นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 20

เฟิ่งชิงเฉินพลันเงยหน้าขึ้นไปมองสำรวจเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า เด็กหนุ่มที่เอาแต่ตกตะลึงขยุ้มเสื้อของตนเอาไว้เพื่อให้ได้สติกลับมา

เฟิ่งชิงหลิงยักไหล่อย่างไม่แยแส พร้อมทั้งก้มหน้าลงมากินซุปงูราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามเดิม

นางไม่ต้องการจะให้เด็กหนุ่มตรงหน้าตกใจ

เพื่อทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย เฟิ่งชิงเฉินจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีสบายอารมณ์ว่า "เจ้ามากินอะไรก่อนเถอะ หากมีเรื่องอะไรค่อยพูดกันทีหลัง "

สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกเห็นอกเห็นใจเขาไม่น้อย

เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า มีแววตาที่ใสซื่อ จะอย่างไรย่อมไม่ใช่คนชั่วอย่างแน่นอน หลังจากที่เขารับเงินของนางไปแล้วนั้น ก็มาส่งงูให้ในทันที นั่นหมายถึงว่า เด็กหนุ่มตรงหน้ามีจิตใจที่เรียบง่าย

เมื่อรวมไปถึงความตื่นกลัวที่แสดงให้เห็นเป็นครั้งคราว แววตาของเขาราวกับลูกวางยิ่งนัก ที่แฝงไปด้วยความวิตกกังวลและความคาดหวัง

ยามที่นางมองเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้า เสมือนว่านางเห็นร่างของเฟิ่งชิงเฉินคนก่อนอยู่ในตัวของเขา

ทั้งถูกใส่ร้าย จนต้องเข้าสู่หนทางตาย

แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือ เฟิ่งชิงเฉินคนก่อนเลือกที่จะตาย แต่เด็กหนุ่มตรงหน้ เลือกที่จะต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่ำป

ผู้ที่คิดท้าทายต่อโชคชะตาเช่นนี้ สำหรับนาง ก็เหมือนเป็นการใช้มีดเล็กร้อย แต่สำหรับเด็กหนุ่มตรงหน้า มันเหมือนกับเป็นการเปลี่ยนชีวิตเขา

เสมือนกับที่ เสด็จอาเก้าได้มอบอาภรณ์ให้นางในวันนั้น

สิ่งที่เขายื่นมือออกมาหานางในวันนั้น ทำให้นางสามารถรักษาศักดิ์ศรีที่หลงเหลืออยู่ของตนเองเอาไว้ได้

นอกจากนี้ เฟิ่งชิงเฉินเกลียดรตราประทับร่างกายเช่นนี้มากนัก

คำว่า " ทาส " ถือเป็นการแบ่งชนชั้นวรรณะทางสังคม

เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนกับหยกที่สวยงาม เฟิ่งชิงเฉินมองอย่างไรก็ไม่เห็นว่าเขาจะเป็น "ทาส" ที่ใดเลย

แน่นอนว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเด็กหนุ่มผู้นี้ เหมาะที่จะอยู่ในจวนเฟิ่งมากนัก

นางจะไปหาคนหน้าตางาม ๆ ที่สามารถใช้แรงงานยิบย่อยได้ที่ใดกัน

เด็กหนุ่มพลันมองไปยังเฟิ่งชิงเฉิน ด้วยความระมัดระวัง ทั้งยังรู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อย จู่ ๆ ก็พลันมีเสียงท้องร้องของตนเองดังออกมา

ถึงแม้ว่า ภายในใจของเขากำลังรู้สึกร้อนรน อยากรู้ว่ารอยตราประทับที่อยู่บนตัวของตนเองจะถูกลบออกได้หรือไม่ หากแต่เหมือนเห็นเฟิ่งชิงเฉินตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเดียว เขาก็ได้แต่ต้องรอต่อไป

เขาจึงนั่งลงและกินซุปงูร้อน ๆ ตรงหน้า รสชาติที่อร่อยของซุปงู เสมือนกับการเคี้ยวขี้ผึ้งยิ่งนัก เด็กหนุ่มจึงกินอาหารที่อยู่ในมือของเขาไปสองสามคำ จนกระทั้งรู้สึกอิ่มท้อง ยามที่เขากำลังคิดจะถามเฟิ่งชิงเฉินขึ้นมานั้น พลันได้ยินเสียงฝีเท้าดังเข้ามาในหูทันที

มีคนมา?

