มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง นิยาย บท 85

จนถึงช่วงค่ำ พวกอู๋คุนยังทำงานจนเหงื่อแตกเต็มตัว ถึงพวกเขาแต่ละคนเหนื่อยจนมือทั้งสองข้างสั่นไปหมด แต่ก็ยังทุ่มแรงทั้งหมด ขนอิฐมาไว้บนรถเข็นปูน

“อู๋คุน เราไปก่อนนะ ถ้านายรู้สึกเหนื่อย ก็รีบกลับเถอะ” มู่เซิ่งเห็นท้องฟ้ามืดแล้วจึงเอ่ยขึ้น

เป็นลูกคนรวยที่ผิวบอบบาง ทำงานกลางแดดได้นานขนาดนี้ ขนาดมู่เซิ่งยังรู้สึกตกใจในความขยันของอีกฝ่าย

ใครจะไปรู้ว่าเมื่ออู๋คุนได้ยินคำนี้ เขาดีใจเป็นลิงโลด เช็ดหน้าผากที่มีเหงื่อเต็มไปหมด รีบขนอิฐไปเรียงไว้บนรถเข็นปูน พูดด้วยความฮึกเหิมว่า “คุณชายมู่ ผมไม่เหนื่อยครับ!”

เจียงหว่านเห็นแล้วถึงกับอ้าปากค้าง

“มู่เซิ่ง นี่คืออู๋คุน ลูกชายคนเดียวของตระกูลอู๋จริงเหรอ” เจียงหว่านนั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ยังตั้งสติไม่ได้ เธอถามอย่างไม่อยากเชื่อ

“ตอนนี้ใช่ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นลูกชายคนเดียวหรือเปล่า คุณต้องถามอู๋หยู่เหวิน” มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม

เจียงหว่านทำปากเบ้ เธอเคยติดต่อกับตระกูลอู๋อยู่ครั้งหนึ่ง จำได้อยู่แล้วว่าอู๋คุนเป็นใคร สาเหตุที่เธอถามแบบนี้ เพราะสงสัยว่ามู่เซิ่งรู้จักอู๋คุนได้ยังไง อีกทั้งยังสามารถทำให้อู๋คุน ทำงานที่ไซต์งานก่อสร้างอย่างกระตือรือร้นเช่นนี้

แต่ดูท่ามู่เซิ่งแล้ว ถึงเธอถามไป ก็คงไม่ได้คำตอบอะไร

“หึ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันต้องค้นพบตัวตนที่แท้จริงของนาย” เจียงหว่านส่งเสียงหึอย่างเย็นชา

มู่เซิ่งหัวเราะ ไม่ได้สนใจอะไร เขาพูดว่า “อาหารที่บ้านจะหมดแล้ว ตอนนี้คุณจะกลับบ้านไหม หรือจะให้ผมลงข้างทาง จะได้ไปซื้ออาหารในตลาด”

“แบบนี้นายก็ลำบากสิ ยังไงตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรทำ ไปกับนายดีกว่า” เจียงหว่านเอ่ยขึ้น “นายทำอาหารทุกวันก็เหนื่อยแย่แล้ว คืนนี้ให้ฉันทำละกัน”

“ได้สิ”

สามปีมานี้ มู่เซิ่งไปซื้ออาหารที่ตลาดคนเดียวตลอด ครั้งนี้ทั้งสองคนไปด้วยกัน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ครั้งแรก เขาชะงักไปแล้วพูดต่อ “อีกทั้งนานขนาดนี้แล้ว ผมยังไม่เคยชิมอาหารฝีมือคุณเลย”

“งั้นนายลาภปากแล้วล่ะ ฝีมือการทำอาหารของฉันไม่ธรรมดาเลยนะ” เจียงหว่านเหวี่ยงหมัดไปมา ความมั่นใจเต็มเปี่ยม

“ฮ่าๆๆ งั้นผมเป็นผู้ช่วยคุณเอง”

