นางสนมแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 1107

ห้องพระโรงเงียบสงัด เหล่าขุนนางและแม่ทัพต่างกลั้นหายใจ เหงื่อหยดลงมาจากศีรษะของพวกเขา กลัวว่าหากตนเองไม่ระวังอาจจะถูกทำให้เข้าไปเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง

เหล่าขุนนางไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองจักรพรรดิที่อยู่เบื้องบน พวกเขาต่างจับจ้องไปที่ผู้อาวุโสหยินหลี่ราวกับว่าทุกคนมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิและเหล่าขุนนาง ผู้อาวุโสหยินหลี่ยังคงเงียบสงบเหมือนกับตอนแรก คุกเข่าอยู่ที่เดินไม่เคลื่อนไหว ดูชอบธรรมและน่าเกรงขาม แม้แต่จักรพรรดิเองก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเขา

หากเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ประกอบกับเป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ จักรพรรดิคงคิดว่าผู้อาวุโสหยินหลี่คิดที่จะจัดการกับองค์รัชทายาทตั้งแต่แรกแล้ว

ชื่นชมก็คือชื่นชม เรื่องที่ต้องทำก็ยังต้องทำอยู่ จักรพรรดิระบายความโกรธทั้งหมดใส่ผู้อาวุโสหยินหลี่ “ใต้เท้าหลิน เจ้าช่างกล้าดีเสียเหลือเกิน การใส่ร้ายองค์รัชทายาทมีโทษถึงตาย เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าจะประหารเจ้าเก้าชั่วโคตร”

ความโกรธของจักรพรรดิไม่ใช่ว่าผู้ใดก็สามารถรับไหว แม้ผู้อาวุโสหยินหลี่จะรู้ว่านี่เป็นเพียงการแสดงของจักรพรรดิ แต่เขาก็ยังรู้สึกตกใจกับคำขู่ของจักรพรรดิ ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว

ผู้อาวุโสหยินหลี่แอบถอนหายใจ ความหวาดกลัวในใจของเขาสงบลง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ “ฝ่าบาท ข้าไม่ได้ใส่ร้าย องค์รัชทายาทมีความผิดจริง ๆ ฝ่าบาทได้โปรดให้โอกาสข้าได้พิสูจน์ความจริงสักครั้ง”

“เจ้าช่างกล้าเสียเหลือเกิน ในเมื่อเจ้ากล้ากล่าวหาว่าองค์รัชทายาทมีความผิด ได้......เช่นนั้นข้าจะมอบโอกาสให้เจ้า หากสิ่งที่เจ้าพูดออกมานั้นไม่ได้ความ ข้าจะประหารเจ้าเก้าชั่วโคตร” จักรพรรดิและขุนนางคนสนิทสลับกันเล่นละคร ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ได้อย่างสมบูรณ์

ในตอนนี้ ผู้ที่พอมีสมองก็สามารถเข้าใจได้ บางคนชอบ บางคนเกลียด แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร พวกเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากขึ้นมาแทรก เวลานี้ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับคำพูดของจักรพรรดิ

ผู้อาวุโสหยินหลี่ลุกขึ้นมาจากพื้น ขาทั้งสองข้างของเขาสั่นเทา โค้งคำนับจักรพรรดิและกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม้ว่าเรื่องที่องค์รัชทายาทต้องการหาของขวัญวันเกิดให้ฝ่าบาทจะเป็นความกตัญญู แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่เขาเคลื่นกองทัพลับหลังฝ่าบาท บุญคุณย่อมได้รับการตอบแทน แต่ผู้ทำผิดต้องรับโทษ การยกทัพออกไปเป็นการส่วนตัวทำให้เสียทั้งคน เสียทั้งเงิน ไม่เห็นฝ่าบาทอยู่ในสายตา เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งความซื่อสัตย์และความกตัญญู บีบคั้นเมืองเล็ก ๆ ด้วยกำลังที่เหนือกว่า สังหารผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ความเป็นธรรมเหมือนไม่ได้รับการสั่งสอน เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะปล่อยให้คนที่ไร้ซึ่งคุณธรรมและโหดร้ายเช่นนี้ได้เป็นองค์รัชทายาท ข้าขอให้ฝ่าบาทเรียกตัวองค์รัชทายาทกลับมา และปลดพระองค์ลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาท!”

