ตุบบบ!
ร่างกายขนาดใหญ่ร่วงตกลงมา สะเทือนจนพื้นดินเกิดการสั่นไหวเล็กน้อย
บอดี้การด์ที่อยู่ทั้งสองข้างก็ยังคงยืนอยู่กับที่ และตะลึงงันไปหมด
นี่คือลูกเขยที่มาอยู่กับฝ่ายหญิงที่ไม่ได้เรื่องที่สุดในเมืองเจียงหนานไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้เก่งกาจมากขนาดนี้?
บอดี้การ์ดคนหนึ่งตั้งสติกลับคืนมาได้ เมื่อมองเห็นมู่เซิ่งกำลังจะเดินไป ก็รีบกัดฟัน และชกหมัดไปที่ศีรษะของเขาอย่างรุนแรง “แม่งสิ! ยังกล้าที่จะลงมือก่อนอีก? รนหาที่ตายจริง ๆ! ”
พลังหมัดโหมกระหน่ำ
มู่เซิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย และก็เคลื่อนไหวในทันที
ความเร็วของเขานั้นเหนือกว่าบอดี้การ์ดคนนี้ ขณะที่พลิกตัวหลบหมัดนี้ มืออีกข้างหนึ่ง ก็ราวกับผีสาง แตะไปที่บนไหล่ของบอดี้การ์ด
นิ้วทั้งห้าออกแรงบีบเต็มที่
แคร็กก! แคร็กก! แคร็กก!
เสียงของกระดูกแตกหักราวกับเสียงถั่วระเบิด ดังขึ้นในทันที
“อ้า มือของฉัน! มือของฉัน! ”
บอดี้การ์ดมีสีหน้าที่เจ็บปวดทรมานอย่างที่สุด หมัดที่เขาชกออกไปนั้น เวลานี้คิดไม่ถึงว่าจะเหมือนกับเส้นหมี่ ที่อ่อนยวบวางอยู่บนไหล่ เมื่อบอดี้การ์ดอีกสองคนมองเห็น ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจลึก แขนข้างนี้ของเขานั้น คิดไม่ถึงว่าจะถูกหักลงอย่างซึ่งหน้า
นี่เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวระดับไหนกันเชียว?
เขาก็แค่เป็นลูกเขยที่มาอยู่กับฝั่งผู้หญิงเท่านั้นเอง!
บอดี้การ์ดที่เหลือต่างยืนอยู่ที่สองข้าง มองดูคนที่ตายไปหนึ่งและบาดเจ็บอีกหนึ่งบนพื้นแล้ว ก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหว
มู่เซิ่งไม่แม้แต่จะมองไปที่พวกเขา ยกขาขึ้นแล้วก็ข้ามผ่านร่างของบอดี้การ์ดนั้นไป
เวลานี้ ภายในห้องโถง
เสียงโห่ร้องยินดีก็ยังคงมีอยู่อย่างไม่หยุด เพียงแต่สีหน้าท่าทางของจางเหวินเจี๋ยในตอนนี้นั้น มันช่างย่ำแย่อย่างที่สุด
“เจียงหว่าน ตกลงว่าฉันเทียบไม่ได้กับไอ้ขยะนั่นตรงไหนกันแน่? ”
ทุกคนสีหน้าแข็งทื่อไปกันหมด
จางเหวินเจี๋ย เหมือนจะโมโหขึ้นแล้ว
“เจียงหว่าน เธอรีบตอบรับไปสิ โอกาสดีแบบนี้แล้ว หากพลาดพลั้งไปก็จะไม่มีอีกแล้วนะ”
“ใช่เลย ต่างก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมทั้งนั้น เดิมทีเขาก็เคยตามจีบเธอ ตอนนั้นเธอเองก็ยังชื่นชอบเขามากด้วยไม่ใช่เหรอ? ”
“เขาตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีมาเป็นเวลานาน หากเธอกลับปฏิเสธ จะไม่รู้สึกผิดต่อเขาเลยหรืออย่างไร? “
เพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมพากันตำหนิ ในสายตาของพวกเขาแล้ว ต่างก็รู้สึกว่าเจียงหว่านไม่เข้าใจหลักการเหตุผลอะไรเสียเลย
เจียงหว่านมีสีหน้าเย็นชา ความรู้สึกดีต่อจางเหวินเจี๋ยที่เคยอยู่ในจิตใจนั้น ได้สูญสิ้นไปตั้งนานแล้ว
เพื่อทำให้ตัวเธอตอบตกลง จึงไม่ลังเลที่จะตีสนิทสานสัมพันธ์กับแม่ของเธอและเพื่อนร่วมชั้นรอบกายเธอให้มาเข้าข้าง โดยการบีบบังคับลักษณะนี้ ช่างไม่ต่างกับคนหน้าด้านที่ไร้เหตุผลเลย
“นายถามฉันว่านายเทียบไม่ได้กับมู่เซิ่งตรงจุดไหนเหรอ? ”
เจียงหว่านสีหน้าโกรธจัด และพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “ในสายตาของฉันแล้ว ไม่ว่าจุดไหนนายก็เทียบกับเขาไม่ได้เลย! ”
“คุณ----”
จางเหวินเจี๋ยสีหน้าตกตะลึง แล้วก็ขาวซีดไปในที่สุด
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า เจียงหว่านจะหลงรักไอ้ขยะนั่นมากขนาดนี้เลย!