มู่เซิ่งพูดอย่างคาดหวัง

ทั้งสองขับรถมายังตลาดบริเวณใกล้ๆ รถคันละล้านกว่าจอดลงหน้าทางเข้า ดึงดูดสายตาผู้คนจำนวนไม่น้อย

มู่เซิ่งคุ้นเคยกับตลาดแห่งนี้มาก อีกทั้งแม่ค้าหลายร้านเป็นฝ่ายเอ่ยทักมู่เซิ่งด้วย ภาพนี้ทำให้เจียงหว่านสงสัยขึ้นในใจ ก่อนหน้านี้ไม่นานมู่เซิ่งยังดุดันมาก แต่ตอนนี้กลับเป็นกันเองสนิทสนมกับพ่อค้าแม่ค้า ความแตกต่างของฐานะ ทำให้ไม่เข้าใจจริงๆ

เมื่อกลับมาถึงบ้าน ห้องรับแขกว่างเปล่าไม่มีใครสักคน จ้าวหลินน่าจะออกไปแล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา

มู่เซิ่งกำลังจะเอาพวกผักไปล้างในห้องครัว อีกเดี๋ยวเจียงหว่านจะได้หั่นสะดวก

ขณะนั้นเอง เจียงหว่านรับโทรศัพท์ ไม่รู้คนที่โทรมาพูดอะไร แต่สีหน้าเจียงหว่านไม่ค่อยสู้ดีนัก

เธอถอนหายใจแล้วพูดกับมู่เซิ่งว่า “มู่เซิ่ง ไม่ต้องล้างผักแล้ว ใส่เข้าไปในตู้เย็นก่อน”

“มีอะไรเหรอ”

มู่เซิ่งมานั่งกับเจียงหว่าน

“แม่ฉันโทรมา เธอบอกว่าคืนนี้ไปเล่นไพ่ข้างนอก เจอครอบครัวของเหอโก๋ชิน เลยไปกินข้าวกับพวกเขา ยังโทรเรียกฉันไปด้วย” เจียงหว่านอธิบาย

เหอโก๋ชินเป็นเพื่อนเก่าของจ้าวหลิน เมื่อก่อนทั้งสองตระกูลสนิทสนมกันมาก เหอหรงลูกชายของเหอโก๋ชินชอบเจียงหว่าน จนกระทั่งมู่เซิ่งแต่งเข้ามาในตระกูลเจียง ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลก็เริ่มไม่ลงรอยกัน

เหอโก๋ชินเคยพาลูกชายเขามาที่ตระกูลเจียงหลายครั้ง อยากไล่มู่เซิ่งออกไป แต่ตอนนั้นมู่เซิงอดทนไม่พูดอะไรสักคำ เหอโก๋ชินทำอะไรไม่ได้ จึงทำได้เพียงกลับไป

ครั้งนี้ได้ยินว่าเหอหรงลูกชายเขา ได้เลื่อนตำแหน่งและเพิ่มเงินเดือน ได้เงินมาก้อนใหญ่ เปลี่ยนรถคันใหม่ที่ดีกว่า และซื้อบ้านใหม่ด้วย ดังนั้นจึงเรียกจ้าวหลินไปเยี่ยมชมบ้านพวกเขา

มู่เซิ่งกลับไม่สะทกสะท้าน เขาพยักหน้าพูดว่า “งั้นก็ไปเถอะ ผมอยู่บ้านก็ได้”

“ได้ยังไงล่ะ ทิ้งนายไว้ที่บ้านคนเดียวอีกแล้ว”

เจียงหว่านไม่อยากทำแบบนี้ ครั้งที่แล้วครอบครัวเธอไปทำสปา ทิ้งมู่เซิ่งไว้ที่บ้านคนเดียว หลังจากนั้นยังรบกวนให้เขาช่วย นี่ทำให้เธอรู้สึกผิดมากพอแล้ว ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็จะไม่ทิ้งให้มู่เซิ่งอยู่บ้านคนเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง