นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 971

หลังจากที่เฟิ่งชิงเฉินออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วนั้น สาวใช้จัดเตรียมน้ำร้อนให้เฟิ่งชิงเฉินทันที หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเฟิ่งชิงเฉินจึงจะทานอาหาร

อาหารที่อยู่บนโต๊ะนั้น ล้วนเป็นอาหารรสอ่อนตามที่เฟิ่งชิงเฉินร้องขอ ถึงแม้ว่าจะดูเรียบง่ายธรรมดาทว่าทุกอย่างออกมาดูดีสวยงาม แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับไม่สามารถกินไป จากนั้นก็สำลักออกมา

เฟิ่งชิงเฉินกินไปพลางก็คิดเรื่องหนึ่งไป กับข้าวที่วางอยู่บนโต๊ะล้วนแล้วดูไม่มีไอร้อนเลยแม้แต่น้อย เฟิ่งชิงเฉินฝืนกินลงไปอย่างไม่เต็มใจสองคำ จากนั้นจึงรีบกลับเข้าห้องไป

เสด็จอาเก้าไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่กลับอยู่ในลานอื่นนอกเมือง สำหรับที่นี่นับว่าเฟิ่งชิงเฉินเป็นใหญ่ที่สุด ถึงแม้ว่าเหล่าสาวใช้จะเกลี้ยกล่อมให้เฟิ่งชิงเฉินให้ความสำคัญกับร่างกายตนเองก่อน แต่กลับไม่กล้าเอ่ยขึ้นมาต่อหน้า เพียงแค่รู้สึกร้อนรนอยู่ในใจในการตั้งหน้าตั้งตารอให้เสด็จอาเก้ากลับมาโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นการตั้งตารอเสด็จอาเก้ากลับมานี้อาจจะทำให้เฟิ่งชิงเฉินผอมโทรมลงก็เป็นได้ โชคไม่ดีที่ต้องเป็นเขาเท่านั้น

สาวใช้ต่างก็วิตกกังวล เฟิ่งชิงเฉินเองก็กังวลไม่แพ้กัน อาการป่วยขององค์รัชทายาทนางเข้าใจเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการรับรู้จากปากของเสด็จอาเก้าว่าอาการประชวรขององค์รัชทายาทค่อนข้างหนัก จึงทำให้เฟิ่งชิงเฉินไม่มั่นใจในการผ่าตัดครั้งนี้เลย

ทำการฝึกซ้อมไปแล้วสองวัน นางจึงสามารถค้นพบความรู้สึกของการผ่าตัดหัวใจแล้ว ทว่านางก็ยังมีความมั่นใจในความสำเร็จแบบนี้เพียงแค่สองเต็มสิบเท่านั้น

ความมั่นใจเพียงแค่สองเต็มสิบนี้ แพทย์สามารถแนะนำให้ผู้ป่วยไม่ต้องได้รับการผ่าตัด แล้วปล่อยให้รอความตายไปอย่างช้า ๆ ได้

แต่องค์รัชทายาทไม่ใช่สามัญชนคนธรรมดา แม้ว่ามีความน่าจะเป็นเพียงแค่สองเต็มสิบ เขาก็ยังคงเลือกที่จะเข้ารับการผ่าตัด

“ในตอนนี้ข้าเพียงแค่ต้องพยายาม จะลองดูว่ามีแผนการผ่าตัดที่ดีกว่านี้หรือไม่” เฟิ่งชิงเฉินกลับเข้ามาถึงด้านในของห้อง ความรู้จากกระเป๋าพยาบาลสามารถแลกเปลี่ยนเป็นนิตยสารด้านหัวใจ แต่น่าเสียดายที่นิตยสารเหล่านี้กลับเป็นฉบับแรก ๆ ที่มีออกมา ทำให้ความรู้ด้านการแพทย์ยังไม่ได้รับการอัพเดตให้ใหม่ขึ้น

นิตยสารส่วนใหญ่เป็นงานประพันธ์เกี่ยวกับหัวใจของต่างประเทศและเป็นวิทยานิพนธ์รวมถึงการโฆษณาสถาบันการแพทย์ วิทยานิพนธ์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์หัวใจค่อนข้างน้อย เฟิ่งชิงเฉินเห็นบทความเพียงสามบทความ หนึ่งในนั้นมีมุมมองที่แปลกใหม่ โดยกล่าวว่าการทำบายพาสหัวใจและการซ่อมแซมสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องตัดปริมาณเลือดแดง

ดาวตาของเฟิ่งชิงเฉินเป็นประกาย เมื่ออ่านวิทยานิพนธ์ทั้งหมดจบแล้ว ปรากฏว่าพบวิธีที่มีความเป็นไปได้ทางทฤษฎี เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันยากเกินไปที่จะทำแบบนั้น หากปริมาณเลือดแดงไม่ถูกตัดออก อาจทำให้เลือดออกมากได้ง่าย และ เมื่อหัวใจเต้นขณะทำการผ่าตัด กล้ามเนื้อหัวใจจะตึง และรายที่เป็นมากจะเสียชีวิตทันที

