นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1105

ไม่ว่าจะเป็นแผนการหรือกลอุบาย ทุกอย่างล้วนมีช่องโหว่ทั้งนั้น แต่ครั้งนี้เสด็จอาเก้าไม่ได้ใช้แผนการหรือกลอุบายแต่อย่างใด เขาแค่คำนวณจากใจคนเท่านั้น

เสด็จอาเก้าคำนวณความคิดของโจวอ๋องและเจ้าเมืองฉู่ได้อย่างแม่นยำ ในวันนั้น ทั้งสองคนได้พูดคุยกันเดียวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โจวอ๋องขอให้เจ้าเมืองฉู่สนับสนุนเขาในเรื่องของการแย่งชิงตำแหน่ง เขารับปากว่าจะให้ฉู่ฉางฮว๋าได้ครองตำแหน่งฮองเฮา และมีเพียงลูกชายของฉู่ฉางฮว๋าเท่านั้นที่สามารถสืบทอดตำแหน่งต่อไปได้

แน่นอน คำสัญญาของโจวอ๋องจะบรรลุผลก็ต่อเมื่อเขาได้ครอบครองบัลลังก์แล้วเท่านั้น แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ฉู่ฉางฮว๋าและเจ้าเมืองฉู่ต้องการ ไม่ว่าอย่างไรฉู่ฉางฮว๋าก็ต้องเป็นพระชายาโจวอ๋อง หากต้องการความยิ่งใหญ่ที่มากกว่านี้ก็ต้องก้าวไปให้ถึงตำแหน่งนั้นเท่านั้น

โจวอ๋องและเจ้าเมืองฉู่ตกลงเป็นพันธมิตรกันเรียบร้อย ความดีความชอบในครั้งนี้จะต้องเป็นของเขา

เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากการถกเถียงกันของแต่ละฝ่าย พวกเขาได้ตกลงกันว่าจะแบ่งผลประโยชน์กัน แต่หลังจากโจวอ๋องเอ่ยปากว่าจะร่วมรบ การกระทำของพวกเขาเหล่านั้นก็ไร้ค่า

โจวอ๋องเอ่ยปากด้วยตนเองว่าต้องการร่วมรบ และยังกล่าวอีกว่าเมืองฉู่จะสนับสนุนเรื่องเสบียงให้ก่อน ตงหลิงแค่ส่งกำลังทหารออกไปเท่านั้น

ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเสบียง นำไปแค่เสบียงที่เหล่าทหารใช้ดื่มกินระหว่างทาง แบบนี้สามารถช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมเสบียงและงบประมาณได้เป็นจำนวนมาก ลดเวลาในการนำทัพออกไปเพื่อให้เกิดข้อได้เปรียบในสงคราม

และเมืองฉู่ยังให้คำสัญญาอีกว่า หากโจวอ๋องออกศึก ในตอนที่ตงหลิงต้องการ เมืองฉู่ก็พร้อมที่จะให้ยืมกำลังได้ทุกเมื่อ

เมื่อคำพูดนี้ออกไป ท้องพระโรงก็เงียบในทันที ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่หรือขุนนางผู้ไหนก็ไม่กล้าเอ่ยปาก และไม่มีใครกล้าแก่งแย้งกับโจวอ๋อง ผู้นำทัพในครั้งนี้คือโจวอ๋อง และซีหลิงจะต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย

โจวอ๋องร่วมรบ เจ้าเมืองฉู่ให้ความช่วยเหลือ จักรพรรดิมีความสุขเป็นอย่างมาก เขาออกพระราชโองการในทันที แต่งตั้งให้โจวอ๋องเป็นแม่ทัพใหญ่ นำกองกำลังแสนนายไปยังเมืองเหลียนเฉิง เพื่อช่วยขจัดภัยร้ายจากซีหลิงให้แก่เมืองเหลียนเฉิง

เหล่าขุนนางเต็มไปด้วยความผิดหวัง แอบคิดในใจว่าโอกาสได้หายไปแล้ว ในหมู่ของพวกเขา ลั่วอ๋องคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุด รอยยิ้มของลั่วอ๋องโหดร้ายและบิดเบี้ยว กัดฟันและพูดกับโจวอ๋องว่า “ขออวยพรให้เสด็จพี่ห้าได้รับชัยชนะกลับมา”

หลังจากสูญเสียโอกาสในการแย่งชิง ใบหน้าขององค์ชายรองและองค์ชายสามก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความประจบสอพลอ เข้าไปเชื่อมความสัมพันธ์กับโจวอ๋อง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยู่ฝั่งเดียวกับโจวอ๋อง

ใบหน้าของเสด็จอาเก้ายังคงไร้ซึ่งความรู้สึก ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้เหมือนว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาเลย ไม่ว่าขุนนางแย่งชิงกันดุเดือดเพียงใด หรือแสดงความยินดีกับโจวอ๋องเช่นไร เสด็จอาเก้าต่างไม่สนใจ เขาเดินออกจากพระราชวังที่วุ่นวายเพียงลำพัง

เสด็จอาเก้าเดินออกจากพระราชวัง มองไปที่ท้องฟ้าสีครามด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา

เวลานี้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตงหลิงต่างเป็นไปตามแผนการของเขา เหลือเพียงแค่ซีหลิง ไม่รู้ว่าทางด้านของผู้อาวุโสหยินหลี่และซีหลิงเทียนอวี่เป็นอย่างไรบ้าง

เสด็จอาเก้ามองไปยังที่ตั้งของซีหลิง ก่อนที่คนอื่นจะสังเกตเห็น เขาเก็บสายตาของเขากลับมาและเดินขึ้นไปบนรถม้าของตนเอง

แม้ว่าเรื่องราวในซีหลิงจะไม่ได้ราบรื่นเหมือนกับเรื่องราวในตงหลิง แต่มันก็ไม่ได้ต่างกันมาก

การปราบทหารตามฝั่งชายแดงของซีหลิงเทียนอวี่นั้นไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก และทหารเหล่านั้นก็พยายามปฏิเสธซีหลิงเทียนอวี่ในทุกรูปแบบ

อาการป่วยที่ขาของซีหลิงเทียนอวี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาไม่อาจได้รับความเคารพจากเหล่าทหารในกองทัพได้ หากซีหลิงเทียนอวี่ต้องการความเคารพจากเหล่าทหาร เขาจำเป็นจะต้องใช้สมองที่มีอยู่ของเขา แต่หากไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น ต่อให้เจ้ามีพรสวรรค์แค่ไหนก็ไม่มีโอกาสได้ใช้มันให้เกิดประโยชน์

อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสหยินหลี่เป็นคนใส่ยาให้ซีหลิงเทียนเหล่ย ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำให้ความไว้วางใจที่จักรพรรดิซีหลิงมีต่อซีหลิงเทียนเหล่ยสั่นคลอนขึ้นอีกครั้ง

ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดิล้วนเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซีหลิงเทียนเหล่ยที่เคยมีประวัติอันเลวร้ายมาก่อน เมื่อได้ยินคำใบ้ที่ไม่ชัดเจนของผู้อาวุโสหยินหลี่ ทำให้จักรพรรดิแห่งซีหลิงอดนึกถึงสิ่งที่ซีหลิงเทียนเหล่ยทำตอนที่อาการป่วยของเขากำเริบไม่ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