เสด็จอาเก้าเป็นคนที่พูดจริงทำจริง หากวันรุ่งขึ้นเฟิ่งชิงเฉินยังสามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้อย่างสบาย ๆ เขาก็คงไม่มีวันปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปอย่างแน่นอน
เป็นเวลานาน เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนั้นเกือบทั้งคืน หากเสด็จอาเก้าไม่ต้องเข้าไปในราชสำนักในช่วงเช้า เขาก็คงไม่มีทางปล่อยเฟิ่งชิงเฉินไปเป็นแน่ ผู้ชายมี มีกังฟู แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าผู้ชายทั่วไป
ก่อนที่เสด็จอาเก้าจะจากไป เขาได้ประทับรอยจูบของเขาลงบนหว่างคิ้วของเฟิ่งชิงเฉิน เฟิ่งชิงเฉินตะคอกและผลักเสด็จอาเก้าออกมาอย่างหมดความอดทน พลิกตัวพร้อมกับนอนกอดผ้าห่มในอ้อมแขน เห็นได้ชัดว่านางไม่อยากสนใจเสด็จอาเก้า
เสด็จอาเก้าเองก็ไม่ได้สนใจ เดินออกไปด้านนอกด้วยใบหน้าแห่งความพอใจ เมื่อออกมากด้านนอก ใบหน้าอันเยือกเย็นของเขาก็กลับมาแทนที่ ความเร็วในการเปลี่ยนอารมณ์ของเขาช่างน่าตกใจ
หน้าประตู เสด็จอาเก้าหยุดอยู่ชั่วขณะ สายลับปรากฏตัวออกมาอย่างรวดเร็ว คุกเข่าลงข้างหนึ่งและกล่าวว่า “นายท่าน”
“ห้ามให้ใครรบกวนแม่นางทั้งนั้น”
“ขอรับ”
หลังจากมอบหมายหน้าที่ เสด็จอาเก้าก็เดินทางออกไปจากจวนเฟิ่งทางประตูหลัก ซึ่งเกือบทำให้พ่อบ้านตกใจจนตาย
ปกติแล้วเสด็จอาเก้าจะมาค้างคืนอยู่ที่จวนเฟิ่ง เมื่อฟ้าสางถึงจะกลับจวน และเดินทางจากจวนของตนเองไปยังราชสำนัก แต่วันนี้เสด็จอาเก้ากลับไม่สนใจ เขาเดินทางออกจากประตูหลังของจวนเฟิ่งโดยตรง
มันไม่เพียงทำให้คนในจวนเฟิ่งตกใจเท่านั้น แต่มันยังทำให้เพื่อนบ้านของเฟิ่งชิงเฉินตกใจ แต่ละคนรีบโผล่หัวออกมา
“เสด็จอาเก้าจริง ๆ งั้นหรือ?”
“เสด็จอาเก้ามาค้างแรมอยู่ที่จวนเฟิ่ง?”
“ข้าไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม เสด็จอาเก้าออกมาจากจวนเฟิ่ง! นี่เข้ากำลังจะไปราชสำนักอย่างนั้นหรือ?”
......
ที่ตั้งของจวนเฟิ่งนั้นดีมาก มีคนใหญ่คนโตอยู่ล้อมรอบทั้งทางด้านซ้ายและขวา มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการเข้าไปยังพระราชสำนักในช่วงเช้า เสด็จอาเก้าเดินทางออกมาจากจวนเฟิ่ง มันก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงคนเหล่านี้ และก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงคำพูดต่าง ๆ ที่จะตามมา
เรื่องพวกนี้เฟิ่งชิงเฉินไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ตอนนี้นางยังคงหลับอยู่ ในตอนเช้า ชุนฮุ่ยและชิวฮว่าเข้ามาปลุกเฟิ่งชิงเฉิน แต่ถูกสายลับไล่ออกไป ตอนเที่ยงเซี่ยหว่านและตงชิงเข้ามาปลุกเฟิ่งชิงเฉินไปทานข้าวเที่ยง แต่พวกนางก็ยังถูกสายลับไล่กลับไปเช่นเคย เมื่อถึงตอนค่ำ......