ในขณะที่ทำการผ่าตัดหัวใจอยู่นั้น เพื่อยับยั้งอาการบาดเจ็บชองกล้ามเนื้อหัวใจ ทุก ๆ ยี่สิบสามสิบถึงสามสิบนาทีต้องทำการคาดิโอพลีเกีย

“เป็นมุมมองที่ทันสมัยมาก แล้วก็ยากมากด้วยเช่นกัน หากว่ามีทีมแพทย์มืออาชีพและอุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับโลกก็อาจเสี่ยงได้แต่สภาพแวดล้อมที่ข้าอยู่ตอนนี้รับความเสี่ยงแบบนั้นไม่ได้ ” เฟิ่งชิงเฉินปิดนิตยสารลง แล้งฝืนกระพริบตาแห้ง ๆ ก่อนจะหาวออกมา จากนั้นจึงถอดเสื้อคลุมด้านนอกออกแล้วหลับลง

คงจะเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป คงจะเป็นเพราะเส้นประสาทของนางตึงเกินไป เฟิ่งชิงเฉินที่รู้สึกตื่นตัวอยู่ตลอด แต่ตอนกลางดึกที่เสด็จอาเก้าปีนขึ้นไปบนเตียง นางกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบสนอง

“แม่นางน่าโง่” เสด็จอาเก้าโอบกอดเฟิ่งชิงเฉินไว้ในอ้อมกอดด้วยดวงใจที่เจ็บปวด เฟิ่งชิงเฉินที่ปล่อยให้ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้าทำให้ค้นพบที่ที่เหมาะสมแล้ว หัวเล็กขยับอย่างเชื่องช้าก่อนจะกลับเข้าสู่ห้วงนิทราเช่นเดิม

เสด็จอาเก้ารู้ว่าเฟิ่งชิงเฉินเหนื่อยมาก จึงปฏิบัติต่อนางอย่างเบามือเบาเท้าตลอด ในความมืด เขาจับทั้งสองมือของเฟิ่งชิงเฉินแล้วนวดให้อย่างเบามือ

เขาได้ยินมาว่าเฟิ่งชิงเฉินอยู่ในห้องผ่าตัดเป็นเวลาเจ็ดแปดชั่วโมงในช่วงสองวันที่ผ่านมา นอกจากการกินและการนอนหลับ ก็มักจะอยู่ในห้องผ่าตัด ห้องผ่าตัดเต็มไปด้วยเลือด และคนรับใช้ที่ทำความสะอาด จนหน้าซีดทุกวัน

ดูทีท่าของเฟิ่งชิงเฉินที่เหนื่อยมาก ในใจของเสด็จอาเก้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวด พลางคิดในใจ หลังจากกลับมาจากซานตง จะพาเฟิ่งชิงเฉินไปเล่นที่เจียงหนานได้ไหม เพียงแค่ไปเล่น...

เป็นอีกคืนที่เฟิ่งชิงเฉินหลับพักผ่อนอย่างดี เมื่อแสงแรกของแสงแดดส่องเข้ามาในห้องในตอนเช้า เฟิ่งชิงเฉินค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา ถึงอย่างไรก็ยังคงความมึนงงอยู่......

เกิดอะไรขึ้น ข้าโดยลักพาตัวมางั้นรึ?

หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินเต้นไม่เป็นจังหวะ นางไม่รู้สึกสับสนเมื่อนางเพิ่งตื่นขึ้นมา ทันใดนั้นนางก็ลืมตาขึ้นและเห็นคนที่คุ้นเคยอยู่ตรงหน้า ทำให้หัวใจของเฟิ่งชิงเฉินก็หล่นลงไปที่ทรวงอก

หลังจากที่สงบลง กลิ่นหอมของไม้ไผ่จาง ๆ บนร่างของเสด็จอาเก้าก็โชยเข้าจมูกของนาง เฟิ่งชิงเฉินสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่ากลับไม่สามารถขยับตัวได้ ทั้งยังอยู่ในอ้อมกอดของเสด็จอาเก้าที่ไม่ได้จยับตัวไปไหน

ในตอนที่เฟิ่งชิงเฉินตกใจเสด็จอาเก้าก็ตื่นขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ว่ากำลังแกล้งหลับอยู่ตลอด เพราะอยากดูว่าเฟิ่งชิงเฉินจะทำอะไร ซึ่งผลลัพธ์คือนอกจากการจกใจจนตื่นแล้วเฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหวอะไรอีกเลย

เสด็จอาเก้ารู้สึกกลัดกลุ้มใจที่รอมานานแล้วแต่เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่ทำอะไรสักที จึงทำได้เพียงแค่กอดรัดเฟิ่งชิงเฉินด้วยแรงที่มากกว่าเดิมเพื่อให้ร่างกายแนบชิดกันกับเฟิ่งชิงเฉินมากขึ้น จากนั้น......

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