นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1092

สรุปบท บทที่ 1092 หาความผิด,เล่นไปถึงจริง: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 1092 หาความผิด,เล่นไปถึงจริง – ตอนที่ต้องอ่านของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

ตอนนี้ของ นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายInternetทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1092 หาความผิด,เล่นไปถึงจริง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

องค์ชายหกท่านจากสามประเทศ นอกจากนั้นยังมีตระกูลชุย ตระกูลหวัง และตระกูลเซี่ยที่เป็นตระกูลอันยิ่งใหญ่ในใต้หล้า อย่าว่าแต่เจ้าเมืองฉู่เลย ต่อให้เป็นเสด็จอาเก้าเองก็ยังขอชื่นชมเลยว่า มันการลงมือที่ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยม!

เฟิ่งชิงฉินเองก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เรื่องราวทั้งหมดมันเกินกว่าการควบคุมถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ?

ดูจากตอนนี้แล้ว เรื่องบางเรื่องเขาคงต้องพูดคุยและเจรจากับเฟิ่งชิงฉินให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นการที่ต่างฝ่ายต่างลงมือจนทำให้เรื่องราวไม่สามารถแก้ไขได้ก็มีแต่สร้างปัญหา

เสด็จอาเก้าเลือกวันที่มีอากาศดีและเหมาะสมเดินทางมายังจวนเฟิ่งอย่างเปิดเผย เมื่อได้เห็นเฟิ่งชิงฉิน เขาก็พูดออกมาทันทีว่า “เฟิ่งชิงฉิน การลงมือของเจ้าครั้งนี้เองก็ยิ่งใหญ่ไม่เบา”

“อ่า? ลงมืออะไร?” ตอนแรกเฟิ่งชิงฉินยังฟังไม่เข้าใจ แต่หลังจากที่นางตอบสนอง นางก็ผายมือทั้งสองข้างออกมา และพูดอย่างไร้เดียงสา “เสด็จอาเก้า เจ้าพูดผิดแล้ว ข้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเมืองฉู่ทั้งนั้น”

“เจ้าไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรือ?” เสด็จอาเก้ามองมาที่เฟิ่งชิงฉินด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงมีความข่มเหงแอบแฝงอยู่ เฟิ่งชิงฉินสัมผัสถึงมันได้จึงพึมพำออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ตอนแรกก็ไม่ได้ทำอะไร ข้าก็แค่บอกถึงผลประโยชน์ของการแต่งงานกับฉู่ฉางฮว๋าเอง และคนพวกนั้นข้าก็ไม่ได้เป็นคนไปหามาด้วย”

ในเหล่าบรรดาผู้นิยมชมชอบ และผู้ที่ตามจีบฉู่ฉางฮว๋าตั้งแต่เมื่อก่อน ทั้งหมดเป็นพวกที่เสด็จอาเก้าตามมาทั้งนั้น ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนาง

เฟิ่งชิงฉินมีอำนาจเพียงเล็กน้อย และอำนาจของนางก็ถูกจำกัดอยู่แค่ในเมืองจักรพรรดิ เมืองเย่เฉิง ส่วนในสถานที่อื่น ๆ นั้นมันยังไม่พัฒนาหรือก่อตัวขึ้น นางไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้

“พูดแบบนี้ก็แสดงว่าเจ้ากำลังโทษข้าอยู่?” เสด็จอาเก้าเลื่อนน้ำชาซึ่งอยู่ตรงหน้าออกไป เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบา ๆ เคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ แต่ชัดเจน มันคือท่าทีของการเพิ่มแรงกดดัน

“ไม่กล้า ไม่กล้า ข้าไม่กล้าโทษเสด็จอาเก้า แต่เรื่องของฉู่ฉางฮว๋าก็โทษข้าไม่ได้จริง ๆ” เฟิ่งชิงฉินพบว่าหัวใจของนางเองก็เต้นช้าลงเช่นกัน เป็นไปตามจังหวะของเสด็จอาเก้าอย่างไร้เหตุผล และน้ำเสียงของนางก็ค่อย ๆ เบาลง

