“คุณพ่อ เรื่องพรรค์นี้ คุณพ่อจะฟังความข้างเดียวได้ไงครับ?” ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะรู้อยู่เต็มอกว่าลูกชายของตนเองเป็นคนลงมือทำ แต่เจียงไห่เชาก็ยังแสดงท่าทางปฏิเสธคัดค้าน และคอยพูดอยู่ทางด้านข้าง
“ใช่ คุณพ่อ คุณพ่ออย่าใส่ร้ายป้ายสีให้คนดีๆสิ เรื่องนี้ต้องเป็นนังแพศยาเจียงหว่านเป็นคนลงมือทำแน่” เฉินเสว่กล่าว
“ใช่ครับคุณปู่ เจียงมู่หลงอย่างผมไม่มีวันทำเรื่องพรรค์นั้นแน่นอน ถ้าผมเป็นคนประเภทนั้น ผมจะนักคุกเข่าเพื่อเป็นการขอโทษเจียงหว่าน!” จู่ๆ เจียงมู่หลงก็ตะเบ็งคอด้วยความโกรธเคืองต่อหน้าท่านสาม ดวงตาแดงก่ำ ตะคอกเสียงดังลั่น
เมื่อเห็นภาพเช่นนั้น ท่านสามจึงเกิดความลังเลขึ้นมาทันที
เขารู้สึกว่าเจียงหว่านเป็นคนซื่อสัตย์ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แต่วันนี้มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น การเผชิญหน้ากับผลประโยชน์ มีความเป็นไปได้มากที่เจียงหว่านจะทำตามในสิ่งที่เจียงมู่หลงพูดถึง การเรื่องใส่ร้ายป้ายสี
“คุณพ่อ มีความเป็นไปได้มากที่เจียงหว่านเป็นคนทำ”
จู่ๆ เจียงเถ้อฉินเอ่ยปากพูด
เขามีศักดิ์เป็นน้าเขยของเขา ยืนอยู่ทางฝั่งเจียงมู่หลงของตระกูลเจียงมาโดยตลอด
“ในเมื่อเรื่องที่ลักลอบสอดไส้วัสดุก็ทำมาหมดแล้ว ตอนนี้การโยนขี้ให้กับเจียงมู่หลง ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติใช่มั้ยล่ะ?”
“ไม่ผิด เพื่อหลบเลี่ยงความรับผิดชอบ มีเรื่องไหนบ้างที่จะทำไม่ได้ล่ะ?” หานเสี่ยภรรยาของเจียงเถ้อฉินเป็นคนพูด
“ฮ่าๆ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจียงหว่านจะเป็นคนประเภทนี้”
บรรดาญาติพี่น้องต่างซุบซิบนินทากันอย่างเซ็งแซ่ พลังใช้สายตาเชือดเฉือนมองมาที่ตัวเจียงหว่านกันอย่างพร้อมเพรียง
เจียงมู่หลงได้ยินเสียงทุกคนต่างเข้าข้างเขา มุมปากของเขาแสยะยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลางจ้องมองมาทางเจียงหว่านอย่างน่ากลัว พร้อมทั้งแอบคิดในใจ หึๆ ถึงแม้แกให้เฮยเจียวช่วยแล้วไง? แกคิดว่าบีบเคล้นลูกน้องฉันไม่กี่คน ก็สามารถทำให้คุณปู่รับรู้ในสิ่งที่ฉันทำได้แล้วเหรอ? สถานการณ์นี้ เกรงว่าให้แกกระโดดลงไปล้างเนื้อล้างตัวในแม่น้ำหวงเหอก็ล้างมลทินไม่ออกหรอก! เจียงหว่าน แกสู้ฉันไม่ชนะหรอก!
ส่วนเรื่องที่เฮยเจียวคอยยืนขนาบข้างมู่เซิ่ง เจียงมู่หลงเขาแทบไม่สนใจเลย ลูกน้องหนึ่งในกุนซือหลักของท่านหลงผู้ทรงอิทธิพล ไอ้กระจอกคนนี้มันไปเชิญมาได้ยังไง?”
“ผมรู้ว่าคุณจะไม่ยอมรับ”
มุมปากมู่เซิ่งฉีกยิ้ม ราวกับคาดเดาเอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ที่เจียงมู่หลงจะเกิดข้ออ้างแบบนี้ขึ้น
“ไอ้กระจอก ใครให้มึงพูดแทรก?” เจียงมู่หลงย่นคิ้ว “นี่มันเรื่องของตระกูลเจียง มึงเกี่ยวข้องหาพระแสงอะไรด้วย? รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อมู่เซิ่งเผชิญหน้ากับการยั่วยุ เขาได้แต่ยิ้มอย่างเรียบเฉย “เกรงว่าอีกสักพัก คุณคงต้องนั่งคุกเข่าขอโทษภรรยาผมแล้วสิ”
เมื่อสิ้นเสียง เฮยเจียวที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง ก็ดึงผ้าคลุมศีรษะของบุคคลที่นั่งอยู่กับพื้นนั้นออกมา
ตอนที่เจียงมู่หลงมองเห็นคนนั้น สีหน้าเปลี่ยนจนดูย่ำแย่มากลงถนัดตา หวางกุ้ย! เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เมื่อวานโทรศัพท์หาก็ไม่ติด ปรากฏว่าโดนเฮยเจียวจับตัวมางั้นเหรอ!
เจียงมู่หลงตกใจมาก และยังแสดงความรู้สึกอยู่ไม่สุขอย่างท่วมท้นออกมาพร้อมกัน
“ทำอะไรไว้บ้าง พูดเอาเองเลย” เฮยเจียวใช้เท้าข้างหนึ่งเตะลงบนแผ่นหลังหวางกุ้ย และพูดออกมา
“ผมพูดแล้ว ผมจะพูดตอนนี้เลย”
หวางกุ้ยยอมศิโรราบกับกลยุทธ์ของมู่เซิ่งตั้งแต่แรกแล้ว จึงรีบพูดสวนทันควัน “ท่านสาม เรื่องเหล่านี้เจียงมู่หลงให้ผมเป็นคนทำทั้งหมด เขาให้ผมยัดวัสดุไร้คุณภาพผสมอยู่ในวัสดุของเจียงหว่าน ก็เพื่อจะทำให้เจียงหว่านอับอายขายขี้หน้าจนชื่อเสียงป่นปี้!”
“ไอ้เชี่ยมึงโกหก!” เจียงมู่หลงกระวนกระวายใจ พลันชี้มาทางหวางกุ้ย “คุณปู่ มันก็เหมือนกับพวกนั้น เป็นคนที่เจียงหว่านหามาเพื่อต้องการใส่ร้ายป้ายสีผม!”
“ใส่ร้ายป้ายสีมึงเหรอวะ? มึงคู่ควรมั้ย?”
หวางกุ้ยดูหมิ่น พลางทำหน้าดำหน้าแดงใส่
ถ้าไม่ใช่ไอ้คนเลวทรามคนนี้ อย่างน้อยเขาก็ไม่ตกอยู่ในสภาพนี้หรอกใช่มั้ย? ขนาดพี่ชายของเขาก็ไม่รอดได้เลย เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเวลานี้ ล้วนเป็นความผิดของเจียงมู่หลงทั้งสิ้น!
เขาอดใจไม่ไหวจนอยากกัดกระดูกเจียงมู่หลงให้ขาดคาปาก
“เจียงหว่าน แกไปหาพวกเขามาใส่ร้ายป้ายสีฉันใช่มั้ย? ฉันจะบอกแกให้นะ คนเหล่านี้ฉันไม่รู้จัก แล้วฉันจะไปสมรู้ร่วมคิดกับพวกมันได้ยังไง?” เจียงมู่หลงเบนหน้า และจ้องหน้าเจียงหว่านพร้อมทั้งพูดอย่างโหดเหี้ยม “นังน้องสาวตัวดี แกนี่มันต่ำช้าจริงๆ!”
“ไม่รู้จักเหรอ? เจียงมู่หลง ไอ้ระยำอย่างมึงนี่แถข้างๆ คูๆ เลยเหรอวะ? บันทึกการโทรเข้าออกจากโทรศัพท์ มันยังบันทึกเบอร์ของมึงโทรเข้ามาตั้งสิบกว่าสายนะเว้ย!” หวางกุ้ยกัดฟันพูด
เมื่อสิ้นเสียง เจียงมู่หลงรู้สึกตื่นตระหนกที่สุด
จู่ๆ หวางกุ้ยก้มหน้าลง และพูดแกมวิงวอนกับเฮยเจียว “เฮียเฮยเจียว รบกวนเฮียช่วยหยิบโทรศัพท์ให้ผมที มันอยู่ที่กระเป๋ากางเกงทางด้านซ้ายของผม”
เขาไม่พูดไม่จา พลางเหล่ตามองมู่เซิ่ง หลังจากได้รับการอนุญาตจากอีกฝ่ายแล้ว จึงปลดล็อกโทรศัพท์ของหวางกุ้ย และเปิดไปยังบันทึกการโทรเข้าออกด้วยหน้าตาไร้ความรู้สึก
บันทึกการโทรเข้าออกสิบกว่าสายของเมื่อคืนนี้ ซึ่งโทรมาจากโทรศัพท์ของเจียงมู่หลง จนเห็นเต็มสองตา
“เจียงมู่หลง มึงมีอะไรจะแก้ต่างมั้ย?” หวางกุ้ยพูดด้วยรอยยิ้มน่าหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...