หลังจากมู่เซิ่งออกมาจากหอเฉียนเป่าแล้ว เขาก็รีบไปที่วิลล่าของตระกูลเจียงทันที
วันนี้เป็นวันที่ท่านสามออกจากโรงพยาบาล และเป็นวันเกิดครบรอบอายุเจ็ดสิบปีของเขาด้วย ถึงแม้ว่าตระกูลเจียงจะเป็นตระกูลชั้นสอง แต่วันสำคัญเช่นนี้ ก็เชิญคนมามากมายเช่นกัน
มีรถหรูต่าง ๆ จอดอยู่ตรงทางเข้าวิลล่ามากมาย คนสัญจรไปมา และคึกคักเป็นพิเศษ
เจียงหว่านและจ้าวหลินยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าที่รถสัญจรไปมา จ้าวหลินมองนาฬิกาบนข้อมือ และแสดงสีหน้าหงุดหงิด
ขณะนี้ มู่เซิ่งปั่นจักรยานมาอย่างช้า ๆ และจอดรถจักรยานไว้ด้านข้าง แล้ววิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษด้วย รถติดมาก”
ตระกูลเจียงจัดงานเลี้ยงวันเกิดคราวนี้ มีคนมาร่วมงานมากจริง ๆ การจราจรหนาแน่นจากระยะทางไกล และระยะทางจากหอเฉียนเป่ามาตระกูลเจียงก็ไกลมาก ดังนั้นมู่เซิ่งจึงใช้เวลาเดินทางนาน
และตระกูลเจียงเป็นตระกูลใหญ่ ยานพาหนะที่ใช้ล้วนเป็นรถหรู นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสมาชิกของตระกูลเจียงปั่นจักรยานมา ทำให้หลายคนที่เห็นภาพนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ดูเหมือนว่าบุคคลนี้จะเป็นลูกเขยไม่เอาถ่านของตระกูลเจียง ที่ชื่อมู่เซิ่งใช่ไหม?”
“ใช่! ผมเคยเห็นเขาที่โรงพยาบาล ตอนนั้นเขาคิดจะแย่งความดีความชอบของหมอเทวดาหลี่ แต่สุดท้ายกลับอับอายขายหน้าเสียเอง!”
“ฮ่า ๆ ผมได้ยินว่าวันนี้อาจารย์ของหมอเทวดาหลิวก็มาร่วมงานเลี้ยงด้วย เมื่อถึงเวลานั้นจะคอยดูว่าเขาขายหน้าอย่างไร”
ลูกหลานของตระกูลเจียงเหล่านี้ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำ คนไม่เอาถ่านคนนี้ไม่เพียงอับอายขายหน้าเท่านั้น แต่เขายังทำให้เจียงหว่านสูญเสียโครงการไป และเรื่องนี้ลือไปทั่วตระกูลเจียง จนรู้กันเกือบหมดแล้ว
“ดูสิ คนไม่เอาถ่านยืนอยู่ข้างเจียงหว่าน แต่เขาไม่กล้าแม้แต่จะจับมือเธอ พวกเขาแต่งงานกันสามปีแล้ว เดาว่าเขาคงยังไม่เคยแตะต้องตัวเธอด้วยซ้ำ ฮ่า ๆ ๆ!” ลูกหลานของตระกูลเจียงและแขกคนอื่น ๆ เดินเข้ามาพร้อมกับพูดคุยหัวเราะ
เมื่อได้ยินคำเยาะเย้ยจากคนที่อยู่รอบ ๆ สีหน้าของจ้าวหลินยิ่งน่าเกลียดขึ้นไปอีก “ทำไมคุณมาช้าขนาดนี้ วันนี้เป็นวันสำคัญ คุณยังปั่นจักรยานสับปะรังเคมาอีก ทำไมคุณถึงได้หน้าด้านขนาดนี้?”
“เอาของขวัญล่ะออกมาสิ!” จ้าวหลินถามด้วยความเย็นชา
“นี่ครับ” มู่เซิ่งหัวเราะ แล้วหยิบกล่องออกมาจากกระเป๋า
ซึ่งเป็นกล่องที่ธรรมดามาก
“คุณไม่ได้ซื้อของสับปะรังเคมาใช่ไหม” จ้าวหลินเหลือบมองกล่องด้วยความโมโห “หลังจากคุณเข้าไปแล้ว อย่ามาอยู่ใกล้ฉัน เพราะฉันไม่อยากอับอายขายหน้า และหลังจากหลี่น่องกับหลิวเจี้ยนหัวมาถึงแล้ว คุณก็ไปขอโทษพวกเขาสองคนด้วย ได้ยินไหม?”
“ผมไม่ขอโทษ”
มู่เซิ่งส่ายศีรษะเบา ๆ ราวกับว่าเขาไม่สนใจการข่มขู่ของหลี่น่องแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นท่าทีของมู่เซิ่งแล้ว จ้าวหลินกระทืบเท้าด้วยความโกรธ ไม่ขอโทษ? คนไม่เอาถ่านคนนี้หน้าด้านจริง ๆ! ขณะที่เธอกำลังจะด่า ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ขอเชิญลูกหลานของตระกูลเจียง มาอวยพรวันเกิดให้ท่านสาม!”
หลังจากกล่าวจบ ฝูงชนก็เดินเข้าไปในห้องโถงราวกับกระแสน้ำ
จ้าวหลินเหลือบมองมู่เซิ่งด้วยความเย็นชา แต่ไม่ได้ด่าเขาอีก
ขณะนี้ เจียงหว่านเดินไปอยู่ข้างมู่เซิ่งอย่างเงียบ ๆ แล้วยื่นกล่องเล็ก ๆ ให้เขา “มู่เซิ่ง ฉันรู้ว่าเงินสามร้อยไม่สามารถซื้อของขวัญอะไรได้ ฉันเตรียมสิ่งนี้ไว้ให้คุณโดยเฉพาะ”
กล่องบรรจุสวยงามมาก สามารถเดาได้ว่าราคาของขวัญที่อยู่ข้างในต้องมีมูลค่าสูงอย่างแน่นอน
“ไม่จำเป็น” มู่เซิ่งปฏิเสธทันที “ผมมีของขวัญจริง ๆ และเป็นของขวัญที่มีมูลค่า ไม่อับอายขายหน้าอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ?”
เจียงหว่านมองหน้ามู่เซิ่งด้วยความสงสัย
“ผมจะโกหกคุณทำไม?” มู่เซิ่งเขย่ากล่องที่อยู่ในมืออีกครั้ง ของขวัญที่กู่มู่สวีนมอบให้ เมื่อเทียบกับของขวัญที่คนอื่นนำมาวันนี้แล้ว ต้องดีกว่าอย่างแน่นอน
“ถึงแม้คุณจะเตรียมของขวัญมา แต่คุณก็รับของขวัญนี้ไว้ก่อน หรือของขวัญของคุณจะดีกว่าของฉัน?” เจียงหว่านยัดของขวัญใส่มือมู่เซิ่ง
“โอเค ขอบคุณครับ”
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ถ้าคุณอยากขอบคุณฉันจริง ๆ ต่อไปก็ตั้งใจทำมาหากินหน่อย”
เจียงหว่านเบ้ปาก และไม่พูดอะไรอีก
ขณะนี้ คนนั่งเต็มห้องโถงแล้ว
ลูกหลานของตระกูลเจียงอยู่กันครบ แล้วยังมีคนนอกอีกมากมาย
ท่านสามสวมเสื้อสีแดง ใบหน้าผ่องใส เห็นได้ชัดว่าการฝังเข็มของมู่เซิ่งทำให้ร่างกายของเขาดีขึ้น
งานเลี้ยงวันเกิดยังไม่ได้เริ่มต้น ลูกหลานของตระกูลเจียงหลายคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง กำลังสนทนาเรื่องสัพเพเหระ แต่เนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับบริษัทไหนได้กำไรเท่าไหร่ หรือครอบครัวใครเพิ่งซื้อรถหรู
พวกเขาต่างสนทนากัน และไม่สนใจมู่เซิ่งแม้แต่น้อย
มู่เซิ่งไม่สนใจพวกเขาเช่นกัน เพราะเขาไม่สนใจหัวข้อสนทนาประเภทนี้
แต่เห็นได้ชัดว่าเจียงมู่หลงไม่ยอมปล่อยมู่เซิ่ง
“คนไม่เอาถ่าน วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุเจ็ดสิบปีของคุณปู่ คุณเอาของขวัญอะไรมามอบให้คุณปู่?”
“อย่าเป็นเหมือนคราวที่แล้วล่ะ ที่ใช้เงินของครอบครัวไปซื้อของขวัญ”
“หรือว่ามามือเปล่า?”
เจียงมู่หลงกล่าวด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง มองมู่เซิ่งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เขาไม่มีวันลืมภาพที่ตนเองถูกทำร้ายที่ประตูบ้านของเจียงหว่าน ถ้าวันนี้มีโอกาส เจียงมู่หลงจะต้องแก้แค้นแน่นอน เพื่อระบายความโกรธแค้นของเขา
มู่เซิ่งตอบอย่างสงบ “ผมนำของขวัญมาด้วย”
“ฮ่า ๆ ๆ คุณนำของขวัญมาด้วย?”
เจียงมู่หลงหัวเราะเสียงดัง “เอาออกมาดูสิ ให้ผมดูว่าคุณซื้ออะไรเป็นของขวัญ!”
“ถูกต้อง ฮ่า ๆ ๆ รีบเอาออกมา” ทุกคนมองมู่เซิ่ง เพราะการทำให้คนไม่เอาถ่านคนนี้อับอายขายหน้า มันทำให้พวกเขารู้สึกสนุกมาก
“ไม่จำเป็นต้องดูหรอก”
มู่เซิ่งโบกมือ
เขารู้ธาตุแท้ของลูกหลานตระกูลเจียงพวกนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะเอาของขวัญอะไรออกมา ก็จะถูกทุกคนเยาะเย้ย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ มู่เซิ่งจึงไม่อยากจะถกเถียงกับพวกเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...