แคก แคก ในตอนค่ำ ทงจือและทงเหยายกอาหารเย็นมาให้ เฟิ่งชิงเฉินทานอาหารเย็นอยู่ในห้อง
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ ตอนแรกเฟิ่งชิงเฉินคิดจะออกมาเดินเล่นด้านนอกเพื่อย่อยอาหาร สุดท้ายนางกลับรู้สึกปวดเอว ไม่เหมือนกับตัวเองเอาเสียเลย เฟิ่งชิงเฉินรู้สึกหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ทำได้เพียงเอนกายลงบนเตียง และพูดคุยกับทงจือและทงเหยาถึงเรื่องราวที่กำลังเป็นที่พูดถึงในเมืองหลวง
เฟิ่งชิงเฉินสั่งให้ทงจือและทงเหยาเอาใจใส่เรื่องของฉู่ฉางฮว๋าเป็นพิเศษ หากด้านนอกมีข่าวลืออะไรไม่ดีกับซือสิง ต้องรีบลงมือควบคุมในทันที ไม่อาจปล่อยให้ข่าวลือดังกล่าวแพร่งพรายออกไปเป็นวงกว้างได้
“พวกข้าเข้าใจแล้ว” ทงจือและทงเหยารู้ดีกว่าในใจของเฟิ่งชิงเฉินนั่นซุนซือสิงสำคัญถึงเพียงใด นอกจากซุนซือสิงจะใช้แซ่คนละแซ่กับเฟิ่งชิงเฉิน ที่เหลือเฟิ่งชิงเฉินก็ปฏิบัติกับซุนซือสิงเหมือนกับน้องชายคนหนึ่ง
“คุณหนู เมื่อตอนกลางวันคุณชายซือสิงถามถึงท่าน และนายน้อยเจ๋อเจ๋อเองก็เป็นห่วงท่านมาก ท่านจะไปพบพวกเขาหน่อยหรือไม่?” ทงจือนึกถึงความเป็นห่วงของซุนซือสิง จึงเอ่ยปากออกมา
“บูม......” ใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉินกลายเป็นสีแดง กล่าวด้วยความรำคาญใจ “พวกเจ้าพูดกับคุณชายซือสิงไปว่าอย่างไร?”
ทงจือและทงเหยาเห็นใบหน้าที่เขินอายของเฟิ่งชิงเฉิน พวกนางปิดปากและยิ้ม “คุณหนูวางใจ พวกข้าบอกว่าเมื่อคืนคุณหนูเป็นหวัด”
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว” เฟิ่งชิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่อยากให้ซุนซือสิงรู้เรื่องพวกนี้จริง ๆ ว่าเหตุใดนางถึงไม่สามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้ มันช่างน่าอายยิ่งนัก
“แต่ดูเหมือนว่านายน้อยเจ๋อเจ๋อจะไม่เชื่อสักเท่าไหร่” หัวใจของทงจือสั่นไหวโดยไม่รู้สาเหตุเมื่อนึกถึงแววตาที่ดูเหมือนจะรู้ทุกอย่างของเจ๋อเจ๋อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ
ขอบคุณน่ะค่ะที่ต้องอดหลับอดนอนอัพเดต สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ ผู้อ่านก็ไม่ได้หลับได้นอนเหมือนกัน ติดงอมเลย...
ง่ายๆๆยึดอำนาจ...
มาต่อได้ไหมมมมมมมม พลีสสสสสสสสสสสสสสสสส...
Update ให้หน่อยค่ะ จอดอยู่ที่ 1430 นานแล้ว ขออีกสัก 29 ตอนนะคะ Pleaseeeeee Admin ที่น่ารัก...
ไม่อัพเดตแล้วหรอค่ะ...
สามารถซื้ออ่านผ่านช่องทางไหนได้บ้างค่ะ...
ไทม์ไลน์บอก อัพถึง บท1459 แต่ยังดูได้แค่ บท1430...
Update ให้หน่อยคร่า รออ่านอยู่ คร่า...
ไม่ Update นานแล้ว ไปเที่ยวเพลินเลย สงสารคนรอเถอะ เข้ามาทุกวัน อ่านช้ำไป 2 รอบแล้ว...
ตอนที่ 1425 หายไปค่ะ...