ท่าทางเฉยเมยของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้สามพ่อลูกตระกูลหวังต่างพากันสงสัย หวังชีอดไม่ได้จึงถามนางไปตรงๆว่า "เฟิ่งชิงเฉิน เจ้าไม่ดีใจกับพี่ชายข้าหรือ? เขากลับมามองเห็นแล้วนะ เป็นฝีมือการรักษาของเจ้านะ"
เรื่องที่สมควรดีใจเช่นนี้ แต่เฟิ่งชิงเฉินกลับทำเป็นนิ่งเฉย
หวังชีไม่เข้าใจเลยจริงๆ
คนอื่นๆก็ไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน เฟิ่งชิงเฉินดูแน่นิ่งยิ่งนัก
เฟิ่งชิงเฉินเลิกคิ้ว ก็นางบอกไปแล้วว่าดวงตาของหวังจิ่นหลิงจะสามารถกลับมามองเห็นได้ ตอนนี้ก็เป็นตามที่นางพูด ไม่เห็นจะน่าตื่นเต้นตรงไหน
แต่เมื่อเห็นสายตาของหวังจิ่นหลิงที่กำลังมองนางอย่างใจจดใจจ่อ เฟิ่งชิงเฉินจึงต้องตอบกลับไปว่า "ก็ดีใจน่ะสิ หวังจิ่นหลิง ยินดีด้วยนะที่ตาของท่านกลับมามองเห็นแล้ว ต่อไปนี้ไม่ต้องทนทุกข์กับการมองไม่เห็นแล้วนะ"
เฟิ่งชิงเฉินยื่นมือขวาออกไป นางเคยชินกับการจับมือ แต่เมื่อนางยื่นมือออกไปแล้วก็รู้ตัวว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสม จึงเปลี่ยนเป็นยื่นมือไปปิดตาหวังจิ่นหลิง ทำทีเป็นตรวจตา
คนอื่นๆต่างตกใจไปตามกัน
จะมีปัญหาอะไรอีก?
"มีอะไรหรือ? แม่นางเฟิ่ง ดวงตาของหลิงเอ๋อร์มีปัญหางั้นหรือ?" หวังซู่ตกใจกว่าผู้ใด
"ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ อาการปกติ แต่ว่าหลังจากใช้สายตานานๆจะทำให้ดวงตาล้าได้" ในตาของเขามีเส้นเลือดปรากฏขึ้นเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรมาก กระจกตาก็ไม่ได้อักเสบ
ทุกอย่างเป็นปกติดี ไม่เสียแรงที่นางอยู่ทำการรักษาเป็นเวลากว่า 3 วัน
"ลืมตา" เฟิ่งชิงเฉินหยิบยาหยอดตาออกมาจากกระเป๋า แล้วหยอดยาลงในตาหวังจิ่นหลิง
"หลับตา"
"เย็นสบายดีจริงๆ ชิงเฉินเจ้าช่างยอดเยี่ยมนัก"
แม้ว่าเจ้าจะไม่เหมือนอย่างที่ข้าเคยจินตนาการไว้ แต่ในสายตาของข้าเจ้างดงามที่สุด
ข้าจะไม่มีวันลืมว่าคนแรกในชีวิตที่ข้ามองเห็นนั้นคือเจ้า!
หวังจิ่นหลิงหลับตา ไม่ให้ความคิดออกมาฟ้องทางสายตา
"ข้าเป็นหมอ นี่คือสิ่งที่ข้าควรจะทำ ยาขวดนี้ท่านเก็บเอาไว้นะ หากรู้สึกเคืองตาก็ให้หยอดลงในตา แต่ก็อย่าลืมเด็ดขาดว่าห้ามใช้สายตามากเกินไป ท่านอย่าเพิ่งอ่านหนังสือ หลังจากนี้ยังมีเวลาเหลือเฟือ ตอนนี้ท่านไม่ต้องรีบร้อน"
"ขวดช่างงามนัก ทำมาจากอะไรหรือ ราคาคงจะไม่ธรรมดา" ขวดเป็นขวดโปร่งใส น้ำด้านในก็ใสเช่นกัน ของเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
"เป็นความลับ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องราคาหรอก ยาขวดนี้ค่าคิดเงินไว้ในยอดของทองคำ 1 พันตำลึงแล้ว" เฟิ่งชิงเฉินยิ้ม
หวังจิ่นหลิงหัวใจเต้นรัวเพราะรอยยิ้มของนาง เขารีบหลับตาเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
"เฟิ่งชิงเฉิน ทองคำ 1 พันตำลึงเลยหรือ? ไม่ใช่หรอกกระมัง เจ้าคิดค่ารักษาแพงถึงเพียงนี้เชียวหรือ?" อวี่เหวินหยวนฮั่วกล่าว
มูลค่าทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขายังเทียบไม่ได้กับทองคำ 1 พันตำลึงเลย
"ท่านควรจะดีใจมากกว่านะ ข้าเพิ่งตัดสินใจว่าจะไม่เก็บเงินท่านอีกไปตลอดชีวิต" สำหรับมิตรภาพ นางไม่มีทางคิดเงินอย่างไร้ซึ่งเหตุผล ที่นางเรียกเก็บค่ารักษาหวังจิ่นหลิง ก็เพราะไม่ต้องการให้คนในตระกูลหวังคิดมาก
หลังจากที่ตกอยู่ภายใต้ความมืดมนมานาน เมื่อหวังจิ่นหลิงลืมตาแล้วก็ได้พบกับรอยยิ้มเฟิ่งชิงเฉิน จึงอดกล่าวชมไม่ได้ว่า "ชิงเฉิน เจ้าน่าจะยิ้มบ่อยๆนะ เวลาเจ้ายิ้มเจ้างามมากๆเลย"
เฟิ่งชิงเฉินเวลาที่ไม่ยิ้ม ดูเยือกเย็นและสร้างความรู้สึกที่เหินห่าง
"ขอบคุณสำหรับคำชม ข้าจะยิ้มบ่อยๆนะ ตอนนี้ข้ามีเรื่องที่จะต้องรบกวนคุณชายใหญ่" นางเองก็อยากยิ้มทุกๆวัน แต่อาชีพของนาง บวกกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้นางต้องเก็บซ่อนรอยยิ้มไว้
"เรื่องอะไรหรือ?" หวังจิ่นหลิงเห็นความมาดมั่นของเฟิ่งชิงเฉินถูกปกคลุมไปด้วยความทุกข์ระทม เขาเองก็เห็นใจนางไม่น้อย
เขาลืมมองไปว่า เพื่อรักษาดวงตาของเขาแล้ว เฟิ่งชิงเฉินต้องแบกรับความกดดันอันหนักหน่วง ด้านนอกก็มีฝูงชนคอยดูถูกนางมากมาย เขาลืมมองไปว่า ผู้หญิงคนนี้ต้องเอาชีวิตที่มีค่าของตัวเองเข้ามาเสี่ยง เพื่อที่จะได้มอบความช่วยเหลือให้กับเขา
"รอข้าก่อนนะ ข้าขอเปลี่ยนชุดก่อนแล้วเดี๋ยวจะออกไป" หวังจิ่นหลิงพูดในขณะที่ก้มมองดูเสื้อยับๆของตัวเอง
เขาจะต้องออกไปช่วยเฟิ่งชิงเฉินยืนยันว่าเฟิ่งชิงเฉินไม่ใช่คนลวงโลก เขาจะออกไปประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าเฟิ่งชิงเฉินคือหมอที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตงหลิง
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