“ไม่โทษเจ้า เช่นนั้นต้องโทษใคร? เจ้าลองบอกข้า ใครเป็นคนปุกปั่นฮองเฮา? ใครเป็นคนปุกปั่นหนานหลิงจิ่นสิง? ใครเป็นคนปุกปั่นซีหลิงเทียนอวี่? ตระกูลชุย ตระกูลหวัง รวมถึงตระกูลเซี่ย” อย่าคิดว่าช่วงนี้เขายุ่งแล้วจะไม่รู้ว่าเฟิ่งชิงฉินทำอะไรลงไปบ้าง

อ่า......เฟิ่งชิงฉินหมดคำอธิบาย และไม่มีวี่แววว่าจะยอมรับความผิด เฟิ่งชิงฉินเงยหน้าผากขึ้นเล็กน้อยด้วยความเย่อหยิ่ง “ถึงต่อให้เป็นข้า แล้วเจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”

“ข้าจำเป็นต้องมีหลักฐานด้วยงั้นหรือ?” เรื่องนี้ใครก็หาหลักฐานไม่เจอทั้งนั้น เนื่องจากเฟิ่งชิงฉินไม่ได้เล่นกล แต่นางเล่นกับหัวใจของคน เล่นกับหัวใจของผู้คนจนถึงขีดสุด

ลั่วอ๋อง องค์รัชทายาทเหล่ย องค์ชายจิ่นฝาน พวกเขาต่างไม่เคยคิดจะแต่งงานกับฉู่ฉางฮว๋า แต่เนื่องจากศัตรูของพวกเขาลงมือ พวกเขาจึงจำเป็นต้องลงมือด้วย

เฟิ่งชิงฉินไม่ได้ใช้แผนการและการคำนวณใด ๆ ทุกอย่างนางล้วนทำอย่างเปิดเผย แม้ซีหลิงเทียนเหล่ยและหนานหลิงจิ่นฝานเห็นว่ามันเป็นกับดัก พวกเขาก็ยังพร้อมใจกันกระโดดลงมา เนื่องจากพวกเขาไม่อาจยอมให้ฉู่ฉางฮว๋าแต่งงานกับเทียนอวี่และจิ่นสิงได้เป็นอันขาด

ตระกูลชุยและตระกูลเซี่ย สองตระกูลนี้เองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน เมื่อหวังจิ่นหลิงกล่าวว่ามีคนในตระกูลของเขารักใคร่ในตัวของฉู่ฉางฮว๋า ตระกูลชุยและตระกูลเซี่ยเองก็ไม่อาจนิ่งเฉย พวกเขาไม่อาจยอมให้ฉู่ฉางฮว๋าแต่งงานกับตระกูลหวัง และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตระกูลหวัง

จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวออกมา เฟิ่งชิงฉินไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ เรื่องทั้งหมดเป็นผลพวงของจากทุกฝ่าย ดังนั้นเฟิ่งชิงฉินจึงไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจักรพรรดิหรือฉู่ฉางฮว๋าจะมาสร้างปัญหาให้กับนาง

นางเฟิ่งชิงฉินไม่มีความสามารถมากพอที่จะสร้างหายนะอันยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของฉู่ฉางฮว๋า หากฉู่ฉางฮว๋าไม่มีค่ามากมายถึงเพียงนี้ เหล่าผู้คนที่ยิ่งใหญ่พวกนั้นก็ไม่มีทางลงมือกับฉู่ฉางฮว๋าเช่นนี้

เมื่อเผชิญหน้ากับคำดุของเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงฉินไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย นางยิ้มพร้อมกล่าวออกไป “ไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นเสด็จอาเก้าก็ไม่มีสิทธิ์มาโทษว่าข้าเป็นคนทำ ข้าไม่ได้มีความสามารถถึงขนาดนั้น เสด็จอาเก้าอย่ามาใส่ร้ายข้าเลยจะดีกว่า”

เฟิ่งชิงฉินเองเลียนแบบเสด็จอาเก้า เฟิ่งชิงฉินเริ่มเคาะโต๊ะ จังหวะไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไป หนักเบาสลับกัน ไม่มีความเป็นจังหวะเลยแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่านางต้องการขัดจังหวะของเสด็จอาเก้า

ไม่ยอมเสียเปรียบเลยจริง ๆ

เสด็จอาเก้าทำอะไรไม่ได้นอกจากเลิกเคาะโต๊ะ เห็นท่าทางภาคภูมิใจของเฟิ่งชิงฉิน เขาแทบจะทนไม่ไหว อยากจะเข้าไปหยิกแก้มของนางเหลือเกิน

ฮึ เสด็จอาเก้าไม่ยอมรับว่าเขากำลังหึง

“ไม่ได้ ข้าจะไม่ยอมให้ฉู่ฉางฮว๋านำหายนะมาสู่ลูกศิษย์ของข้าเป็นอันขาด” เฟิ่งชิงฉินยืนขึ้นพร้อมกับตบโต๊ะอย่างแรง

สองวันที่ผ่านมานางเคยคิดถึงความเป็นไปได้เรื่องนี้มาก่อน นางกลัวว่าฉู่ฉางฮว๋าจะตัดสินใจแต่งงานกับซุนซือสิง คิดไม่ถึงเลยว่าเสด็จอาเก้าจะพูดถึงเรื่องนี้ออกมา

ไม่ว่าจะพูดอย่างไรนางก็ไม่มีทางปล่อยให้ซุนซือสิงเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหายนะครั้งนี้เป็นอันขาด

“ไม่ได้? เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าไม่ได้? เจ้าเป็นอะไรกับซุนซือสิง? อาจารย์? เป็นคำสั่งของอาจารย์หรือว่าคำสั่งของจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ” เสด็จอาเก้าเย้ยหยันด้วยความเยือกเย็น เตือนเฟิ่งชิงฉินว่าบนโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าคำสั่งของจักรพรรดิไม่อาจละเมิดได้

“เจ้า......” เฟิ่งชิงฉินกัดฟันด้วยความโกรธ “วันนี้เจ้ามาเพื่อทะเลาะกับข้าใช่ไหม? สร้างปัญหาให้ข้าแล้วเจ้ามีความสุขมากใช่ไหม?”

“คนที่สร้างปัญหาก็คือเจ้า ไม่ใช่ข้า ข้าแค่อยากจะมาเตือนสติเจ้า ให้เจ้าไตร่ตรองให้ดี หลังจากซุนซือสิงแต่งงานกับฉู่ฉางฮว๋า ปัญหาที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นข้าจะเป็นคนจัดการเอง” ตอนแรกก็แค่พูดออกมาเล่น ๆ เท่านั้น แต่เวลานี้เสด็จอาเก้าเริ่มจริงจังกับตัวเลือกนี้มากขึ้น

ซุนซือสิงแต่งงานกับฉู่ฉางฮว๋า ปัญหามากมายจะได้รับการแก้ไข

“ไม่ต้องไตร่ตรองอะไรทั้งนั้น ข้าไม่มีวันเห็นด้วย เจ้าจะคิดอย่างไรกับเมืองฉู่ข้าไม่สนใจ แต่ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าเอาลูกศิษย์ของข้าไปเป็นของแลกเปลี่ยนเป็นแน่” เฟิ่งชิงฉินโกรธมาก ยกนิ้วและชี้ไปที่เสด็จอาเก้าพร้อมกับถามออกมาว่า “เสด็จอาเก้า ขออภัยที่ชิงเฉิน......” จะไม่ไปส่ง

ก่อนที่สี่พยางค์หลังจะดังขึ้น ในตอนนั้นพ่อบ้านก็ได้เข้ามาขัดจังหวะ “เสด็จอาเก้า คุณหนู เจ้าเมืองฉู่มาเยี่ยมเยือน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