คำพูดแต่ละคำของผู้อาวุโสหยินหลี่นั้นฟังดูเศร้าสลด ราวกับสิ่งที่ซีหลิงเทียนเหล่ยทำลงไปนั้นเป็นเรื่องที่เกินกว่าจะยอมรับ และเขาก็ไม่อาจซ่อนมันได้

แม้ผู้อาวุโสหยินหลี่เดาได้ว่าจักรพรรดิต้องการส่งตัวองค์รัชทายาทเหล่ยออกไปเพื่อขจัดปัญหาที่สามประเทศและแปดเมืองยกทัพมาโจมตีซีหลิง แต่การแสดงออกมาเบื้องหน้านั้นจะต้องสมบูรณ์แบบ ไม่อาจทำให้จักรพรรดิเสียหน้าได้

“ข้าเห็นด้วยกับความคิดของผู้อาวุโสหยินหลี่ ฝ่าบาทได้โปรดปลดพระองค์จากตำแหน่งองค์รัชทายาท” พระราชวังไม่ไร้ซึ่งคนฉลาด เหล่าขุนนางรีบให้ความร่วมมือทันที

ขุนนางในฝ่ายขององค์หญิงใหญ่ได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนกับได้ยินสิ่งที่ถูกใจ ไม่ว่าจักรพรรดิจะมีความคิดเช่นไร เมื่อได้ยินว่าผู้อาวุโสหยินหลี่ต้องการปลดองค์รัชทายาท พวกเขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังกว่าใคร

ขุนนางทางฝั่งของซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการเปลี่ยนกระแสส่วนรวม แต่เสียงของพวกเขาถูกกลบไปด้วยเสียงของฝ่ายที่ต้องการปลดองค์รัชทายาทลงจากตำแหน่ง เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิไม่ต้องการที่จะหยุดคนเหล่านี้เลย ขุนนางทางฝั่งขององค์รัชทายาทเหล่ยก็รู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด ทำได้เพียงนั่งคุกเข่าอยู่ที่เดิม

หายนะครั้งนี้ องค์รัชทายาทเหล่ยจะต้องแบกรับมันเป็นแน่ มีเพียงส่งตัวองค์รัชทายาทเหล่ยออกไปเท่านั้นถึงจะสามารถระงับความโกรธของราษฎรและระงับการร่วมมือกันของสามประเทศและแปดเมืองเอาไว้ได้

ทั่วท้องพระโรงมีแต่เสียงกล่าวหาซีหลิงเทียนเหล่ยว่าเป็นผู้กระทำความผิด แม้กระทั่งเรื่องอาการป่วยของจักรพรรดิก่อนหน้านี้ก็ถูกยกให้เป็นความผิดของซีหลิงเทียนเหล่ยเช่นกัน บอกว่าซีหลิงเทียนเหล่ยต้องการสังหารเสด็จพ่อของตนเอง

จักรพรรดิซีหลิงจ้องมองผู้อาวุโสหยินหลี่ด้วยแววตาที่พึงพอใจ หลับตาลง ปกปิดความคิดในหัวใจ ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า น้ำเสียงของเขาสั่นเทา

“องค์รัชทายาทของข้า! คิดไม่ถึงเลยว่า องค์รัชทายาทที่ข้าเลี้ยงดูมาเป็นเวลายี่สิบปีกลับไร้ซึ่งคุณธรรมเช่นนี้ ข้ารู้สึกผิดหวังยิ่งนัก”

ความรู้สึกผิดหวังของจักรพรรดิ เหล่าขุนนางในพระราชวังต่างรู้ดี ผู้อาวุโสหยินหลี่แอบเย้ยหยันในใจ แต่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า ทำได้เพียงเกลี้ยกล่อมจักรพรรดิให้ดูแลรักษาร่างกายให้ดี อย่าได้เศร้าเสียใจไปกับเรื่องขององค์รัชทายาทเหล่ย

เหล่าขุนนางและแม่ทัพเหมือนกับพวกที่เสพติดการแสดง ทันทีที่ผู้อาวุโสหยินหลี่พูดจบ จักรพรรดิซีหลิงก็เศร้าเสียใจ ร้องไห้ออกมาจนเกือบสิ้นลมหายใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: นางสนมแพทย์อัจฉริยะ