ฉู่หวูโยวค่อยๆ สะบัดมือของฉู่หรูเสว่ออก ดวงตาทั้งสองช้างมองไปยังมีดเล็กที่ดูงดงามปานนั้นที่เฟิงหยูหลันให้นางไว้เมื่อครู่ ค่อยๆ หยิบขึ้นมาเล่นไปมา
“ช่างเป็นมีดดีที่ยากจะเห็นได้เชียวจริงๆ” ริมฝีปากแดงของฉู่หวูโยวขยับขึ้น เสียงนุ่มนวลละมึน สีหน้าท่าทางปล่อยไปตามธรรมชาติของมัน ราวกับว่ากำลังชื่นชมงานศิลปะที่งดงามสุดๆ ชิ้นหนึ่งก็ว่าได้
ขอโทษ มันช่างน่าขำจริงๆ? สำหรับคนพวกนี้นางแม้แต่อธิบายก็ยังขี้เกียจเลย
แน่นอนนางก็ทราบเรื่องแบบนี้เป็นอย่างดี จะอธิบายไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ เพราะว่าใครต่างก็ไม่เชื่อว่าเฟิงหยูหลันจะกรีดใบหน้าของตัวเองให้บาดเจ็บได้
นางอยากจะยืนยันความบริสุทธิ์ก็ต้องมีหลักฐาน และหลักฐานนี้ก็กุมอยู่ในมือของนางนั่นเอง
องค์ชายเจ็ดซวนหยวนหรงโม่ที่เมื่อครู่ถูกฉู่หวูโยวอุปมาว่าเป็นนางจิ้งจอกที่ยั่วยวนให้หลงใหลยังคงนั่งอยู่ใต้พลับพลาไม่ไกลนักอยู่ ราวกับว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยในขณะที่อยู่รวมกันตรงนั้น
ได้เพียงเมื่อตอนที่ได้ยินคำพูดของฉู่หวูโยว ดวงตาทั้งคู่ของเขาก็ค่อยๆ เงยขึ้นมองข้ามไป
สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่มีดที่อยู่ในมือของฉู่หวูโยว ทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่
ฉู่หรูเสว่อึ้งไปชั่วขณะหนึ่งในทันใด ในตอนนี้ฉู่หวูโยวคิดไม่ถึงว่าจะสามารถดูนิ่งได้ถึงเพียงนี้ได้ เมื่อไหร่กันที่ฉู่หวูโยวมีความสามารถในการจัดการเรื่องเช่นนี้แล้วไม่ตระหนกบ้าง
ฉู่หรูเสว่คิดอยู่ว่าหากเป็นตัวนางเองที่พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ก็ไม่อาจจะนิ่งได้ปานนี้
ตอนนี้นางต้องยอมรับเลย ฉู่หวูโยวเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ อันที่จริงไม่ใช่ฉู่หวูโยวที่เซ่อๆ โล่เล่าคนนั้นเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว
ฉู่หรูเสว่แอบรู้สึกได้ว่าแผนการทั้งหมดในวันนี้ เกรงว่าจะไม่เป็นไปตามที่นางคิดว่าจะสมบูรณ์แบบปานนั้นได้
คิดถึงตรงนี้ ในใจของฉู่หรูเสว่ก็ตกตะลึงขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผู้คนต่างก็ถูกสีหน้าท่าทางที่ดูนิ่งเป็นธรรมชาติเช่นนี้ของฉู่หวูโยวทำให้ตะลึงกันไป ต่างมองไปที่นางด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
เฟิงหลิงหยุนเห็นมีดที่อยู่ในมือของฉู่หวูโยว ดวงตาทั้งสองครั้งก็ค่อยๆ มืดมนขึ้น ลึกลงไปยังดวงตานั้นหลบซ่อนความตื่นเต้นในนั้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว
แต่คำพูดของฉู่หวูโยวยิ่งทำให้เขาแอบตกตะลึงขึ้นในใจ
ก่อนหน้านี้ฉู่หวูโยวพูดถึงปัญหาของมีดมาก่อน เขาคิดว่าฉู่หวูโยวเพียงแค่พูดโดยที่ไม่มีเจตนาอะไร แต่ว่าตอนนี้ฉู่หวูโยวก็พูดถึงอีกครั้ง?
หรือว่าฉู่หวูโยวมองอะไรออกจริงหรือ?
ในใจของเฟิงหลิงหยุนก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาเช่นกัน
“ไร้ซึ่งยาที่จะสามารถช่วยได้แล้ว ทำร้ายคน ไม่เพียงแต่ไม่มีเจตนาสำนึกผิดคิดที่จะแก้ไขแม้แต่นิด คิดไม่ถึงว่ายังกล้าอวดดีเช่นนี้อีก เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าราชวงศ์ซวนหยวนไม่มีกฎมณเฑียรบาล?” ซวนหยวนหลี่อดที่จะเหงาปากไม่ได้ ก็เลยกล่าวตำหนิอีกครั้ง
“แต่ว่าพวกเรากลับไม่ได้เห็นฉู่หวูโยวกรีดเฟิงหยูหลันให้บาดเจ็บกับตาตัวเอง ต่างเป็นเพียงเฟิงหยูหลันเท่านั้นที่พูดเอง พวกเราก็ไม่อาจจะเชื่อคำพูดเพียงฝ่ายเดียวเช่นกัน” ท่ามกลางเสียงที่แตกแยกของผู้คนที่มีต่อฉู่หวูโยว ทันใดนั้นก็เกิดเสียงที่ไม่ลงรอยกันออกมา
บนในหน้าที่งดงามของซวนหยวนเฉินในตอนนี้เป็นการยากที่จะจริงจัง เขาไม่ใช่ว่าจะเอนเอียงช่วยใคร เขาเพียงแค่พูดตามเหตุการณ์ที่เห็นเท่านั้น: “ข้าคิดว่าก่อนที่จะสืบหาความจริง ทุกคนไม่ควรกล่าวตำหนิฉู่หวูโยวเช่นนี้”
“แม้ว่าจะเป็นนักโทษฆ่าคนตายก็ยังต้องผ่านการสอบสวนจึงจะสามารถดำเนินความผิดได้ ข้าคิดว่าทุกคนในตอนนี้ทำต่อฉู่หวูโยวเช่นนี้ไม่ยุติธรรม”
ฉู่หวูโยวมองไปยังหนุ่มน้อยที่เอ่ยปากพูดแทนนาง
หนุ่มน้อยงามมาก งามมากจริงๆ เป็นความงามที่ดูประณีตจนถึงจุดสุดยอดเช่นนั้น
หนุ่มน้อยที่งดงามช่างน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติจริงๆ
สาวน้อยอายุราวสิบหกสิบเจ็ดปี เป็นช่วงอายุที่กำลังจะ......เบ่งบานก็ไม่บานพอดี!
ช่างดีจริงๆ เลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: น้องนางชายาบ๊องป่วนนคร
555น้องแสบ...
รออ่านน้า ชอบ มากเลยค่ะทุกเรื่องที่แอดลง อ่ะ...