“ปรมาจารย์มู่ ไว้ชีวิตด้วยเถอะ ฉันรู้ว่ากระทำผิดไปแล้ว ฉันรู้ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว”
ปรมาจารย์ก่วนคุกเข่าลงไปบนพื้น และพูดขึ้นอย่างร้อนใจเป็นที่สุดว่า: “ปรมาจารย์มู่ อย่าฆ่าฉันเลย อาจารย์ของฉันก็เป็นนักเสวียนเหมือนกันกับท่าน พวกท่านต่างก็อยู่ในกลุ่มพันธมิตรนักเสวียน ที่ต้องพบเจอหน้ากันอยู่แล้ว เพียงแค่ท่านยอมไว้ชีวิตฉัน ฉันก็เต็มใจที่จะนำยา ไม่ ยาเข้าสู่ระดับมอบให้กับท่านเพื่อเป็นการไถ่โทษ! ”
ยาเข้าสู่ระดับ!
ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจโดยพร้อมเพรียงกัน ปรมาจารย์ก่วนผู้นี้เพื่อรักษาชีวิต ถึงกับยอมเสนอเงื่อนไขที่ยิ่งใหญ่ให้เลยทีเดียว!
ปรมาจารย์ก่วนไม่ได้สนใจสีหน้าท่าทางของทุกคนที่แสดงออกมา โดยได้พูดอ้อนวอนขอร้องต่อว่า:
“ปรมาจารย์มู่ เพียงแค่ท่านยอมที่จะไว้ชีวิตฉัน ฉันรับรองว่า ต่อไปจะเป็นลูกน้องปรนนิบัติรับใช้ท่าน อย่างซื่อสัตย์ไม่เป็นอื่น เพียงแค่ท่านพูดคำเดียว ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ฉันก็จะไม่ปฏิเสธเลย! ”
“หากไว้ชีวิตฉัน ท่านยังสามารถได้ปรมาจารย์บู๊คนหนึ่งมาเป็นลูกน้องรับใช้ หากฆ่าฉันแล้ว อาจารย์ของฉันก็คงจะเกิดความโมโหอย่างแน่นอน ปรมาจารย์มู่ ท่านพิจารณาไตร่ตองให้ถี่ถ้วนนะ”
ปรมาจารย์ก่วนก้มศีรษะคำนับไปที่พื้นอย่างไม่หยุด จนพื้นดินบริเวณใต้ฝ่าเท้าของเขา แทบจะมีรอยยุบลงไปแล้ว
คำพูดของเขานั้น มีทั้งจริงและเท็จ
อาจารย์ของเขา ซานเว่ยเต้าหยิน เป็นนักเสวียนจริง และเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตรนักเสวียนด้วย แต่มีสถานะไม่สูง ในบรรดาพวกนักเสวียนนั้น ก็เป็นเพียงแค่นักเสวียนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง อีกทั้ง ยาเข้าสู่ระดับสำหรับอาจารย์ของเขาแล้ว ก็ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ปรมาจารย์ก่วนผู้นี้จะมีคุณสมบัติพอที่จะไปนำมาได้ที่ไหนล่ะ
แต่เขาในตอนนี้ ไม่ได้สนใจอะไรมากอีกต่อไปแล้ว
ตอนที่สิ่งที่เขาพูด สิ่งที่เขากระทำทั้งหมด ก็เพื่อต้องการจะมีชีวิตรอดเท่านั้น
“เพียงแค่ฉันสามารถกลับไปได้......” ปรามาจารย์ก่วนกัดฟันแน่น
“เพียงแค่ฉันสามารถกลับไปได้ ฉันก็จะบอกกับซานเว่ยเต้าหยินผู้เป็นอาจารย์ของฉันว่า เตียวซุนตายลงไปด้วยน้ำมือของมู่เซิ่ง แม้ว่าอาจารย์ของฉันจะมีพลังความสามารถที่ไม่สูงนัก แต่ในกลุ่มพันธมิตรนักเสวียน เขาได้รู้จักผูกมิตรกับนักเสวียนที่มีวิทยายุทธระดับสูงหลายคน หากพวกเขาลงมือแล้ว มู่เซิ่งก็จะต้องตายลงเป็นแน่! ”
ปรมาจารย์ก่วนได้แอบซ่อนความปรารถนาที่จะอยู่รอดและเจตนาสังหารในสายตาของเขา เอาไว้ในใจ
นี่คือโอกาสความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวที่เขาจะสามารถมีชีวิตรอด!
“ยาเข้าสู่ระดับหนึ่งเม็ด และลูกน้องรับใช้คนหนึ่งที่เป็นปรมาจารย์บู๊ เงื่อนไขที่นายเสนอมานี้ มันช่างน่าดึงดูดใจยิ่งนัก......” มู่เซิ่งเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างสงบ
ขณะที่ปรมาจารย์ก่วนเพิ่งจะดีใจขึ้นได้แวบหนึ่ง นึกว่าตนเองสามารถที่จะมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยแล้ว ก็พลันมีเสียงที่เยือกเย็นจับใจของมู่เซิ่งดังขึ้นที่ข้างหู
“แต่น่าเสียดายที่ พวกสิ่งเหล่านี้ในสายตาของฉันแล้ว ไม่มีคุณค่าอะไรเลย”
“ปรมาจารย์มู่! ” ปรมาจารย์ก่วนได้ยินที่มู่เซิ่งพูดแล้ว ก็กระวนกระวายใจขึ้น นี่เป็นถึงยาเข้าสู่ระดับ และลูกน้องรับใช้ที่เป็นปรมาจารย์บู๊เลยนะ ไม่ว่าในสายตาของนักเสวียนคนใดคนหนึ่ง ก็คงยากที่จะปฏิเสธ แต่ไม่นึกว่ามู่เซิ่งจะพูดว่าไม่มีคุณค่าอะไรกับเขาเลย?
เขาไม่รู้เลยว่า พวกสิ่งของเหล่านี้ในสายตาของมู่เซิ่งนั้น มันไม่ถือว่าพิเศษสำคัญอะไรเลย
ยาเข้าสู่ระดับ? สำหรับโลกภายนอกแล้ว มีมูลค่าที่สูงมาก แต่มู่เซิ่งเองสามารถที่จะกลั่นยาระดับสองซึ่งเป็นขั้นที่สูงกว่าได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจพวกสิ่งของเหล่านี้เลย
สำหรับลูกน้องรับใช้ที่เป็นปรมาจารย์บู๊ สำหรับมู่เซิ่งแล้ว นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องตลกขึ้นไปอีก
คนชั่วที่คิดวางแผนให้ร้ายคนอื่นเป็นประจำ แม้แต่ศิษย์น้องของตนก็ยังเอามาขายประจานได้ ถ้าหากให้มาอยู่ข้างกายแล้ว นั่นคงจะเป็นภัยพิบัติที่แอบแฝงเป็นแน่ อีกอย่างหนึ่ง มู่เซิ่งเองก็อยากจะใช้วิธีการพิเศษ เพื่อให้พวกเตาจั๋วเหล่านั้น เลื่อนชั้นขึ้นสู่ขั้นแดนปรมาจารย์บู๊ ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งไม่ต้องการปรมาจารย์ก่วนแล้ว
“ปรมาจารย์มู่ ท่านห้ามฆ่าฉันเด็ดขาด หรือว่าท่านไม่กลัวอาจารย์ของฉันหรืออย่างไร เขา......” ปรมาจารย์ก่วนยังคิดที่จะพูดอะไรต่ออีก
“ตุบบ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...