“คุณนี่ช่างแย่มากที่ไม่รู้จักรองรับน้ำใจของคนอื่นเลย! คุณรู้ไหมว่าที่ฉันตามจีบคุณนั้น ต้องเสียเงินไปมากเท่าไร? “ จางเหวินเจี๋ยชี้ไปที่เจียงหว่านแล้วตำหนิอย่างโกรธแค้น “ในเมื่อคุณไม่ตกลง พวกสิ่งของเหล่านี้ คุณจะต้องชดใช้ให้กับฉัน! ”
“ฉันไม่ได้ใช้ให้นายจัดเตรียมสิ่งของพวกนี้สักหน่อย! ”
เจียงหว่านพูดขึ้นอย่างเย็นชา แววตาเยือกเย็น ยิ่งหนักขึ้นหนักขึ้นไปอีก
คนที่ตามจีบถูกปฏิเสธ กลับกลายเป็นว่าเธอจะต้องเสียค่าชดใช้เองอย่างนั้นเหรอ?
ความรู้สึกของเธอต่อจางเหวินเจี๋ยนั้น ย่ำแย่ลงไปถึงจุดขีดสุด หากรู้ล่วงหน้า ก็จะไม่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนร่วมชั้นแล้ว
“แม่ง วันนี้คุณจะต้องชดใช้เงิน หรือไม่ก็ตอบตกลง โดยที่ไม่มีตัวเลือกอย่างอื่นอีก! ” จางเหวินเจี๋ยโมโหเดือดดาลขึ้น แล้วก็เอื้อมมือไปจับตัวของเจียงหว่านเอาไว้
เปรี๊ยะ!
ยื่นมือออกมาได้เพียงครึ่งเดียว ก็ถูกคนหนึ่งจับเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ทุกคนหันหน้ากลับมาด้วยความตะลึง คิดไม่ถึงว่าจะเห็นมู่เซิ่ง ยืนยิ้มอยู่ข้างเจียงหว่าน
“ไอ้ขยะ? นายแม่งเข้ามาได้อย่างไรกัน? ”
จางเหวินเจี๋ยตกใจ ทั้ง ๆ ที่เขาได้เชิญบอดี้การ์ดมาคุ้มกันแล้ว แต่ทำไมถึงได้ปล่อยให้ไอ้ขยะนี้เข้ามาด้านในได้?
“อาศัยช่วงจังหวะนี้ที่ฉันยังไม่โมโห รีบไสหัวออกไปซะ! ”
มู่เซิ่งไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เดินขึ้นมาข้างหน้า และยืนขวางอยู่ที่ด้านหน้าของเจียงหว่าน
เมื่อเห็นมู่เซิ่ง เจียงหว่านก็อดที่จะแสดงสีหน้าเย็นชาไม่ได้ และส่งเสียงฮึขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับพูดว่า “ฮึ! ทำไมนายถึงได้มาช้าขนาดนี้! ”
ถ้าหากมู่เซิ่งมาถึงเร็วกว่านี้สักหน่อย เธอเองก็คงไม่ต้องถูกจางเหวินเจี๋ยกวนใจอย่างนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง
Thanks...
มีต่อมั้ยครับ...