก แต่ว่าผู้ขายกลับเสนอราคาไม่สูง ดังนั้นกำไรพอดูทีเดียว ที่สำคัญคือ ผู้ขายคนนั้นบอกว่าเป็นเพราะมีเรื่องด่วนถึงได้ขายทิ้ง ถ้าหากพวกเราไม่ซื้อไว้ตอนนี้ เขาจะไปขายให้ที่อื่น” เลขาเล่าเรื่องราวทั้งหมด

มู่เซิ่งพยักหน้า ถึงแม้เขาไล่นักประเมินมืออาชีพออก แต่ในบริษัทยังมีเหลืออยู่ไม่น้อย สิ่งที่สามารถทำให้นักประเมินเหล่านี้ลังเลตัดสินใจไม่ได้ จะต้องไม่ใช่อัญมณีธรรมดาแน่นอน

“ได้ งั้นคุณพาผมไปหน่อย” มู่เซิ่งพยักหน้า

“พาคุณไปเหรอคะ?” เลขาตกตะลึง

คุณไม่รู้เรื่องอัญมณีสักหน่อย พาคุณไป มีประโยชน์อะไร?

หรือว่าใช้ชื่อเสียงของตระกูลมู่กดขี่คนอื่นเหรอ? นี่ไม่กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงของตระกูลมู่?

คำพูดเหล่านี้เลขาไม่กล้าพูด เธอพามู่เซิ่งไปยังร้านจิวเวลรี่มู่เหม่ยอย่างเชื่อฟัง

บริษัทจิวเวลรี่มู่เหม่ยเป็นธุรกิจใหญ่ ที่ประเทศตงหัวมีหลายสิบสาขา สาขาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ที่เมืองเยียนจิง หลังจากมาถึงร้านจิวเวลรี่มู่เหม่ย การตกแต่งภายในร้านเหลืองอร่ามงามตา และภายในร้านมีสาวงามหลายคนที่สวมชุดกี่เพ้ายืนต้อนรับลูกค้าอย่างสุภาพ

“เลขาสวี่ คุณมาถึงสักที”

หลังจากเห็นเลขาเข้ามา ผู้จัดการที่อยู่หน้าร้านเข้ามาต้อนรับอย่างยิ้มแย้ม ดวงตาตื่นเต้นสุดๆ แต่เมื่อได้เห็นว่าเป็นมู่เซิ่งที่ยืนอยู่ด้านหลัง เลขาสวี่ ความแวววาวในดวงตา สลัวลงทันที

“เลขาสวี่ ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอ มีอัญมณีล้ำค่ามากชิ้นหนึ่ง ให้คุณพานักอัญมณีศาสตร์มาประเมินค่า ตอนนี้ต่อให้คุณไม่พาหวางเหลียงมา อย่างน้อยก็พานักอัญมณีศาสตร์มืออาชีพคนอื่นมา”

“คุณพาเขามาทำไม?”

“เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เขาประเมินค่าอัญมณีได้เหรอ? ถ้าหากทำพัง พวกเราควรจะรายงานกับท่านประธานอย่างไร”

“ฉันก็คือประธาน” ฟังคำพูดเหล่านี้ มู่เซิ่งยิ้มบางๆ

“คุณ...คือประธานจิวเวลรี่มู่เหม่ย?” ตอนแรกผู้จัดการยังไม่เชื่อ แต่หลังจากเห็นเลขาส่งสายตามาไม่หยุด ก็ตกใจในทันที “ขอโทษด้วยครับ ท่านประธาน ผมไม่รู้ว่าคุณมา”

“ไม่เป็นไร คุณก็ทำเพื่อบริษัท” มู่เซิ่งพูด

ผู้จัดการได้ยิน ถึงได้วางใจลง

“ท่านประธาน เชิญมากับผมครับ” ผู้จัดการเอ่ยปากพูด

จิลเวลรี่มู่เหม่ยใหญ่มาก สูงสามชั้น และมูลค่าอัญมณีของแต่ละชั้นสูงกว่าแต่ละชั้นมาก ผู้จัดการพามู่เซิ่งและคนอื่น มาถึงชั้นสาม ก็เห็นชายร่างกำยำมีหนวดเคราตอนผมนั่งอยู่ที่ห้องโถง บนเคาน์เตอร์ มีกล่องขนาดเล็กกล่องหนึ่งวางอยู่

ระหว่างทางฟังผู้จัดการแนะนำ ชายร่งกำยำไว้หนวดไว้เคราคนนี้ชื่อเจี่ยงฉู่ เพราะว่าคุณพ่อป่วยหนัก รีบร้อนใช้เงิน ดังนั้นถึงได้นำมรดกตกทอดออกมา เตรียมจะขายแลกเงิน

และรอบๆ ยังมีเถ้าแก่จากร้านอื่นรวมตัวกันอยู่หลายคน เป็นชายร่างกำยำไว้หนวดเคราคนนี้เรียกมา เขาอยากจะจัดการแข่งขันคล้ายๆ งานประมูล ผู้ที่ราคาสูงได้รับไป

ผู้จัดการพามู่เซิ่งมายังด้านหน้าชายร่างกำยำไว้หนวดเครา แล้วเอ่ยปากขึ้น “ท่านนี้คือประธานบริษัทมู่เหม่ยของพวกเรา คุณมู่เซิ่ง”

“ประธานของพวกคุณก็มาแล้วเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง