มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 328

“เธอเป็นใคร รู้จักเจียงหว่านได้ยังไง”

มู่เซิ่งจ้องหยางฟางฟางด้วยสายตาเย็นชามาก แม้แต่บรรยากาศรอบๆ ยังเย็นยะเยือกไปด้วย ถึงหยางฟางฟางมีผ้าขนหนูคลุมตัวอยู่ ก็อดสั่นไม่ได้

“งานเลี้ยงศิษย์เก่าก่อนหน้านี้ไง ฉันเป็นเพื่อนกับเจียงหว่าน ตอนนั้นจางเหวินเจี๋ยยังขอภรรยานายแต่งงานในงานเลี้ยงศิษย์เก่าด้วย นายใช้สร้อยตบหน้าเขาอย่างแรง ฉันอยู่ข้างๆ เห็นเต็มๆ เรื่องต่อจากนั้นฉันก็อยู่ที่นั่นด้วย” หยางฟางฟางเอ่ยขึ้น

“เธอเป็นเพื่อนเจียงหว่านเหรอ” มู่เซิ่งขมวดคิ้วอย่างสงสัย

ไม่ใช่เพราะเขาวิตกกังวลจนเกินไป แต่หลังผ่านเรื่องของอู๋ซื่อซวิน ทำให้เจียงหว่านบาดเจ็บ มู่เซิ่งรู้สึกโทษตัวเองเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจียงหว่านเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้นเขาจึงต้องตัดสินเรื่องที่อาจเป็นภัยกับเจียงหว่านอย่างละเอียด

“ใช่ ตอนนั้นฉันอยู่ในงานด้วย ถ้าฉันจำไม่ผิด นายยังโดนหลี่นั่วหนานใส่ร้ายว่าทำตัวไม่สุภาพด้วย” หยางฟางฟางเอ่ยขึ้น

เธอพูดรายละเอียดในงานเลี้ยงศิษย์เก่าออกมาเยอะมาก มู่เซิ่งจึงวางใจ คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ในงานเลี้ยงศิษย์เก่าด้วย เขาอดถามไม่ได้ว่า “ทำไมฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยเจอเธอ”

“ตอนนั้นสมาธินายอยู่ที่ภรรยาตั้งแต่ต้นจนจบ อย่าว่าแต่ฉันเป็นเพื่อนเธอเลย ถึงฉันแก้ผ้านายก็ไม่เห็นฉันหรอก” ตอนหยางฟางฟางพูดประโยคนี้ออกมา หน้าเธอแดงด้วย

มู่เซิ่งอึ้งไป คิดว่าก็คงใช่

งานเลี้ยงศิษย์เก่าในตอนนั้น เจียงหว่านสวมสร้อยคอ ดูสวยโดดเด่นมาก ดังนั้นสมาธิของมู่เซิ่งจึงจดจ่ออยู่ที่เจียงหว่านตั้งแต่ต้นจนจบ ส่วนพวกเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนสนิทของเธอ มู่เซิ่งไม่ทันสังเกตเลยสักคน

ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนเจียงหว่าน งั้นต่อไปทั้งสองคนจะได้คุยกันอย่างผ่อนคลายมากขึ้น

หยางฟางฟางเล่าเรื่องสมัยมัธยมปลายของเจียงหว่านให้มู่เซิ่งฟัง มู่เซิ่งตลกจนหัวเราะร่า เขาคิดไม่ถึงว่าเมื่อก่อนเจียงหว่านเป็นเด็กผู้หญิงที่น่าสนใจมาก ส่วนหยางฟางฟางก็นั่งอยู่ในห้องเป็นเวลานาน เหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกมา

ในเมื่อหยางฟางฟางไม่พูด แน่นอนว่ามู่เซิ่งก็ไม่เป็นฝ่ายถาม เมื่อหยางฟางฟางออกไปแล้ว เขากลับเข้ามาในห้อง ตอนนี้เขาต้องรีบวาดรูนที่เหลืออีกสามอันให้เสร็จ

เวลาสองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เรียกได้ว่าสองวันนี้มู่เซิ่งอยู่แต่ในห้อง แทบไม่ได้ออกไปไหนเลย นอกจากเหนื่อยล้าจนต้องออกไปสูดอากาศสักหน่อย ไม่นานเขาก็กลับเข้ามาในห้อง

การเป็นนักเสวียน แม้ไม่กินอะไรได้หลายวัน แต่พลังเสวียนสามารถหมดไปได้ จำเป็นต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลังกลับมา

เหยาเผิงก็รู้ว่าตอนนี้มู่เซิ่งจัดการเรื่องอะไรบางอย่าง ทำให้ยุ่งมาก ดังนั้นสองสามวันนี้จึงไม่ได้มารบกวนมู่เซิ่ง เอาของกินมาวางไว้หน้าห้อง พอมู่เซิ่งหิวก็เอาเข้าไปกินได้

รูนห้าอันนี้ อันหลังๆ ยิ่งยุ่งยาก แม้ตอนนี้มู่เซิ่งสามารถควบคุมพลังเสวียนได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็ใช้เวลาไปสองวันเต็มๆ ถึงจะติดตั้งรูนสามอันหลังสำเร็จ สองสามวันนี้เขาล้มเหลวจนนับครั้งไม่ได้แล้ว เขาวาดไม่รู้กี่รอบ จดจำรูปร่างของรูนห้าอันนี้ขึ้นใจแล้ว ถึงหลับตาเขาก็สามารถวาดออกมาได้ อีกทั้งยังไม่ผิดพลาดเลยด้วย

“รูนอันที่ห้า” มู่เซิ่งถอนหายใจเบาๆ

เมื่อตวัดพู่กันวาดลงไป ในที่สุดรูนอันที่ห้าที่วาดบนหลังมือก็เสร็จสิ้น จากนั้นหายไปจากบนหลังมือ แม้หายไปแล้ว แต่มู่เซิ่งสัมผัสได้จากพลังเสวียนในตัว เขาสัมผัสถึงรูนแต่ละอันที่วาดลงบนมือได้อย่างชัดเจน

รูนห้าอันนี้ลักษณะเหมือนสายฟ้าบนท้องฟ้า หรือไม่ก็แสดงถึงดวงตาดุดันของเทพเซียน แต่ที่ไม่แตกต่างกันคือเป็นตัวแทนของพลังสายฟ้า เมื่อมู่เซิ่งหลับตาลง รูนแต่ละอันส่องแสงสายฟ้าเคลื่อนไหวอยู่บนมือเขา

“ขั้นสุดท้ายแล้ว” สัมผัสถึงรูนบนฝ่ามือ มู่เซิ่งรวบรวมสมาธิ เอาสายตาจดจ่อไปที่หน้าต่อไปของหนังสือในหัวสมอง

หลังจากนั้นเขาทำตามคำอธิบายของตำราหมัดห้าสายฟ้า เอารูนทั้งห้าวางลงในมือตามลำดับ

“ครืนนน”

วินาทีที่เรียงรูนเรียบร้อย

หลังมือเขาสั่นเบาๆ รูนทั้งห้าทับซ้อนกัน เหมือนภาพที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน พอดีกันมาก เหมือนเสียบเข้าไปในรูกุญแจ รูนทั้งห้าอันเหมือนไฟฟ้าดูดเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน จากนั้นพลังเสวียนจำนวนมากในตัวมู่เซิ่งโดนดึงออกมาและถูกส่งเข้าไปในรูน

“หึ” พลังเสวียนจำนวนมากโดนดึงออกไป มู่เซิ่งที่มีพลังเสวียนพลุ่งพล่านในตัว ยังอดส่งเสียงหึออกมาไม่ได้

วินาทีต่อมา

สัญลักษณ์สายฟ้าที่ก่อตัวจากรูนทั้งห้าปรากฏอยู่ในหมัดของเขา บนสัญลักษณ์นี้มีแสงสายฟ้าพาดผ่านไปมาอย่างต่อเนื่อง ดูแล้วมีพลานุภาพน่ากลัวมาก

“ในที่สุดก็ฝึกขั้นแรกของตำราหมัดฟ้าสายฟ้าสำเร็จแล้ว” มู่เซิ่งมองสัญลักษณ์ในฝ่ามือแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้

เขาใช้เวลาและพลังงานกับมันมากจริงๆ

หลังจากนั้นมู่เซิ่งเดินออกมาที่ดาดฟ้าเรือเพียงคนเดียว

ตอนนี้ค่ำแล้ว บนดาดฟ้าเรือไม่มีใครสักคน

“พรึ่บ!”

มู่เซิ่งลองเคลื่อนไหวพลังเสวียนส่งเข้าไปในหมัด จากนั้นโจมตีหมัดออกมา พลังแข็งแกร่งระเบิดออกจากฝ่ามือ จากนั้นถังไม้ที่อยู่ไกลออกไปหลายเมตรระเบิดเสียงดังโครมคราม

“แข็งแกร่ง!” ดวงตาทั้งสองข้างของมู่เซิ่งเป็นประกาย “ตำราหมัดห้าสายฟ้า สามารถควบคุมสายฟ้าและปล่อยออกมาได้ มีพลังโจมตีแข็งแกร่งไกลหลายเมตร มิน่าล่ะถึงถูกซ่อนไว้ในพื้นที่ลึกลับมาโดยตลอด อีกทั้งฉันยังฝึกแค่ขั้นแรก ถ้าฝึกจนถึงขั้นสูงสุด ควบคุมสายฟ้าเทพได้ ถึงเป็นนักเสวียนระดับเก้าก็ต้องโดนระเบิดจนตาย!”

นักเสวียนแบ่งตามระดับขั้น สูงสุดคือนักเสวียนระดับเก้า ตามตำนานเมื่อฝึกฝนถึงขั้นสูงสุด จะสามารถเข้าสู่แดนพิเศษ แต่นี่เป็นเพียงตำนานที่เล่าต่อกันมา เพราะตอนนี้ที่รู้กันผู้ฝึกฝนระดับสูงสุดแค่นักเสวียนระดับสี่เท่านั้น

แน่นอนว่ามียอดฝีมือลึกลับที่วิทยายุทธสูงกว่านี้อยู่หรือเปล่า เรื่องนี้คนบนโลกไม่มีใครรู้

หลังฝึกตำราหมัดห้าสายฟ้าสำเร็จ ในที่สุดมู่เซิ่งก็ได้นอนอย่างเต็มที่ เช้าวันต่อมาเขาไปหาเหยาเผิง ศึกษาเส้นทางแผนที่ขุมทรัพย์ที่เหยาเผิงนำมาให้อีกครั้ง

จนกระทั่งบ่ายสอง เรือสำราญหยุดที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งชั่วคราว

แต่หลิวต้าเลี่ยงกับเหมียวหงอวี่กลับเดินลงจากเรือสำราญและอยู่บนเกาะ เอาเรือคายักที่เตรียมเอาไว้ออกมา มุ่งหน้าไปอีกทางหนึ่ง

“บังเอิญจริงๆ”

มู่เซิ่งมองไปทางเหมียวหงอวี่ อดถอนหายใจเบาๆ ออกมาไม่ได้ เดิมทีเขาไม่อยากยุ่งเรื่องของพวกเขา แต่ดูเหมือนตอนนี้เส้นทางที่พวกเขาจะไป เหมือนกับที่อยู่ในแผนที่ขุมทรัพย์ที่เหยาเผิงให้เขา

ไม่แน่นี่อาจเป็นแผนที่ขุมทรัพย์อันเดียวกัน

ตอนนี้มีคนแก่สองคนที่ดูเหมือนเซียนเดินลงจากเรือสำราญ บุคลิกดูไม่ยอมคน เดินเอามือไพล่หลังลงจากเรือสำราญ

และด้านหลังพวกเขา มู่เซิ่งยังเห็นใครบางคนที่ดูคุ้นเคย……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง