สรุปตอน บทที่ 1095 คาดหวัง,ไม่ใช่แค่พูด พวกเราต้องทำด้วย – จากเรื่อง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดย อาช้าย
ตอน บทที่ 1095 คาดหวัง,ไม่ใช่แค่พูด พวกเราต้องทำด้วย ของนิยายInternetเรื่องดัง นางสนมแพทย์อัจฉริยะ โดยนักเขียน อาช้าย เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
กลางวันแสก ๆ ไม่เหมาะกับการพูดเรื่องการให้กำเนิดลูก เช่นนั้นกลางคืนคงไม่ใช่ปัญหา ไม่เพียงแค่พูดเท่านั้น แต่ยังสามารถลงมือทำได้อีกด้วย......
เสด็จอาเก้าเสด็จมายังจวนเฟิ่งในตอนกลางวันอย่างโจ่งแจ้ง เขาไม่มีทางจากไปในตอนกลางคืน เห็นได้ชัดว่าต้องการค้างที่จวนเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉินกังวลเกี่ยวกับข่าวลือภายนอกจึงต้องการให้เสด็จอาเก้ากลับไป แต่เสด็จอาเก้าไม่ขยับแม้แต่ครึ่งก้าว เขาเพียงกล่าวออกมาว่า “ขอแค่ข้ายังไม่ได้แต่งงานกับภรรยา คนด้านนอกพวกนั้นก็ไม่กล้าว่าเจ้าแม้แต่ครึ่งคำ”
“ไม่แต่งงานกับภรรยา? เจ้าสามารถไม่แต่งงานกับภรรยาตลอดไปได้อย่างนั้นหรือ?” คำถามนี้ฝั่งอยู่ในส่วนลึกของหัวใจเฟิ่งชิงเฉินมาโดยตลอด ในที่สุดก็มีโอกาสพูดออกมา
“หากไม่สามารถทำให้เจ้าเป็นภรรยาของข้าได้ ต่อให้ทั้งชีวิตนี้ข้าไม่ได้แต่งงานก็ไม่เห็นเป็นอะไร” คำพูดนี้ เสด็จอาเก้าเกือบจะหลุดปากออกมาอยู่แล้ว แต่มันก็แค่เกือบเท่านั้น สุดท้ายเสด็จอาเก้าก็ยังกลืนมันกลับเข้าไป เพียงแค่กล่าวออกมาว่า “ชาตินี้ข้าไม่มีวันทำให้เจ้าผิดหวังเป็นแน่”
คำพูดนี้นั้นเพียงพอที่จะพิสูจน์ความคิดและความจริงใจของเขา
หากเจ้าไม่ทรยศหรือจากข้าไป ข้าก็จะเป็นเช่นนี้ไปจนตัวตาย คำพูดนี้เฟิ่งชิงเฉินเคยพูดมาแล้วครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าเวลานี้นางไม่มีทางพูดมันออกมาอีกครั้ง นางเพียงยิ้มและกล่าวออกมาว่า “ข้าเชื่อเจ้า ยังไงเจ้าก็อายุไม่น้อยแล้ว แม้ว่าจะแต่งงานใหม่หัวใจก็ไร้เรี่ยวแรง”
พูดจบนางก็จ้องมองมาที่ร่างกายส่วนล่างของเสด็จอาเก้าโดยที่ตั้งใจหรือไม่ก็ตาม พึมพำออกมาโดยไม่มีเสียง เลือดกวางแดง
พัฟ......ชาในปากของเสด็จอาเก้าถูกพ่นออกมาทันที เขากัดฟันและตะโกนออกมาว่า “พ่อบ้าน!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า......” เฟิ่งชิงเฉินหัวเราะด้วยความภูมิใจ ใบหน้าของเสด็จอาเก้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม และหุบปากแต่โดยดี พูดออกมาด้วยสีหน้าที่จริงจัง “เอาละ ไม่หัวเราะเจ้าแล้ว ข้าได้สั่งให้คนรับใช้เตรียมเรือนแยกให้เจ้าแล้ว”
“ไม่ต้อง ข้าจะอยู่กับเจ้า” เสด็จอาเก้าพูดออกมาอย่างรวดเร็ว ต่างจากท่าทีอันเฉื่อยชาตามปกติ
เฟิ่งชิงเฉินยิ้มออกมาอย่างขี้เล่น “มันไม่เหมาะสมกับศีลธรรมจรรยา”
เมื่อพบว่าตนเองสูญการควบคุมไปชั่วขณะ เสด็จอาเก้าจึงรีบสงบสติอารมณ์และค่อย ๆ กล่าวออกมาว่า “มารยาทและศีลธรรมจรรยาใช้สำหรับคนธรรมดา ข้าไม่ได้อยู่ในขอบเขตของการผูกมัดเหล่านั้น”
“ในบ้านของข้า ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะปฏิบัติตามศีลธรรมจรรยาเหล่านั้นหรือไม่ แต่เจ้าจะต้องรักษาธรรมเนียม” หากศีลธรรมจรรยาสามารถผูกมัดเสด็จอาเก้าได้จริง เสด็จอาเก้าคงไม่มีทางกินตนเองครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกับที่ผ่าน ๆ มา
“ข้าไม่รังเกียจหากเจ้าจะไปบ้านของข้า” เสด็จอาเก้าลุกขึ้นยืน สะบัดชายเสื้อของตนเองพร้อมกล่าวว่า “นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าเหนื่อย”
พูดจบเขาก็ไม่สนใจเฟิ่งชิงเฉิน เดินตรงไปยังตำหนักที่เฟิ่งชิงเฉินอาศัยอยู่
ในจวนเฟิ่งแห่งนี้ เขาคุ้นเคยกับมันมากกว่าเฟิ่งชิงเฉินเสียอีก แม้หลับตาเขาก็สามารถเดินหามันเจอ
“ทำเป็นรีบ” เฟิ่งชิงเฉินทำหน้าบูดบึ้งพร้อมกับมองไปยังเงาหลังของเสด็จอาเก้า นางไม่ได้เดินตามเสด็จอาเก้ากลับไป แต่นางเดินไปยังห้องหนังสือ
การไปให้คนอื่นกินถึงที่ เรื่องแบบนั้นนางไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
ในห้องหนังสือ ทงจือและทงเหยามารอนางอยู่ตั้งแต่เนิ่น ๆ รายงานสถานการณ์เกี่ยวกับเมืองจักรพรรดิช่วงนี้ให้แก่เฟิ่งชิงเฉิน และรอคำสั่งของเฟิ่งชิงเฉินต่อไป
เจ้านายและบ่าวสามคนนั่งพูดคุยกัน ลืมวันลืมคืน และก็ลืมไปแล้วว่าเสด็จอาเก้ากำลังรอเฟิ่งชิงเฉินอยู่
ในเรือนของเฟิ่งชิงเฉิน สายลับได้ออกไปหมดแล้ว หลังจากเสด็จอาเก้าอาบน้ำและเดินกลับเข้ามา เห็นว่าเฟิ่งชิงเฉินยังไม่เข้ามาเสียที เขาจึงหยิบหนังสือที่วางอยู่ตรงหัวเตียงเปิดอ่านไปพร้อมกับเอนกายลงบนเตียงนอน
เสด็จอาเก้าเพียงแค่เอนกายลงเบา ๆ แต่ทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้เลย แสงเทียนในห้องเหมือนกับรวมตัวอยู่บนเรือนร่างของเขา เสียงไฟอ่อน ๆ วนเวียนอยู่บนร่างกายของเขา ทำให้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและนุ่มนวลที่อาจทำให้หัวใจสลาย
ผมสีดำในชุดสีขาว ท่าทางที่เกียจคร้านและใบหน้าอันเยาว์วัย ทันทีที่เฟิ่งชิงเฉินเข้ามา นางก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชม สายตาของนางจับจ้องไปที่เสด็จอาเก้า ขาทั้งสองข้างของนางเดินเข้ามาหาเสด็จอาเก้าโดยไม่รู้ตัว
ไม่แปลกใจเลยที่คนโบราณบอกว่ายอมตายต่อหน้าความงามดีกว่าถูกโจรฆ่าตาย ต่อให้เป็นผีก็ยังมีความสุด เมื่อความงดงามอยู่มาอยู่ตรงหน้า เฟิ่งชิงเฉินก็ไม่อาจอดทนต่อมันได้เลย
เมื่อพูดจบ เชือกที่ผูกกับผ้าคาดอกก็คลายออก และผ้าคาดอกก็ร่วงลงสู่พื้น “งดงามมาก” สายตาคู่นั้นของเขาจับจ้องไปยังเนินเขาของเฟิ่งชิงเฉิน เขามองมันอย่างระมัดระวัง ทำให้ใบหูของเฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นสีแดงด้วยความเร่าร้อน จากนั้นก็กล่าวเสริมออกมาว่า “ดูเหมือนว่ามันจะใหญ่แล้ว”
พัฟ......ตอนแรกเฟิ่งชิงเฉินยังรู้สึกเขินอาย แต่เมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าวของเสด็จอาเก้า นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “เมื่อก่อนมันเล็กอย่างนั้นหรือ”
“ไม่เล็กแล้ว” เสด็จอาเก้ายื่นมือออกไป กอดเฟิ่งชิงเฉินไว้ในอ้อมแขน ร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นสีแดง อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เสด็จอาเก้าสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ผ่านมาทางเสื้อผ้าของเขา มันมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นจนทำให้เขาฟุ้งซ่าน
ครั้งล่าสุดที่กังวลเกี่ยวกับเรือนร่างของเฟิ่งชิงเฉิน มันทำให้เสด็จอาเก้าโชคร้ายเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เป็นการด้อยค่าตัวเอง แต่ยังทำให้พ่อบ้านของเขาเกิดความสงสัย เสด็จอาเก้ารู้สึกหดหู่ใจ แต่เรื่องพวกนี้มันไม่สามารถอธิบายออกมาได้ เนื่องจากยิ่งอธิบายก็ยิ่งมีแต่ทำให้คนสงสัยเข้าไปอีก
ครั้งนี้เสด็จอาเก้าไม่คิดจะปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปง่าย ๆ กอดนางไว้ในอ้อมแขน จากนั้นพลิกตัวขึ้น นิ้วมือของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ดึงผ้าคลุมเตียงออก แสงเทียนจาง ๆ ส่องผ่านผ้าคลุมเตียง ทำให้ฉากดังกล่าวเต็มไปด้วยความคลุมเครือ
เฟิ่งชิงเฉินถูกเสด็จอาเก้าจูบจนเสียสติ และลืมนึกไปว่าเวลานี้ในห้องยังมีแสงสว่างอยู่ แต่เมื่อเสด็จอาเก้าถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นของนางออกมาแล้ว ในตอนที่แยกขาทั้งสองข้างของนางออก นางก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและรีบถีบเสด็จอาเก้าออกไปทันที
“ไฟ ดับไปเดี๋ยวนี้”
“อ่า” เสด็จอาเก้าตอบรับ แต่ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ทำเรื่องที่ตนเองต้องการต่อไป มือข้างหนึ่งจับเอวของเฟิ่งชิงเฉิน ทำให้ร่างกายของนางโค้งงอขึ้น มืออีกข้างลูบไปด้านหลังของเฟิ่งชิงเฉิน ค่อย ๆ เคลื่อนย้ายลงมาด้านล่าง......
“อย่า อย่านะ......” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นสีแดง ในตอนที่เสด็จอาเก้าเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายของนาง นางรีบหลบอย่างรวดเร็ว ชี้ไปที่แสงไฟอย่างดื้อดึง “ดับไฟ”
“ครั้งหน้า” เสด็จอาเก้าเห็นว่าไม่อาจทำให้เฟิ่งชิงเฉินเลอะเลือนได้ จึงพูดอย่างสบาย ๆ ถูมือบนลงบนร่างกายของเฟิ่งชิงเฉินอย่างอดทน หยอกล้อบริเวณที่อ่อนไหวของเฟิ่งชิงเฉินครั้งแล้วครั้งเล่า
หากวันนี้ไม่สามารถทำให้เฟิ่งชิงเฉินนอนกลิ้งอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดได้ เช่นนั้นก็อย่ามาเรียกเขาว่าตงหลิงจิ่ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ไม่ต่อให้จบเหรอคะ นานแล้ว แวะมาบอกกล่าวกันบ้าง...
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...