ทั่วร่างของเด็กหนุ่มพลันแข็งทื่อ พร้อมกับพยายามหาที่หลบซ่อนอย่างระมัดระวัง

เขากลัวว่าตนเองอาจจะเผลอแสดงสิ่งใดออกไปต่อหน้าคนแปลกหน้า

เฟิ่งชิงเฉินพลันลุกขึ้นยืน แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าใครกำลังมา แต่ในเวลานี้ ผู้ที่กล้ามาที่จวนเฟิ่งได้คงไม่ง่ายนัก

"อย่าไปกลัว เจ้าหาใช่ทาสไม่ ทั้งยังไม่ใช่ผู้ลี้ภัยอีก ตอนนี้ อืม เจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ใช่ เจ้ามีนามว่าอะไรกัน ?"

"นามสกุลของข้าคือโจว คุณหนูสามารถเรียกข้าว่าโจวสิงก็ได้ขอรับ" เด็กหนุ่มพลันลังเลออกมาเล็กน้อย ถึงได้เอ่ยชื่อนั้นออกมา

เมื่อรู้ว่าเป็นนามแฝง เฟิ่งชิงเฉินก็มิได้ถามอันใดให้มากความ "โจวสิง จำไว้ว่า จากนี้ไปเจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ต่อไปนี้ให้เรียกข้าว่า พี่สาว"

เมื่อพูดจบ ก็พลันหันไปหาบุคคลที่กำลังเดินเข้ามา

เมื่อเห็นอาภรณ์เนื้อดี ทั่วร่างที่แผ่กลิ่นอายความมีเมตตาออกมา พร้อมทั้งทุกย่างก้าวที่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ

"คุณชายซู?" เฟิ่งชิงเฉินกระพริบตาเล็กน้อย

กลิ่นอายรัศมีของคุณชายซูคนนี้แข็งแกร่งจริงๆ ยามที่ต้องอยู่ในห้องเก็บศพ ก็เพราะว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับน้องชายของเขา จึงทำให้อารมณ์ไม่ดี

แต่ในยามนี้ คุณชายซูก็ได้ขจัดความหดหู่และความเศร้าหมองที่เคยเห็นในตอนกลางวันออกไปจนหมดสิ้น ทุกการเคลื่อนไหวในยามนี้ จึงเต็มไปด้วยความสง่างามและความหรูหราของคุณชาย ที่ส่องเข้ามาในตาของผู้คนในทันที

"คุณหนูเฟิ่ง ข้าต้องขอโทษด้วย ที่เหวินชิงเดินเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซูเหวินชิงพลันก้มหน้ากล่าวขอโทษอกกมา

แท้จริงๆแล้ว จะไปโทษเขาก็ไม่ได้

จวนเฟิ่งที่ใหญ่ถึงเพียงนี้ แต่หาได้มีคนใช้เลยสักคนไม่

"ไม่เป็นไร นั่นเป็นเพราะชิงเฉินมิได้ทำการต้อนรับแขกให้ดี ถึงมิได้ออกไปต้อนรับคุณชายด้วยตนเอง " เฟิ่งชิงเฉินได้แสดงท่าทีมีมารยาทออกมา พร้อมกับควบคุมอารมณ์ให้เย็นชาและนิ่งสงบตามเดิม

เมื่อคุณชายซูรับรู้ได้ถึงระยะห่าวที่เฟิ่งชิงเฉินตั้งเอาไว้ ไม่รู้ว่าเหตุใดซูเหวินชิงถึงได้รู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

ลึกๆ แล้ว เขาไม่ชอบให้เฟิ่งชิงเฉินปฏิบัติต่อเขาในฐานะแขกเลย แต่ทว่า เขาต้องการให้นางปฏิบัติต่อเขาในฐานะอะไรกัน?

ซูเหวินชิงไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เขารู้แต่เพียงว่า เขาไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่ห่างไกลกับเฟิ่งชิงเฉิน ทั้งยังหวังว่าทั้งสองคนจะสามารถสนิทใกล้ชิดกันได้มากกว่านี้

"คุณหนูเฟิ่ง เหวินชิงมาที่นี่เพื่อขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนกลางวัน อย่างไรก็ตาม ข้าเองก็ต้องขอบคุณที่คุณหนูเฟิ่ง ช่วยชีวิตน้องชายของข้าเอาไว้ด้วย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